ผมใส่ซองให้เพื่อนครับ

แล้วก็ซื้อของกินให้แม่ด้วย

ส่วนพ่อผม ท่านกลับสู่ธรรมชาติไปแล้ว

เข้าใจ​จขกท​ครับ​ หลายๆคนแคร์​เพื่อนกันมากติดเพื่อน​กันมาก แต่อยากให้รู้​ ครอบครัวครับคือกลุ่มคน​ที่เราควรเอาใจใส่ที่สุด​ เขาจะไม่ทิ้งและหักหลังเราแน่นอน
เรื่อง​ซองงานแต่งผมผ่านเคสทุเรศ​ๆมาเยอะกับเพื่อนร่วมงาน​ เช่นมาฝีกงานเดือนนึงแล้วไปประจำสาขาอื่นยังมาแจกซอง​ หรือที่บ่อยคือจัดงานแต่งต่างจังหวัดวันธรรมดา​ ใครจะไปได้ครับ​ หรือลาออกไปแล้วยังมาแจกซอง
งานแต่งผม ผมไม่บอกใครในที่ทำงานสักคนครับ​ ไม่คิดเรื่องถอนทุนคืนอะไรทั้งสิ้น​ เพื่อน​เก่าทุกคนที่​ ณ​ ตอนแต่งไม่ได้พบได้เจอหรือขาดการติดต่อ​ไปก็ไม่เชิญครับ​ เพราะเราไม่รู้​สถานะเขาตอนนั้น​ ไม่อยากรบกวน

มนุษย์ไม่ใส่ซองครับ
งานแต่ง ถ้าไม่ได้ไปร่วมงานสนิทแค่ไหนยังไงก็ไม่ใส่
งานศพ นี่ถ้าสนิทจริงๆ ไม่ได้ไปร่วมงานก็ฝากเพื่อนคนอื่นใส่ให้
ส่วนงานบุญทั้งหลายผมไม่ร่วมเลย เพราะชอบการใส่เงินทำบุญ

ใครจะเคือง จะไม่พอใจอะไร มองว่าผมเห็นแก่ตัวก็แล้วแต่เลย
เพราะถ้าเป็นงานผม ผมไม่คาดหวังให้เพื่อนมาใส่ซองอะไรให้ทั้งนั้น
แค่เขามาก็เป็นอะไรที่ใจที่สุดแล้ว จะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องซองมันก็น่ากลับมาคิดว่า
เราให้คุณค่ากับคำว่า "เพื่อน" ยังไงกันแน่

ผมว่าวัฒนธรรมใส่ซองนี่มันวิปริตจริงๆนะ ผมไม่ชอบเลย แต่ใส่ให้เพื่อนตลอดนะ คิดว่าไม่ควรมีอะ ไม่เห็นประโยชน์ เป็นแค่สิ่งที่ทำต่อๆกันมา

ผมว่าต้องแยกแยะระหว่างใส่ซองให้เพื่อ "สมทบทุนงาน" กับใส่ซองเพื่อ "ช่วยเพื่อน"

ถ้าคุณไม่ได้ไปงาน ไม่ใส่ ไม่เป็นไร อันนี้ปกติ

แต่ถ้าคุณไปงาน ไปกินของในงานเขา ยังไงก็ควรใส่ไว้เล็กน้อย โอเคคุณอาจจะมองว่ากูไม่ช่วยเหลือมึงนะ เพราะมึงไม่ช่วยกูเลยตอนนั้น แต่นี่มันคนลงเรื่องกัน

เราใส่เพื่อให้ไม่เป็นความรู้สึกที่แย่ของเรา(ไปกินฟรี) และเจ้าของงานก็ไม่รู้สึกแย่(ว่าคุณมากินงานเขาแต่ไม่ช่วยงาน)

ถ้าไปงานเค้า ยังไงก็ต้องแยกกันนะผมว่า หรือแค่ไปยินดีแล้วกลับ แบบนั้นก็ไม่ต้องใส่

ถ้าไปผมใส่แน่นอน

ถ้าสนิทมากแต่ไม่ไป ก็ยังใส่

ถ้าแค่รู้จักและไม่ไป ไม่ใส่

ยิ่งพวกแจกซองให้เรา เพื่อหวังเราใส่ซองแต่ไม่หวังให้ไปงานเนี่ย ไม่ได้แดกกูหรอก

ผมจะดูเป็นคนๆ เคสๆไปครับ คนไหนที่เรารู้สึกว่าเออคนนี้แม่มดี ช่วยเหลือกันตามสมควร เคยร่วมทุกข์สุขกันมา อันนี้ใส่

แต่ถ้าคนที่ผมไม่ได้รู้สึกดีด้วยก็เลือกไม่ใส่ละไม่ไปครับ

สมัยติดเพื่อนเคยแคร์เพื่อนมากๆ จนโดนกับตัวเองเหมือนกันครับที่เพื่อนเลือกที่จะเฉยเมยใส่ ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่

ผมถือคตินี้เสมอว่า คุณยังไงมาเราก็จะทำอย่างนั้นกลับ

ไม่ครับ ถ้าไม่ได้ไป(กรณีไม่สนิท)ผมก็ไม่ใส่ ให้ซองมาผมก็ไม่ใส่ อย่าได้แคร์ครับ
เพราะตอนลำบาก ก็เหมือน จขกท เจอหน้ามันยังไม่ทักเลย พอเห็นเราโหงวเฮ้งเริ่มดีหละทำเป็นตีสนิท เจอมาเยอะครับ ชีวิตผมขึ้นลงบ่อย 555555

เพื่อนสนิทผมใส่ตลอด ถ้าไม่สนิทผมพยายามลองนึกดูว่าเค้าเคยช่วยเหลือเรา หรือผ่านช่วงเวลาอะไรมาด้วยกัน ถ้ามี ถึงไม่สะดวกไปก็จะฝากซองไปตลอด

เพื่อนสนิท ถ้าได้ไปหรือไม่ได้ไป ผมให้ตลอด มากน้อยอยู่กับความสนิท อย่างน้อยก็เป็นสินน้ำใจ ก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน

งานศพ พ่อ แม่ งานบวช เพื่อน ใส่หมด มากน้อย ตามความสนิทเหมือนกัน

มะวานก็เพิ่งใส่คับ ขนาดไม่สนิทมาก หลวมใส่ไปเยอะเลย

พอมองซองคนอื่นละก็รู็สึก กูไม่น่าใส่เยอะเลย T^T

ใจจริงนี่อยากให้ไม่มีการใส่ซองด้วยซ้ำ
คือจัดก็จัดกันเอง มาตั้งโต๊ะรับซองแม่งดูตลก พอๆกะงานบวช งานศพ ต้องใส่ซอง มีคนส่งซองให้

ถ้างานผมผมไม่เอาซักบาท บอกเพื่อนเลยไม่ต้องใส่
แต่พวกรุ่นพ่อรุ่นแม่คงห้ามไรไม่ได้

ไปงานแต่งเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตมาล่าสุดใส่ครับ
ไม่มากไม่มาย เงินเดือนเราไม่สูง ภาระเราเยอะ

ก็พอจะช่วยงานเท่าที่ช่วยได้เต็มที่
สงสารเพื่อนอยู่พอรู้ว่าค่าจัดงานเท่าไหร่

แต่ถ้าถึงคิวผมแต่งเมื่อไหร่เพื่อนสนิทผมบอกเลยทุกคน
ไม่ต้องใส่ซองกูจงใจเลี้ยง กูอยากให้เพื่อนๆมาเจอกัน
ตั้งแต่มัธยม มหาลัย
จะพยายามจัดงานไม่เกินตัว แต่รับประกันเครื่องดื่มถึงแน่นอน

อยากให้วัฒนธรรมการใส่ซองมันหายตายจากไปได้แล้ว
มันเป็นการทำให้คนสนิทกันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ใส่น้อยก็เกรงใจ ใส่มากก็ใช้ชีวิตลำบากอีก

จะงานศพ จะแต่งงาน บวช
ถ้าเป็นงานของผมไม่ต้องใส่ ผมไม่ต้องการ