BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
โค้ช B-License
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Apr 2015
ตอบ: 14291
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 11:16
Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”


สรุปคร่าว ๆ จาก clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”

• เป็นเวทีที่นักศึกษาแพทย์และอาจารย์จากมหาลัยแพทย์ริมน้ำมาพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น

• ปัญหาคร่าว ๆ ที่ list มาประกอบด้วย การถูกคุกคามทางเพศ และ วัฒนธรรมกินหัวของอาจารย์ที่มีต่อนักศึกษาแพทย์ (นศพ.)

• การถูกคุกคามทางเพศจากเพื่อนนักศึกษาและอาจารย์ ในประเด็นนี้นักศึกษาออกมาเล่าเรื่องที่ตนเองเคยถูกคุกคามทางเพศจากเพื่อนและร้องเรียนไปยังคณะแต่คณะเองนิ่งเฉย หรือไม่ได้ติดตามอย่างจริงจัง ซ้ำยังบอกว่า “อยากให้ให้อภัยกัน”

• “วัฒนธรรมกินหัว” จากรุ่นพี่และอาจารย์ วัฒนธรรมกินหัวหมายถึง วัฒนธรรมอำนาจนิยมในโรงเรียนแพทย์

• เช่น อาจารย์และรุ่นพี่มีอำนาจเหนือนักเรียนคนอื่นๆ “น้องต้องฟังพี่เสมอ” หมอคนหนึ่งแชร์ว่าตอนตนเองเรียนแพทย์ประจำบ้าน มีวันนึงที่ตอบคำถามที่หัวหน้านักเรียนแพทย์ประจำบ้านตอบไม่ได้ อ.เลยบอกว่า “ทำแบบนี้ไม่ดีกับเธอนะ ทีหลังตอบได้ก็อย่าตอบ เดี๋ยวพี่เขาเสียหน้า”

• วิธีการเรียนการสอนที่มีวัฒนธรรมความรุนแรง ผ่านการใช้คำพูดและการปฏิบัติที่มีทั้งการทารุณกรรมทางจิตใจเช่น เรียกนศพ.คนหนึ่งว่า “ไอ้อ้วน ไอ้หมูตอนมึงอ่านรายงานแบบนี้ได้ยังไงวะ” จนทำให้นักศึกษาคนนั้นกลัวทุกครั้งเวลาเดินผ่าน ward ที่ไปเทรนมาและไม่อยากตื่นไปเรียนเลย

• มีการละเลยทอดทิ้ง เช่นการคัดเลือกการเข้าเรียนต่อที่มีอคติ มีคนนึงยกประเด็นว่าเพื่อนตนเองถูกปฏิเสธการศึกษาต่อแพทย์ประจำบ้านเนื่องจาก “แสดงออกทัศนคติทางการเมืองใน twitter” และอ.คนดังกล่าวตามไป lobby โรงเรียนแพทย์อื่นไม่ให้รับหมอคนนี้เข้าเรียนต่อด้วย ซึ่งเขาเห็นว่าไม่มีใครควรเลือกถูกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งความคิดเชื่อทางการเมืองที่ต่างออกไป

• อ.หลายท่านที่อยู่ก็ได้มีโอกาสชี้แจงนโยบายต่าง ๆ อ.บอกว่าคณะกำลังดำเนินการนู่นนี่ อ.มักบอกว่า “เด๋วเก็บประเด็นไปและดำเนินการต่อ” “คณะได้ดำเนินการหลายอย่างมากกว่าในอดีตแล้ว” แต่นักศึกษามีประเด็นอยู่ที่ว่า “คณะมักบอกว่าเราเดินมาไกลกว่าในอดีตแต่ไม่ได้ดูเลยว่าคนอื่นเขาเดินไปถึงไหน แล้วไม่ได้คิดว่าเราควรจะไปกว่านี้ยังไงดี” มีประโยคหนึ่งที่จึ๊กนะคือ “ดูเหมือนอาจารย์จะทำอะไรมาเยอะมากนะคะกับปัญหาพวกนี้ แต่ปัญหากลับเหมือนเดิม งั้นมันควรเปลี่ยนวิธีการมั้ยคะ”

• ในนั้นมีวัฒนธรรมการกดขี่และวงล้อความรุนแรงที่วนลูป เช่นการยอมรับและสร้างความชอบธรรมให้กับความรุนแรงผ่านวาทกรรม “No pain no gain” “พี่ ๆ และอาจารย์ยังผ่านมาได้เลย ทำไมเรื่องแค่นี้รุ่นน้องยังผ่านไม่ได้” ทำให้ผู้ถูกกระทำหลายคนเติบโตมาเป็นผู้กระทำรุ่นน้องอีกครั้ง

• ประเด็นนี้หลายคนออกมาแย้งด้วยชุดความคิดใหม่ที่ว่า “No pain ก็ Gain ได้จ้า” พร้อมเสนอทางเลือกว่าเราสามารถเรียนรู้อย่างมีความสุขได้ เพราะตัววิชาหรือบรรยากาศอื่นในการเรียนก็เครียดพออยู่แล้ว ดังนั้นอาจารย์และระบบการสนับสนุนควรช่วยเหลือให้นศพ. มีสภาพแวดล้อมการเรียนที่ encourage เขาให้ได้เรียนอย่างมีความสุขและสร้างแรงบันดาลใจในการเรียน

• ปัญหาพวกนี้คณะรับรู้ เพราะมีอบรมพวกวิธีการสอน การจีดการความโกรธให้อาจารย์ มีการอบรมอาจารย์ใหม่ให้เป็นผู้ช่วยอาจารย์ก่อน แต่นักศึกษาบอกว่า “จากที่สังเกตอ.รุ่นใหม่ๆ ไม่มีปัญหาครับ ส่วนใหญ่ที่ยังกินหัวเด็กคืออาจารย์อาวุโส”

• ผลจากวัฒนธรรมแบบนี้ส่งผลให้นักศึกษาเป็นโรคทางจิตเวชโดยเฉพาะโรคซึมเศร้าที่เกิดจากระบบและวัฒนธรรมการเรียนการสอน หลายคนเลือกจบชีวิต หลายคนต้อง off training หรือต้องออกจากการเป็นนักศึกษาแพทย์ไป

• มีคนนึงขึ้นมาพูดเป็นพี่ของนักศึกษาแพทย์ที่ออกจากการเรียนไปเพราะเป็นโรคซึมเศร้า พาไปหาจิตแพทย์ที่ริมน้ำเพราะคิดว่าใช้สิทธินักศึกษาแต่จิตแพทย์กลับปฏิเสธว่าสาเหตุของโรคไม่ได้เกิดจากวัฒนธรรมและระบบการเรียน ทำให้ไม่เกิด peer-support และที่สุดน้องก็ไม่ไหว เลยต้องออก เค้าเน้นย้ำว่า “ระบบการเรียนมันสร้างความบอบช้ำทางจิตใจต่อนักเรียนอย่างมาก”

• moderator ก็ขอแชร์ว่าตนก็เคยเป็นซึมเศร้าเพราะเรียนหมอ เคยถึงขนาดที่จะกระโดดตึกแล้ว และทิ้งท้ายว่า “มัน suffer จริง ๆ ครับกับการเรียนที่นี่”

• มีคนหนึ่งออกมาสะท้อนว่า “จิตเวชควรเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้กับนักเรียนแพทย์” แต่ในทางกลับกันกลับพบกรณีที่จิตเวชวินิจฉัยผิดพลาดหรือถูกสงสัยว่าวินิจฉัยผิดพลาดโดยมีเจ้าตัวหรือเพื่อนเจ้าตัวขึ้นมาพูด เคสแรกคือถูกวินิจฉัยผิดและถูกปฏิเสธการรักษาจากโรงเรียนแพทย์นั้น กับกรณีที่สองคือกล่าวว่าเพื่อนถูกวินิจฉัยว่าเป็นจิตเภทจนต้องออกจากการเรียน แต่เพื่อน ๆ รอบตัวมั่นใจว่าเพื่อนตนเองไม่น่าจะเป็น

• สิ่งที่น่าตกใจตอนท้ายคืออ.ท่านหนึ่งบอกว่า 90% ของที่นศพ.แชร์มา อ.ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน แต่ดีที่ได้มาฟังเพราะก่อนจะแก้ปัญหาต้องยอมรับก่อนว่า “มันมีปัญหา”

• เมื่อเกิดเหตุแล้วนักศึกษารายงานไปยังคณะ แต่ไม่ได้ถูกดำเนินการและถูกติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งการสอบ และการร้องเรียนอาจารย์ แต่ประเด็นคือกระบวนการสอบสวนตั่งต่าง ก็ favor อ.ผู้ใหญ่ บางเคสแชร์ว่าตัวเองร้องเรียนนะ แต่กลับถูกมองว่า “เป็นตัวปัญหา” ซะเอง ในที่สุดคนร้องกลับถูกสอบค่าาา ทำให้นศพ.ไม่มั่นใจในระบบการร้องเรียนและตรวจสอบ ในส่วนนี้ในห้องเสนอว่า กระบวนการร้องเรียนและถูกสอบสวนควรดำเนินการโดยบุคคลที่สามที่สามารถประกันความโปร่งใสในการตรวจสอบและความปลอดภัยของผู้ร้องเรียน

• มีท่านหนึ่งออกมาแชร์ช่วงท้ายว่าตอนเรียนริมน้ำเค้าอินมากกับวัฒนธรรม “อาวุโส” แต่เมื่อได้ไปเรียนต่อเมกาชีว้าวมากพร้อมตั้งคำถามกับตัวเอง “ชั้นมาจาก Jurassic park ป่ะแว้”

• นศพ.คนหนึ่งออกมาพูดประเด็นที่ตนเองถูกเรียกไปตักเตือนและถูกตรวจสอบกรณีแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและใช้คำหยาบในสื่อออนไลน์ โดยที่เขียนมี bio ว่าเรียนแพทย์ที่ริมน้ำ เธอพูดเรื่อง Tone policing ที่มักถูกเอามาเป็นข้ออ้างในการตำหนินักศึกษามากกว่า focus ที่เนื้อความ เธอบอกว่ามีคนเตือนเธอว่า “ระวังโดนกาดาว และมี black list ที่กองกิจฯ นะ”

• อ.ท่านหนึ่งตอบว่าการตักเตือนเป็นไปด้วยความ “ปรารถนาดี” เพราะคำนึงถึงนักศึกษาและชื่อเสียงของสถาบัน นักศึกษาท่านนั้นเลยถามกลับว่าแล้วกรณีที่ “อ.บางคนใช้ชื่อริมน้ำไปเคลื่อนไหวทางการเมืองเหมือนกันนี่อ.คิดยังไง” อ.เลยตอบอื้อๆ อ้าๆ ไป เลยมีอีกคนขึ้นมาแชร์ว่า “จริงๆ พอเราพูดถึง role model นั้นตอนนี้น้องๆ นศพ.รุ่นใหม่เค้าก็แสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามรอยอ. และรุ่นพี่ที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองสมัยนู้นนั่นแหละ”

• ท่านหนึ่งให้ความเห็นว่า “ถ้าจะให้นศพ.มี เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเป็นก้าวแรกจากการออกจากวัฒนธรรมความกลัว เราต้องกลับไปทบทวนคำสั่งหนึ่งของคณะที่ส่งผลกระทบกับคนที่ไม่ใช่ “สลิ่ม” ที่ขัดขวาง freedom of speech”

• สุดท้ายโรงเรียนแพทย์ควรเริ่มด้วยการต้องมองคนเท่ากันก่อน ให้มองนศพ.เป็นเพื่อนร่วมงานไม่ใช่เบ้ หรือจุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10221022857495907&id=1076461668
แก้ไขล่าสุดโดย สายลมขย่มศีลธรรม เมื่อ Wed Feb 24, 2021 11:22, ทั้งหมด 1 ครั้ง
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 2263
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 11:30
[RE: Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”]
เคยได้ยินข่าวหมอที่เรียนต่อเฉพาะทางฆ่าตัวตาย ไม่แน่ใจว่าที่ไหนเหมือนกันนะ แต่ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแน่ๆที่เกิดขึ้น
ไม่รู้วัฒนธรรมกดขี่พวกนี้มีส่วนรึป่าว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 25636
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 11:37
[RE: Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”]
วัฒนธรรมวรรณะ ที่ยกตัวเองว่าสูงส่งกว่าผู้อื่น

หมอก็คืออาชีพหนึ่ง
ทำงาน ได้เงิน(จำนวนมาก)

และบางคนก็เอามาทวงบุญคุณ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 29600
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 11:43
[RE: Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”]
เป็นทั้งสายสุขภาพอะ

อำนาจนิยม

กดขี่ กินหัว ต่อกันเป็นทอดๆ

ทั้ง แพทย์ ทันตะ พยาบาล เทคนิกการแพทย์ ฯลฯ

ทั้งตอนเรียนและทำงาน suffer สุดๆ

แต่กับ แพทย์นี่หนักหน่อย แบ่งชั้น วรรณะ กันเรียบร้อย

สตาฟ เด้น เอกเทิน อินเทิน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: "ความเงี่ยน" ทำให้เรา "หายง่วง"
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 13044
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 12:11
[RE: Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”]
มีห้อง ริมสระ มั๊ยครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 884
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 12:16
[RE: Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”]
จบที่นี่มา ไม่เจอกับตัวนะ คงโชคดีด้วยแหละที่ไม่เจออะไรแย่ๆ

ปล. ผมยังย้อมผมสีน้ำตาลไปเรียนอยู่เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: ^_^
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2005
ตอบ: 16045
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 12:46
[RE: Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”]
ที่ริมน้ำนี่มี นศพ มี แพทย์ประจำบ้าน ดิ่งตึกเกือบทุกปีอ่ะ

แต่ปิดข่าวเก่งมาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Never argue with an idiot. They will drag you down to their level and beat you with experience
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 589
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 14:32
[RE: Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”]
Silence พิมพ์ว่า:
ที่ริมน้ำนี่มี นศพ มี แพทย์ประจำบ้าน ดิ่งตึกเกือบทุกปีอ่ะ

แต่ปิดข่าวเก่งมาก  

ริมน้ำนี่ตรงข้ามท่าพระจันทร์ปะคับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 149
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 16:01
[RE: Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”]
โห ตอนแรกงงตั้งนาน ริมน้ำคืออะไร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: Wildly-Vet
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 8692
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Feb 24, 2021 16:34
Clubhouse ห้อง “ริมน้ำ – อาจารย์ X นักเรียนแพทย์ : Role Model or Fear Model”
ของผมสัตวแพทย์เมื่อก่อนจารย์แกก็ดุๆหน่อยแหละ เดี๋ยวนี้ซอฟท์ลงเยอะ ซึ่งก็เป็นผลดีกับสมองและสุขภาพอาจารย์เองนะผมว่า หมอนี่หนักกว่าอีก จะมาโชว์พาวเวอร์กันทำไมไม่รู้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


#ForzaMilan #ฉันภูมิใจที่เกิดในรัชกาลที่ ๙
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel