‘คาบัค’ บวก ‘อลิสซอน’!! ‘หงส์’ ช็อกโดน 6 นาที 3 ลูกแพ้จิ้งจอก 3-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เกมสุดดราม่าเมื่อ ลิเวอร์พูล ขึงเกมเกือบข้างเดียวและได้ประตูขึ้นนำสุดสวยของ โม ซาลาห์ แต่มาเจอจุดเปลี่ยนจาก VAR และ โอซาน คาบัค ไปชนกับ อลิสซอน จน เลสเตอร์ แซงรวดเดียวภายใน 6 นาทีก่อนไหลยาว 3-1 ทำให้ “หงส์แดง” อาการหนักแพ้รวด 3 นัดจ่อหลุด top 4 เต็มแก่แล้ว
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 3-4-2-1
8.
ยูรี ทีเลอม็องส์
86'
7
11.
มาร์ค อัลไบรท์ตัน
74'
6
ตัวสำรอง
20.
ฮัมซ่า เชาดูรี่
86'
6
24.
นามพาลีส เมนดี้
88'
6
17.
อโยเซ่ เปเรซ
74'
88'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
เสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564
กรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์
เลสเตอร์ ซิตี้
3
1
ลิเวอร์พูล
1-1 เจมส์ แมดดิสัน 78'
2-1 เจมี่ วาร์ดี้ 81'
3-1 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ 85'
เลสเตอร์ ซิตี้ มีปัญหาที่เจมส์ จัสติน เจ็บเข่าพักยาวไปแล้ว เกมนี้ เจมส์ แมดดิสันและฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ที่ได้พักกลางสัปดาห์กลับมาเป็นตัวจริงคอยป้อนบอลให้เจมี่ วาร์ดี้ ด้านลิเวอร์พูล มีปัญหาแนวรับเหมือนเดิม ฟาบินโญ่ เจ็บกล้ามเนื้อทำให้เป็นโอกาสประเดิมสนามของโอซาน คาบัค จับคู่กับจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตำแหน่งอื่น ติอาโก้ เป็นแค่สำรองโดยมีเจมส์ มิลเนอร์ ได้ลงสนาม ขณะที่สามประสานแดนหน้ามากันครบ
เจมส์ แมดดิสัน มีสถิติยอดเยี่ยมมีส่วนร่วม 6 ประตูจาก 6 เกมที่เล่นในบ้าน ส่วนลิเวอร์พูล อาจเป็นทีมแรกที่สามารถบุกมาชนะ เลสเตอร์ วิตี้ คาบ้าน 4 ฤดูกาลติดต่อกันนับตั้งแต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2003 หากกำชัยในเกมนี้ได้ โดยพวกเขาไม่เคยแพ้ในลีก 3 เกมติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2014 ในสมัยของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส
ซาลาห์หลุดแล้วดันยิงไม่ได้
ลิเวอร์พูลเปิดเกมมาพยายามบุกเข้าใส่แล้วมีโอกาสทองเมื่อ เฮนเดอร์สันโยนบอลยาวจากแดนหลังไปให้ ซาลาห์วิ่งโฉบหนีเปเปรร่ไปได้แล้วแต่บอลมันเหมือนไม่เป็นใจแถมโดนโซยุนคูเบียดเข้ามาแล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ยิงบอลหลุดออกหลังไปเอง
วาร์ดี้ดีดไม่จับได้แค่เสียว
กลับมาเป็นจังหวะของวาร์ดี้ที่บาร์นส์ยกบอลไปให้วาร์ดี้หนีคาบัคเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดสินใจดีดข้ามหัวอลิสซอนที่ออกมาจากเส้นทันทีทว่าบอลไปตกบนตาข่ายด้านหลัง
ซาลาห์ยิงสวนยังห่างไกล
จังหวะต่อเนื่องจากเตะมุมด้านขวาที่เอ็นดิดี้โขกเคลียร์ออกมาบอลมาตั้งให้ ซาลาห์วิ่งมาจากนอกกรอบเขตโทษแล้วสวนด้วยซ้ายทันทีทว่าบอลพุ่งกลับไปทางเดิมออกหลังไม่ได้ลุ้นอะไร
รองเจมส์เดี้ยงอย่างไว
หงส์แดง ต้องเปลี่ยนตัวไวเลยเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ มีอาการเจ็บตั้งแต่ต้นเกมเล่นต่อไม่ไหวต้องเอา ติอาโก้ อัลคันทาร่า ลงมายืนกลางแทนเสียโควต้ากันไป
ซาลาห์หลุดอีกแล้ว!อมาร์ตี้เคลียร์เส้นยาแดง
เกมสวนกลับของ หงส์แดง น่าได้ลุ้นเลย เทรนท์แทงไปให้ซาลาห์ควบเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนดีดหนีแคสเปอร์เข้ากลาง อมาร์ตี้ย์ช้าไปเกือบโดนมาเน่พุ่งเข้ามาเสียบแต่สุดท้ายก็เคลียร์ออกหลังได้ทัน
แคสเปอร์เซฟ!ฟีโน่เหน่งๆ ยิงติดมือ
โอกาสทองอีกหนของลิเวอร์พูล ติอาโก้ยกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลเลยไปถึงเฮนเดอร์สันตบกลับเข้ากลางมาเน่โหนโขกแล้วบอลเลยไปถึงฟิร์มิโน่พยายามพุ่งเข้ามายิงแต่ไปติดมือของแคสเปอร์ แต่ดูเหมือนว่าล้ำหน้าไปก่อนแล้วด้วย
วาร์ดี้โขกเหน่งตรงตัวอลิสซอน
เลสเตอร์เกือบได้ประตูขึ้นนำเลย บาร์นส์ได้บอลริมเส้นด้านขวาก่อนโยกหาช่องเปิดได้แล้ว เฮนเดอร์สันโหม่งไม่ถึงบอลเข้าทางของวาร์ดี้ ได้โหม่งเต็มๆ แต่ไปตรงตัวของอลิสซอนรับเอาไว้ได้
ร็อบโบ้เติมมายิงแฉลบออกหลัง
กลับมาเป็นลิเวอร์พูล สวนกลับมาบ้าง เทรนท์เปิดไปให้ฟิร์มิโน่ ป้ายต่อออกทางซ้าย โรเบิร์ตสันเติมขึ้นมาสวยแล้วก่อนตัดสินใจยิงทันทีบอลไปติดส้นเท้าของอมาร์ตี้ย์แล้วแฉลบผ่านหน้าปากประตูออกไป
วาร์ดี้หลุด!กดเต็มข้อคานสนั่น
อมาร์ตี้ย์โยนยาวจาแดนหลังแล้วแมดดิสันตอกส้นต่อไปให้วาร์ดี้ หลุดเข้ากรอบเขตโทษได้แล้วโดยมีเฮนเดอร์สันตามมาด้านหลังก่อนซัดเต็มข้อด้วยขวาบอลพุ่งไปชนคานอย่างจังพลาดขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
เทรนท์ปั่นฟรีคิกติดกำแพง!วาร์ดี้หลุดติดเซฟอลิสซอน
ก่อนจบครึ่งแรก หงส์แดง มีโอกาสลุ้นทำประตูจากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะ 20 หลาเยื้องมาทางขวาเป็นทาง เทรนท์วิ่งมาปั่นไปติดกำแพงไม่ได้ลุ้นอะไรเลย แล้วเกมสวนกลับของเลสเตอร์ วาร์ดี้หลุดมาแล้วพยายามยิงสวนอลิสซอนแต่ไม่ผ่าน
ร็อบโบ้ซัดเปรี้ยงนกตาย
ลิเวอร์พูลต่อบอลกันขึ้นมาสวนจังหวะนี้ โจนส์เอาตัวรอดมาได้ก่อนไหลให้มาเน่ ป้ายออกทางซ้าย โรเบิร์ตสันเติมขึ้นมาไม่ยอมเปิดตัดสินใจยิงเองก็จุดพลุออกหลังไปเลย
TAA ฟรีคิกชนสามเหลี่ยม
ฟรีคิกของลิเวอร์พูล คราวนี้ระยะไกลห่างมาประมาณ 25 หลา เทรนท์คนเดิมวิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวาบอลแฉลบกำแพงหน่อยหนึ่งก่อนพุ่งไปชนสามเหลี่ยมอย่างจัง
ฟีโน่ตอกส้น!ซาลาห์แปหนีแคสเปอร์ 1-0
หงส์แดง เอาประตูขึ้นนำจนได้หลังจากพับสนามอยู่นาน เริ่มจากเทรนท์เติบขึ้นมาก่อนยิงไปติดบล็อคแล้วบอลกระดอนมาหาเทรนท์ฝากบอลไปให้ฟิร์มิโน่ที่เล่นตอกส้นอย่างสวยกลับไปให้ซาลาห์ แปด้วยซ้ายเน้นๆบอลหนีมือแคสเปอร์ เข้าไปตุงตาข่าย 1-0!!!
VAR ช่วยหงส์!จิ้งจอกอดโทษได้เตะบนเส้นแทน
กรรมการเป่าให้เลสเตอร์เป็นจุดโทษเมื่อบาร์นส์ลากแหวกเทรนท์กับติอาโก้เข้าไปแล้วล้มลง VAR เช็คว่าข้ามเส้นไปแล้วหรือเปล่า แล้วกลับคำตัดสินให้แค่ฟรีคิกบนเส้นไป
หงส์ยั๊วะ VAR !แมดดิสันปั่นฟรีคิกเข้าอมาร์ตี้ย์ไม่ล้ำ
แต่จังหวะฟรีคิก แมดดิสันวิ่งเข้ามาปั่นบอลเรียดเข้าไปลุ้นเลยก่อนที่บอลผ่านมือของอลิสซอนเข้าไปทางเสาไกล ทว่าไลน์แมนยกธงขึ้นมาว่าอมาร์ตี้ย์พยายามโฉบไปเล่นบอลเลยล้ำหน้า ทว่า VAR ระบุว่าไม่ล้ำโดยตีเส้นเท่ากัน ทำให้สกอร์เสมอกัน 1-1!!!
คาบัค+อลิสซอนพลาด!วาร์ดี้หมูหกจิ้งจอกแซก 2-1
อลิสซอนพลาดอีกแล้วเป็นจังหวะที่ออกมาไกลจากนอกกรอบทว่า คาบัคดันไปแย่งเกี่ยวบอลไปเข้าทางตีนของวาร์ดี้ลากเข้าไปยิงสบายใจ เลสเตอร์นำ 2-1!!!
บาร์นส์ชนเสา!อลิสซอนเซฟบนเส้นอีก
เลสเตอร์เกือบได้ประตูอีก บาร์นส์หลุดมาทางซ้ายก่อนยิงผ่านอลิสซอนแล้วบอลไปชนเสาไกล กระดอนออกมาให้วาร์ดี้ยิงเหน่งๆ แต่อลิสซอนพุ่งกลับมาเซฟเอาไว้บนเส้นพอดี
เอ็นดิดี้จ่ายเหนือ!บาร์นส์หลุดกดไม่เหลือ 3-1
เอ็นดิดี้ยกบอลกลางสนามให้บาร์นส์หลุดมาอีกแล้วคราวนี้ไม่มีใครตามทันก่อนลากเข้าไปล่อเป้าอลิสซอนแปบอลเน้นๆไม่มีพลาด เลสเตอร์ตอกฝาโลงสนิทแล้ว 3-1
หงส์แพ้ 3 นัดรวด
หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูลแพ้รวด 3 นัดในเกมลีกหนแรกในรอบกว่า 6 ปีทำให้ส่อโดนแซงหลุดจากอันดับท็อปโฟร์ในอีกไม่ช้า ขณะที่เลสเตอร์ ทำแต้มหนีไปเป็น 46 คะแนนแล้ว
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
7
5.
จอร์จินิโอ้ ไวจ์นาลดุม
86'
6
7.
เจมส์ มิลเนอร์
17'
6
17.
เคอร์ติส โจนส์
75'
6
ตัวสำรอง
6.
ติอาโก้ อัลคันทาร่า
17'
6
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
75'
6
23.
เซอร์ดาน ชากิรี่
86'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Sat Feb 13, 2021 21:37, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ