ทุบสถิติ!! เรือลิ่วเอฟเอ คัพ อัดหงส์ขาว 3-1 ซิวชัย 15 เกมรวด
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ไม่ใช่งานยากสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ครอสเข้าประตูให้ทีมนำ ก่อนที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ กาเบรียล เชซุส จะมายิงเพิ่มต้นครึ่งหลังปราบ สวอนซี ซิตี้ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ แถมทำสถิติใหม่เป็นสโมสรลีกสูงสุดแดนผู้ดีทีมแรกที่กวาดชัย 15 เกมรวดในทุกรายการ
สวอนซี ซิตี้
Starting Formation: 3-4-1-2
5.
มาร์ก เกฮี
66'
5.5
23.
คอนนอร์ โรเบิร์ตส
66'
5.5
21.
ยาน ดานด้า
77'
6.0
11.
จอร์แดน มอร์ริส
66'
5.0
9.
จามาล เลิฟ
65'
5.0
ตัวสำรอง
14.
คอนนอร์ ฮูริเฮน
77'
-
24.
เจ๊ค บิลเวลล์
66'
5.5
19.
ปอล อาร์ริโอล่า
65'
5.5
34.
คีรอน ฟรีแมน
66'
5.5
17.
มอร์แกน วิตเตเกอร์
66'
7.0
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5
สนาม ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564
กรรมการ ปีเตอร์ แบงค์ส
สวอนซี ซิตี้
1
3
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
0-1 วอล์คเกอร์ 30 '
0-2 สเตอร์ลิ่ง 47'
0-3 เชซุส 50'
สวอนซี ปรับนักเตะบางตำแหน่ง แต่ยังมีตัวหลักแบบ ไกร์มส และ ฟูลตัน สองกองกลางคุมเกมอยู่ ขณะที่แดนหน้าให้โอกาส มอร์ริส เป็นตัวจริงแทน อายิว
แมนฯ ซิตี้ ก็โรเตชั่นเหมือนกันโดยให้ คันเซโล่ ได้พักและส่ง วอล์คเกอร์ ลงเล่นแต่แดนกลางยกชุดเดิม กุนโดกาน ที่ฮ็อตๆก็ยังออกสตาร์ทต่อเนื่อง
ช่วงแรกเรือได้โอกาสลุ้นตามสไลด์
ช่วงแรก แมนฯ ซิตี้ ก็ครองบอลบุกเข้าใส่แล้วพอมีโอกาสทักทายไปบ้างแล้วจากที่ เชซุส ได้ลองยิงนอกกรอบแต่ก็ส่งบอลไปตรงตัว วูดแมน
เรือลุยต่อ! เมนดี้ ปาดให้ เชซุส ยิงหลุดเสาแรกไปหน่อย
แมนฯ ซิตี้ ขึงหาจังหวะบุกเข้าทำแล้วก็มาได้ลุ้นเกือบนำ จากที่ โรดรี้ พยายามเลี้ยงมาหน้าเขตโทษก่อนจ่ายออกซ้ายให้ เมนดี้ ปาดเข้ากลางจบด้วย เชซุส ยิงหลุดเสาแรกนิดเดียว
เรือได้เตะมุมเปิดให้ ลาปอร์ต โหม่งย้อนออกเสาแรก
จังหวะเตะมุมของ แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ลุ้นที่จะออกนำเหมือนกัน เมื่อ กุนโดกาน โยนจากทางซ้ายลึกมาเสาไกลแล้วมี ลาปอร์ต เป็นคนวิ่งมาโหม่งส่งบอลกระดอนย้อนออกเสาแรก
หงส์ขาวจ่ายกันพลาดเกือบโดนเรือลงโทษ
สวอนซี เกือบแจกเข้าแล้วหลังจ่ายพลาดกันหน้าเขตโทษทำให้ แมนฯ ซิตี้ ตัดบอลกลับมาลุ้นทันที โรดรี้ โหม่งมาให้ ตอร์เรส เป็นคนยิงในเขตโทษแต่เบาไป วูดแมน พุ่งเซฟได้
เรือมาอีก ตอร์เรส ยิงมุมแคบไม่ผ่านเซฟ
เรือใบ มาได้โอกาสจบกันอีกแล้วเมื่อ เชซุส จ่ายให้ ตอร์เรส เข้าเขตโทษทางขวามุมแคบยังยิงได้แต่ก็โดน วูดแมน ปัดออกเสาสองไปก่อน
เรือนำแล้ว! วอล์คเกอร์ ครอสไป ตอร์เรส ชาร์จไม่ถึงยังเข้าประตู
นวดไปนวดมา แมนฯ ซิตี้ ก็เอาประตูออกนำสำเร็จ กับจังหวะที่ฝากมาให้ วอล์คเกอร์ ทางขวาแล้วครอสเข้ามาในเขตโทษเพื่อจะให้ ตอร์เรส สอดไปชาร์จแต่เหมือนไม่โดนและทำ วูดแมน เสียจังหวะไปด้วยบอลเลยเข้าประตูแทน แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0
หงส์ขาวได้ลุ้น! บุกกลับเปิดให้ ฟูลตัน โหม่งเสาแรก
แต่ สวอนซี บุกมาก็มีลุ้นจะตีเสมอได้เหมือนกันภายหลัง โรเบิร์ตส ลุยขึ้นมาทางขวาแล้วครอสเข้าไปตรงเสาแรกแล้วมี ฟูลตัน สอดมาโหม่งได้เต็มหัวเลยแต่ยังหลุดกรอบไปหน่อย
หงส์ขาวมาดีเกือบได้ยิงเจอสกัดก่อน
ท้ายครึ่งแรกเป็นจังหวะเข้าทำที่ได้ลุ้นสำหรับ สวอนซี เลยหลังทำชิ่งกันหน้าเขตโทษแล้ว ดานด้า จ่ายให้กับ เลิฟ สอดไปไม่ล้ำหน้าแต่โดน การ์เซีย ตามสกัดทันเลยไม่ได้ง้าง
เรือทิ้งห่าง! โรดรี้ แทงให้ ราฮีม หลุดไปแปเสียบเสาสอง
ครึ่งหลังกลับมาได้ไม่นาน แมนน ซิตี้ ก็ทิ้งห่างเรียบร้อย ด้วยจังหวะที่ โรดรี้ ดักบอลกลับมากลางสนามแล้วเห็นช่องแทงให้ สเตอร์ลิ่ง ทางซ้ายสอดเข้าเขตโทษไปแปเสียบเสาไกล แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 2-0
สบายเลย! แบร์นาร์โด้ โหม่งให้ เชซุส กลับตัวยิงตุงที่สามให้เรือ
ให้หลังอีกไม่กี่นาที แมนฯ ซิตี้ ก็ทิ้งห่างออกไปอีกจากที่ สวอนซี จะไปจ่ายบอลออกมาจากเขตโทษตัวเองแล้วโดนตัดบอลได้ ทำให้เปิดข้ามไปทางขวาในกรอบมี แบร์นาร์โด้ โหม่งย้อยกลับมาตรงกลาง เชซุส เกี่ยวบอลลงแล้วกลับตัวยิงไม่เหลือกลายเป็น 3-0
หงส์ขาวขอลุ้นหน่อยแต่ ดานด้า ยิงไกลหลุดกรอบ
สวอนซี มาหาโอกาสจบได้บ้างหลังทำให้ ซิตี้ เสียบอลหน้าเขตโทษเลยเปิดช่องให้ครอสเข้าเขตโทษยังโดนสกัด สุดท้ายบอลออกมาเข้าทาง ดานด้า นอกกรอบยิงสวนก็พุ่งหลุดออกหลัง
เรือนำสบายแล้วทยอยเปลี่ยนนักเตะออก
พอนำห่างแบบนี้แล้ว แมนฯ ซิตี้ ก็สบายใจขึ้นเปลี่ยนเอานักเตะอย่าง สเตอร์ลิ่ง และ กุนโดกาน ออกเพื่อให้ มาห์เรซ รวมถึงดาวรุ่งอย่าง ดอยล์ ลงแทน
เรือเกือบได้เพิ่ม เมนดี้ ถูกสกัดก่อนชาร์จจ่อๆ-โฟเดน ซ้ำแฉลบออก
เกือบมีประตูเพิ่มให้กับ เรือใบ แล้วเมื่อ มาห์เรซ ทางขวาเข้าเขตโทษแล้วจ่ายลอดขากะให้ เมนดี้ เสาไกลแต่โดนสกัดทิ้งได้ โฟเดน พยายามตามซ้ำแต่ก็ติดบล็อกแฉลบออกหลัง
หงส์ขาวทวงคืน! แมนนิ่ง ครอสมาให้ วิตเตเกอร์ ยิงตีไข่แตก
แต่แล้วอยู่ๆ หงส์ขาว ก็มาได้ประตูตีไข่แตกเข้าให้ ภายหลังจ่ายออกซ้ายให้กับ แมนนิ่ง เติมขึ้นมาก่อนโยนเข้าไปในกรอบแล้ว วิตเตเกอร์ จับบอลก่อนจะซัดเข้าเสาสอง สวอนซี ไล่มาห่างๆ 3-1
ไม่สี่! ดอยล์ หลุดมาสวยแต่เลือกยิงเองไม่ยอมจ่ายออกเสาไกล
ท้ายเกม ซิตี้ มีลุ้นที่จะเอาประตูเพิ่มด้วยจังหวะโต้กลับที่ทำชิ่งให้ ดอยล์ หลุดมาสวยมารีบควบพาบอลเข้าเขตโทษทางขวา แต่ดันเลือกยิงเองออกเสาไกลทั้งๆที่เพื่อนก็รออยู่ ทำเอา กวาร์ดิโอล่า ข้างสนามมีฉงนเล็กน้อย
จบเกม แมนฯ ซิตี้ ผ่านไปอย่างไม่มีปัญหาเอาชนะ สวอนซี 3-1 ลิ่วเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ พร้อมคว้าชัยเพิ่มเป็น 15 เกมติดต่อกันในทุกรายการ
นั่นยังเป็นสถิติใหม่สำหรับทีมในลีกสูงสุดแดนผู้ดี แซงหน้าทีมอย่าง เปรสตัน (1982) และ อาร์เซน่อล (1987)
นอกจากนี้ยังเป็นชัยชนะนัดที่ 200 ของ กวาร์ดิโอล่า นับตั้งแต่เข้ามาคุม แมนฯ ซิตี้ ด้วย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
16.
โรดรี้
72'
7.5
8.
อิลคาย กุนโดกาน
57'
6.0
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
66'
6.5
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
56'
7.0
ตัวสำรอง
26.
ริยาด มาห์เรซ
56'
6.0
47.
ฟิล โฟเดน
66'
6.0
81.
เคลาดิโอ โกเมส
72'
6.0
69.
ทอมมี่ ดอยล์
57'
6.0
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Thu Feb 11, 2021 02:34, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
