กราบสเตเก้น! ต่างดาวหืดเจ๊าโซเซียดาด 1-1 ก่อนแม่นเป้าซิว 3-2 รอชิง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
บาร์เซโลน่า ต่อเวลาเล่น 120 นาที เสมอกับ เรอัล โซเซียดาด 1-1 ทำให้ต้องไปดวลจุดโทษตัดสิน สุดท้ายทีมต่างดาวก็แม่นกว่าแถมได้ มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเก้น โชว์เซฟ ก่อนเอาชนะไป 3-2 ทำให้เข้าไปชิงชนะเลิศสแปนิช ซูเปอร์คัพ รอพบผู้ชนะระหว่าง เรอัล มาดริด กับ แอธเลติก บิลเบา
เรอัล โซเซียดาด
Starting Formation: 4-3-3
18.
โกโรซาเบล

91'
6.5
16.
อันเดร์ เกวาร่า

105'
6.5
14.
ฆอน กูริดี้

81'
6.5
19.
อเล็กซานเดอร์ อิซาค

91'
7
7.
ปอร์ตู

103'
6.5
ตัวสำรอง
11.
อัดนาน ยานาไซจ์

103'
7
2.
โฆเซบา ซัลดูอา

91'

120'
6
9.
วิลเลียน โชเซ่

91'
6
25.
ฆอน เบาติสต้า

120'
5.5
22.
อันเดร์ บาร์เรเนตเซีย

81'
6.5
36.
มาร์ติน ซูบิเมนดี้

105'
6
สแปนิช ซูเปอร์คัพ รอบรองชนะเลิศ
สนาม เอสตาดิโอ นูเอโบ อาร์คานเกล
พุธที่ 13 มกราคม 2564
กรรมการ โฆเซ่ มูเนวร่า
EX. เรอัล โซเซียดาด
1
1
บาร์เซโลน่า
บาร์เซโลน่า ชนะด้วยการดวลจุดโทษ 3-2
1-1 มิเกล โอยาร์ซาบัล 51' (Pen.)
ต่างดาวขาดเมสซี่ โซเซียดาดไม่มีซิลบา
บาร์ซ่าเกมนี้ไม่มีเมสซี่ที่เจ็บ มาในระบบ 4-2-3-1 โดยให้ เบรธเวต ค้ำหน้าและมี กรีซมันน์,เปดรี้,เดมเบเล่ คอยหนุน ตรงกลางเป็น เดอ ยอง,บุสเกตส์ แนวรับซ้ายไปขวา อัลบา,ลองเลต์,อเราโฮ่,มินเกซ่า และ สเตเก้น เฝ้าเสา
โซเซียดาดไม่มีซิลบา ในระบบ 4-3-3 แนวรุกเป็น อิซาค,โอยาร์ซาบัล,ปอร์ตู แผงกลาง เมริโน่,เกวาร่า,กูริดี้ แนวรับซ้ายไปขวา มอนเรอัล,เลอ นอร์มองด์,ซูเบลเดีย,โกโรซาเบล และ เรมิโร่ เฝ้าเสา
• เจอกัน 11 นัดหลังทุกรายการ บาร์เซโลน่า ชนะ 9 เสมอ 2
อิซาคเทคโขกทักทาย
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมเป็นของโซเซียดาด จังหวะที่โกโรซาเบลเปิดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปตรงกลางแล้วเป็นอิซาคเทคโหม่งก่อนที่บอลจะย้อยข้ามคานไป
ปอร์ตูได้เหลี่ยมซัดหลุดเสาสอง
อีกครั้งของโซเซียดาด คราวนี้เป็นจังหวะที่โกโรซาเบลไหลเข้าไปในกรอบฝั่งขวาให้ปอร์ตูจับแล้วได้ช่องรีบซัดด้วยขวาพุ่งเรียดแรงแต่หลุดเสาสองไป
เลอ นอร์มองด์เติมโขกเข้ามือสเตเก้น
โซเซียดาดมาอีกแล้ว คราวนี้เป็นจังหวะที่โอยาร์ซาบัลเปิดเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้าไปตรงกลางแล้วเป็นเลอ นอร์มองด์ได้โหม่งแต่บอลพุ่งลงพื้นเข้ามือสเตเก้น
อิซาคหลุดจิ้มติดสเตเก้นนิดเดียว
โซเซียดาดน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่มอนเรอัลได้บอลเลี้ยงจี้มาที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนเลือกแทงเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายให้อิซาคโฉบไปจิ้มติดเซฟสเตเก้นที่ออกมาขวางได้เร็ว
ลองเลต์ลองซัดไกลเรียดหลุดกรอบ
โอกาสของบาร์ซ่าบ้าง เป็นจังหวะที่ลองเลต์เติมขึ้นมารับบอลจากบุสเกตส์แล้วมีเวลาวางเท้าซัดด้วยซ้ายระยะไกล บอลพุ่งเรียดแรงแต่ก็หลุดออกหลังไป
เบรธเวตลองซัดยังติดเซฟ
อีกครั้งของบาร์ซ่า คราวนี้เป็นจังหวะที่อเราโฮ่วางบอลยาวจากกลางสนามให้เบรธเวตโฉบไปเอาลงทางกรอบฝั่งซ้าย ก่อนที่เขาจะเลือกยิงด้วยซ้ายทันทีแต่บอลก็พุ่งเรียดติดเซฟเรมิโร่
เบรธเวตโฉบโหม่งข้ามคาน
บาร์ซ่าได้ลุ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นจังหวะที่มินเกซ่าเติมขึ่้นไปรับบอลทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนครอสแรงไปตรงกลางแล้วเป็นเบรธเวตโฉบโหม่งข้ามคานไป
มาจนได้!อ๋องตักเข้าหัวเดอ ยองโขกไม่เหลือ 1-0 ต่างดาวเฮ
แล้วประตูแรกของเกมก็มาจนได้และเป็นบาร์ซ่าที่ได้เฮ จังหวะที่พวกเขาต่อบอลขึงแล้วเบรธเวตพลิกเล่นได้ก่อนแทงเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายให้กรีซมันน์หลุดไปรับถึงเส้นหลังแล้วตักเข้ากลางให้เดอ ยองโฉบมาโหม่งเน้นเสียบใต้คาน 1-0 ต่างดาวออกนำ
อิซาคซัดไกลยังติดเซฟสเตเก้น
ก่อนจบครึ่งแรกโซเซียดาดพยายามจะตีเสมอ จังหวะนี้อิซาครับบอลจากเมริโน่แล้วลองซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงตรงกรอบแต่ก็ไปติดเซฟสเตเก้น
ครึ่งแรกเป็นเกมที่สนุกและเป็นบาร์ซ่าที่ออกนำไปก่อนจากลูกโหม่งในช่วงท้ายของเดอ ยอง ฝั่งโซเซียดาดเริ่มเกมได้ดีและมีโอกาสหลายครั้งแต่พวกเขาไม่คมเอง
เดอ ยองพลาดเสียโทษ!โอยาร์ซาบัลสังหารไม่พลาด 1-1
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ทันไร โซเซียดาดมาได้จุดโทษจากจังหวะที่โอยาร์ซาบัลเปิดบอลจากทางฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบติดแขนเดอ ยอง ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเช็ค VAR ยืนยันไม่มีปัญหา
สุดท้ายเป็นโอยาร์ซาบัลรับหน้าที่สังหารนิ่มไปทางขวามือโดยที่สเตเก้นพุ่งผิดทาง ทำให้โซเซียดาดตีเสมอ 1-1 ต้องว่ากันใหม่
อ๋องวอลเลย์เน้นๆข้ามคาน
โอกาสได้เสียวของบาร์ซ่าจังหวะที่บุสเกตส์รับบอลจากลูกฟรีคิกทางกรอบฝั่งซ้ายก่อนล็อคแล้วเปิดโต่งข้ามไปเสาสองให้กรีซมันน์วางเท้าวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้นๆ แต่ก็พุ่งแรงข้ามคานไป
เดมเบเล่เลี้ยงตัดซัดหลุดกรอบไปอีก
บาร์ซ่ามาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่เดอ ยองลากบอลจี้มาที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนแทงออกขวาให้เดมเบเล่รับแล้วเลี้ยงตัดมาหน้ากรอบเขตโทษก่อนดึงจังหวะซัดด้วยซ้ายหักข้อพุ่งเรียดหลุดเสาไปนิดเดียว
เปดรี้ซัดด้วยขวาโดนปัดทิ้ง
บาร์ซ่าพยายามบุกเอาประตูขึ้นนำ จังหวะนี้เปดรี้รับบอลจากกรีซมันน์แล้วเลี้ยงหาจังหวะเข้าไปในกรอบฝั่งขวาก่อนซัดด้วยขวาไปติดเซฟเรมิโร่ที่ปัดออกหลังไป
ช่วงท้ายไม่มีสกอร์เพิ่มเติมทำให้เสมอกันไป 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาทีเพื่อหาผู้ชนะ
ซัลดูอาซัดเน้นๆ สเตเก้นบินปัดหวุดหวิด
เริ่มช่วงต่อเวลา โซเซียดาดได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่โชเซ่ไหลบอลให้ซัลดูอารับแล้ววางเท้ากดด้วยขวาจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงตรงกรอบแต่สเตเก้นยังบินปัดออกหลังไปได้
เดมเบเล่ล็อคแปเน้นๆแต่เบบาเกิน
บาร์ซ่าน่าได้ประตูแบบสุดๆ จากจังหวะตัดได้แล้วสวนเร็ว กรีซมันน์ได้บอลมาที่หน้ากรอบเเขตโทษก่อนแทงเข้ากรอบฝั่งซ้ายให้เดมเบเล่รับแล้วล็อคตัดเข้าขวาก่อนแปไปเรียดเบาไปติดเซฟเรมิโร่อย่างน่าเสียดาย
ยานาไซจ์กระชากยิงมุมแคบยังติดสเตกเก้น
โซเซียดาดได้ลุ้นเสียวจากจังหวะที่ยานาไซจ์รับบอลจากซัลดูอาก่อนติดเครื่องกระชากลากเข้าไปในกรอบฝั่งขวา สุดท้ายพยายามจิ้มมุมแคบบอลพุ่งไปติดปลายมือสเตเก้นหลุดเสาสองอย่างน่าเสียดาย
ผลัดกันเกือบได้ทั้งสองฝั่ง
ต่างดาวน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่กรีซมันน์ได้ยิงมุมแคบทางกรอบฝั่งขวาไปติดเซฟเรมิโร่ แล้วเรมิโร่จัดการออกบอลเร็วให้ยานาไซจ์สปีดหลุดมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดโค้งไปเสาสองให้โอยาร์ซัลบัลโฉบมาซัดติดบล้อคเปียนิชอย่างน่าเสียดาย
เกือบหาย!ยานาไซจ์ปั่นฟรีคิกเสาสนั่น
โซเซียดาดได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะราว 25 หลา เป็นยานาไซจ์ที่รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายพุ่งข้ามกำแพงโค้งผ่านมือสเตเก้นชนเสาอย่างจัง
ต่างดาวแม่นกว่าเข้าไปรอชิง
สุดท้ายจบ 120 นาทีเสมอกันไป 1-1 ทำให้ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ โดยที่โซเซียดาดเป็นฝ่ายยิงก่อน
คนแรก
• ฆอน เบาติสต้า (ไม่เข้า,ติดเซฟ)
• เฟรงกี้ เดอ ยอง (ไม่เข้า,ชนเสา)
คนที่สอง
• มิเกล โอยาร์ซาบัล (ไม่เข้า,ติดเซฟ)
• อุสมาน เดมเบเล่ (เข้า)
คนที่สาม
• วิลเลี่ยน โชเซ่ (ไม่เข้า,ชนเสา)
• มิราเลม เปียนิช (เข้า)
คนที่สี่
• มิเกล เมริโน่ (เข้า)
• อองตวน กรีซมันน์ (ไม่เข้า,หลุดกรอบ)
คนที่ห้า
• อัดนาน ยานาไซจ์ (เข้า)
• ริกี้ ปูอิก (เข้า)
สุดท้ายเป็นบาร์เซโลน่าแม่นกว่าเอาชนะไป 3-2 เข้ารอบไปรอชิงชนะเลิศกับผู้ชนะหว่างเรอัล มาดริดกับแอธเลติก บิลเบา
บาร์เซโลน่า
Starting Formation: 4-2-3-1
1.
มาร์ค-อันเดร แตร์สเตเก้น
8
28.
ออสการ์ มินเกซ่า

114'
6.5
5.
เซร์กิโอ บุสเกตส์

91'
7
16.
เปดรี้

91'
6.5
9.
มาร์ติน เบรธเวต

78'
6.5
ตัวสำรอง
8.
มิราเลม เปียนิช

91'
24.
จูเนียร์ ฟิร์โป้

114'
6
12.
ริกี้ ปูอิก

91'
6.5
17.
ฟรานซิสโก้ ตรินเคา

78'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Thu Jan 14, 2021 17:49, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ