'โฟเดน' ซัดโทน! 'ราฮีม' พลาดโทษแถมท้ายเรือยังซิว 1-0 ตามผี 4 แต้ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างโอกาสดีๆได้หลายหนแต่คมไม่มากพอขนาดจุดโทษทดเจ็บ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยังยิงพลาด ทำให้ประตูที่ ฟิล โฟเดน ซัดก่อนหมดครึ่งแรกกลายเป็นลูกตัดสิน ช่วย เรือใบสีฟ้า ซิวชัยเหนือ ไบรจ์ตัน 1-0 เพียงพอต่อการขึ้นอันดับ 3 และตามหลังจ่าฝูง 4 แต้มโดยมีเกมในมืออีกนัด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
11.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
6.5
47.
ฟิล โฟเดน

82'
7.0
26.
ริยาด มาห์เรซ

67'
6.0
ตัวสำรอง
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

82'
-
9.
กาเบรียล เชซุส

67'
5.5
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันที่ 13 มกราคม 2564
กรรมการ ดาร์เรน อิงก์แลนด์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1
0
ไบรจ์ตัน
แมนฯ ซิตี้ ได้ เอแดร์ซอน ฟิตพร้อมสำหรับการเฝ้าเสาอีกครั้งนึงและแม้แผนจะมาระบบ 4-3-3 แต่เล่นจริง คันเซโล่ จะหุบยืนกลางเยอะหน่อยโดยให้ เดอ บรอยน์ หรือ แบร์นาร์โด้ ค้ำหน้า
ส่วนทาง ไบรจ์ตัน ไม่มี บิสซูม่า ในแดนกลางเลยต้องให้ ไวท์ มาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับและแดน้นหา้ให้ เทา เด็กใหม่ลงเป็นตัวจริง
เรือทักทายก่อน ซินเชนโก้ ยิงติดบล็อก
โอกาสทักทายของ แมนฯ ซิตี้ มากันแล้วหลังลูกครอสจากทางขวามาถึงเสาไกลเอาลงได้ โฟเดน เป็นคนจ่ายย้อนให้ ซินเชนโก้ วิ่งมาสับไกแต่โดนบล็อกเต็มๆ
KDB ทำชิ่งไปยิงมุมแคบไม่ผ่านเซฟ
แมนฯ ซิตี้ ใกล้เคียงที่จะมีประตูนำแล้วจาก เดอ บรอยน์ หน้าเขตโทษฝากไปที่ กุนโดกาน ล็อกหลบก่อนไหลให้ เดอ บรอยน์ คนเดิมวิ่งสอดไปยิงมุมแคบไม่ผ่านเซฟ
ไบรจ์ตันตอบโต้หน่อย ทรอสซาร์ด ยิงออกเสาสอง
ไบรจ์ตัน มีโอกาสโต้กลับมาบ้าง อัลลิสเตร์ จ่ายให้ ทรอสซาร์ด พาบอลเข้าเขตโทษโดนขวางหน้าสองตัวพยายามยึกยักก่อนจบด้วยการยิงออกทางเสาสอง
KDB ตักให้ มาห์เรซ สอดไปชาร์จแต่โดนไม่เต็มพอ
แมนฯ ซิตี้ มาต่อบอลกดดันหน้าเขตโทษ ไบรจ์ตัน อีกแล้วก่อนจะเป็น เดอ บรอยน์ ตักให้ มาห์เรซ วิ่งสอดไปเสาขวามือแต่ยิงได้ไม่ถนัดเท่าไหร่เลยทำให้บอลออกหลังไปไม่ค่อยลุ้น
เรือได้ฟรีคิกสองจังหวะในเขตโทษ KDB ซัดแฉลบบล็อก
ไม่ได้เห็นกันบ่อยเพราะ แมนฯ ซิตี้ ได้ฟรีคิกสองจังหวะในเขตโทษหลังกรรมการจับฟาวล์ เว็บสเตอร์ ว่าจ่ายบอลย้อนหลังให้ ซานเชซ ใช้มือรับ
สุดท้าย แบร์นาร์โด้ เขี่ยให้ เดอ บรอยน์ แต่ก็ไม่ผ่านบล็อก
KDB ครอสมาดีแต่ มาห์เรซ ชาร์จไม่ทันโดนสกัดก่อน
เรือใบ ครองบอลแทบจะฝั่งเดียวและมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวเขตโทษ ไบรจ์ตัน เกือบจะตลอด มีจังหวะที่ เดอ บรอยน์ ครอสจากซ้ายเข้ามาเสาสอง มาห์เรซ ปรี่มาแล้วแต่ แบร์นาร์โด้ สกัดทันก่อนโดนชาร์จจ่อๆ
KDB ได้สับไกอีกแต่ก็ยังโดนเซฟไว้
ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ได้โต้กลับ เดอ บรอยน์ ฝากมาที่ โฟเดน ทางขวาถึงเขตโทษตัดเข้ากลางโดนดักไว้แต่ เดอ บรอยน์ วิ่งมาเก็บไปซัดส่งบอลติดเซฟ
มาเรียบร้อย! โฟเดน ซัดเสียบเสาหมดจดเรือนำแล้ว
แล้วในที่สุด ซิตี้ ก็เอาประตูนำได้ทันก่อนหมดครึ่งแรกจากที่ เดอ บรอยน์ ทางซ้ายได้บอลมาจ่ายให้ โฟเดน ตรงกรอบเขตโทษจับบอลจังหวะแรกเปิดช่องก่อนซัดเรียดเสียบเสาแรกหมดจด แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0
ไบรจ์ตันลุ้นตีเจ๊า พรอพเพอร์ ยิงเข้าซอง
กลับมาครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ยังเหนือกว่าแต่ก็มีจังหวะให้ ไบรจ์ตัน พอลุ้นตีเสมอจากเตะมุมโดนสกัดมาเข้าทาง พรอพเพอร์ หน้าเขตโทษยิงสวนแต่ เอแดร์ซอน รัเบ้ขาซองไร้ปัญหา
ไม่สอง! คันเซโล่ เปิดให้ มาห์เรซ หลุดไปยิงออกเสาสองหน่อยเดียว
หวิดมีลูกสองให้กับเจ้าบ้านแล้วในจังหวะที่ คันเซโล่ กลางสนามเปิดขึ้นหน้าให้ มาห์เรซ โดนประกบหลวมหลุดเข้าเขตโทษง่ายๆก่อนจะแปเลือกเสาไกลหลุดออกไปหน่อย
หนนี้ก็ไม่ได้! กุนโดกาน ยิงติดเซฟก่อน แบร์นาร์โด้ ซ้ำชนคาน
แมนฯ ซิตี้ น่าได้ลูกสองแบบสุดๆแล้วจากที่ มาห์เรซ พลิกพาหน้าเขตโทษแล้วจ่ายให้ กุนโดกาน ซ้ายมือแล่บเข้าไปในกรอบซัดติดเซฟ บอลเด้งมาหา แบร์นาร์โด้ แตะบอลหนีตัวสกัดได้แล้วซัดไปชนคานเต็มๆ
ไบรจ์ตันลุ้นอีก พรอพเพอร์ มาชาร์จเสาสองไม่ทัน
ผลัดกลับมา ไบรจ์ตัน ก็ได้ลุ้นที่จะมีประตูตีเสมออยู่หลังมาเคาะหน้าช่องหน้าเขตโทษไม่เจอ เลยฝากที่ พรอพเพอร์ ทางซ้ายครอสเข้าไปเสาสองเกือบมี อัลลิสเตร์ สไลด์มาชาร์จไม่ทัน
เรือได้โอกาสสองหนไล่ๆกันก็ยังไม่ได้ตุงที่สอง
เรือใบ ยังควานหาประตูที่สองต่อไปแล้วมีจังหวะไล่ๆกันสองหนติดแต่ทำไม่สำเร็จ หนแรกมาจาก คันเซโล่ ตะลุยขึ้นมาเองทางขวาหลบไปเรื่อยเข้าเขตโทษหักเข้ากลางก่อนซัดไปติดเซฟ
จากนั้น เดอ บรอยน์ พาบอลกลับมาเองถึงหน้าเขตโทษแล้วสับไกด้วยขวาก็ยังถูก ซานเชซ ทิ้งตัวเซฟอีก
ไบรจ์ตันกดดันมากขึ้นแต่ยังไม่มีจังหวะยิงดีๆ
ขยับเข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้ว ช่วงที่ผ่านมาอาจไม่มีจังหวะลุ้นแต่เป็นช่วงที่ ไบรจ์ตัน กดดันได้มากขึ้นหน่อยมาจ่ายบอลหาช่องกันหน้าเขตโทษได้พักนึง
มันน่าจะสอง! เรือได้จุดโทษแต่ ราฮีม ซัดข้ามคาน
ก่อนหมดเวลา แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสให้การันตีชัยชนะหายห่วงหลังได้จุดโทษจากจังหวะแนวรับ ไบรจ์ตัน โหม่งคืนหลังแล้ว เดอ บรอยน์ วิ่งไล่มาถึงบอลก่อน ซานเชซ เลยโดนกวาดล้มไป
สเตอร์ลิ่ง รับหน้าที่จัดการให้แต่ดันซัดโด่งข้ามคานเลยยังไม่เป็นลูกสอง
จบเกม แมนฯ ซิตี้ เฉือน ไบรจ์ตัน 1-0 เพียงพอต่อการกวาดชัย 4 เกมรวดในลีกขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 และตาม แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 4 คะแนนแถมยังมีเกมในมืออีกนัดนึง
ไบรจ์ตัน
Starting Formation: 3-4-2-1
24.
ดาวี่ พรอพเพอร์

68'
5.5
11.
เลอันโดร ทรอสซาร์ด

86'
6.0
10.
อเล็กซิส มัก อัลลิสเตร์
6.0
22.
เพอร์ซี่ เทา

68'
6.0
ตัวสำรอง
20.
ซอลลี่ มาร์ช

68'
5.5
67.
เรด้า คาดรา

86'
-
9.
นีล โมเปย์

68'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Thu Jan 14, 2021 03:17, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ