เรื่องเดียวที่อยู่ในความทรงจำผมเลยคือ
ท.ทหาร อดทน
แต่ไม่ได้หมายถึงทุกเรื่อง
ตอนไปเข้าค่าย รด. เขาชนไก่
ผมมาจากต่างจังหวัด ต้องไปรอต่อขบวนรถที่บ้านโป่ง ในตอนเช้า
ระหว่างที่รอในคืนนั้น ก็ไปกับบัดดี้ ไปเดินลาดตระเวรตลาด (ในชุด รด นั่นแหละ)
ระหว่างเดินขากลับ มันแสดงสีหน้าออกเสีย ๆ หน่อย
ผมเลยถามว่าเป็นอะไร
มันแจ้งความประสงค์มาว่าปวดขี้
ซึ่งตอนนั้นก็อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ ซึ่งมีจุดระบายความทุกทนทางทวารอย่างห้องน้ำอยู่ไม่ไกล
แต่ถ้าเทียบกับคนปวดขี้คงหลายหมื่นลี้อยู่
ก็เลยตัดสินใจว่า จะกลับไป สถานี
เพราะเข้าในใจศึกสงครามครั้งนั้นว่า ถ้าพลาดพลั้ง อาจพ่ายแพ้ ต้องหลั่งเลือดเหลืองทั้งแผ่นกางเกงได้
ก็รีบจั้มอ้าวกันไปในระดับถ้าเข็มไมล์มี 120 ก็ใส่เกินไปราว 180
ด้วยความเข้าใจ ทำให้เท้าผมก้าวเดินนำหน้าไปด้วยความเร็ว แล้วเพื่อนก็ตามมาด้วยเช่นกัน
ปรากฎว่าเหลืออีกประมาณ 100 เมตร แค่ข้ามถนน
เพื่อนส่งเสียงมาว่า กูพ่ายแพ้แล้ว เส้นทางข้างหน้า เราคงเดินไปต่อด้วยกันไม่ได้
แล้วมันก็แอบไปที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ข้างทางริมถนน
แต่มีกอหญ้าพอสูงปิดได้แค่หรรม แต่ปิดความทรงจำครั้งนั้นไม่มิด
ปลดพันธนาการที่ปิดกั้นรูตูดมันลงมากองยังเท้า
แล้วระบายข้าศึกออกทางทวารตรงนั้นเลย
ยังดีที่บ้านหลังตรงข้ามเขาปิดประตูไว้
ผมก็ไปยืนดูลาดเลาให้มัน
จะว่าไปก็คงไม่เชิง ใช้คำว่าลดความอุจาด
แต่เข้าใจในฟีลนั้น
หน้ามันจากที่เครียด ๆ
กลายเป็น เหมือนรู้ว่าตัวเอง สอบเอนเข้ามหาลัยได้ แล้วไปตรวจลอตเตอรีที่ซื้อพบว่าถูกรางวัลที่หนึ่งซ้ำอีก
แล้วผมก็ปล่อยให้มันได้มีช่วงเวลาที่ดีทางทวารไปโดยลำพัง
เพราะนอกจากความอัดอั้นแล้ว อาวุธทางเคมีที่เรียกว่ากลิ่น ก็ยังมีอัตราการทำลายล้างระบบทางเดินหายใจของผมพอสมควรเลยทีเดียว