สรุปแล้วตัวร้ายไม่ตายใช่มั้ย โทรไปหาตัวเองในอดีตเพื่อช่วยเหลือ

แต่งงว่าถ้าไม่ตายแล้วทำไมท้ายเรื่องในปัจจุบันที่ยางเอกหนีไปอยู่ในห้องแล้วตัวร้ายพังประตูเข้ามาได้ ตอนนั้นทำไมตัวร้ายถึงได้เลือนลางหายไปครับ

เกี่ยวกับผีไหมคับ พอดีอยากดูแต่ไม่ชอบที่เกี่ยวกับผี

ไม่เกี่ยวครับเป็นแนวฆาตกรฆ่าคน

ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นตอนจบอีกแบบถ้าทำให้แม่นางเอกไม่ได้โทรศัพท์ไป แต่อ่านความเห็นคนอื่นแล้วเริ่มงงเหมือนคนอื่นละ

https://m.pantip.com/topic/40354623?

ดูเรื่องนี้ อย่าคิดเยอะครับ ทำลายหลัก time travel paradox ไปเสียหมดสิ้น

แค่ใช้หลักเดียวว่า ปัจจุบันจะเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ถ้า อดีตจุดใดจุดหนึ่งเปลี่ยน

บทเรื่องนี้ตกม้าตายตอนจบเพราะแค่อยากจะพล็อททวิสเท่ๆ ให้เป็น bad end ทั้งๆที่มันผิดหลักที่เดินเรื่องมาทั้งหมด

การที่นางเอกวาปออกมาจากเหตุการณ์สุดท้ายได้ ก็เพราะตัวร้ายตาย ไม่มีทางที่ตัวร้ายจะไม่ตายแล้วเหตุการณ์เปลี่ยน การที่มาทวิสตัวร้ายให้ไม่ตายแล้วแม่หายไปจากปัจจุบันอีกทีผมว่าชุ่ยมาก ผิดหวังจริงๆ

พลอตเรื่อง มันทำออกมา ค่อนข้างชุ่ยเลย หละครับ มันเลยหาความสมจริง ของหนังไม่ได้ แต่ยอมรีบ CG ทำออกมา เนียนตาดี

อธิบายแบบผมคือ ตัวร้ายที่หายไปในปัจจุบันไม่ได้ตายครับแค่ปัจจุบันมันเปลี่ยนสถานการณ์ ตัวร้ายไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านแล้ว คือมันต้องลำดับเหตุการณืไปพร้อมกันเพราะเวลามันเดินไปพร้อมกันทั้ง2ยุคอ่ะ
ไล่ประมาณนี้
>อดีตแม่ตายและตัวร้ายอยู่ในบ้านมาเรื่อยๆซึ่งตัวร้ายได้โทรไปบอกตัวเองในอดีตช่วงนี้ละ
>เปลี่ยนอดีตแม่รอดและตัวร้ายหายไปจากบ้านกลายเป็นบ้านร้าง
>อดีตตัวร้ายสลบอยู่และยังไม่ตายปัจจุบันนางเอกได้เจอแม่ที่รอด
>ตัวร้ายที่ยังไม่ตายฆ่าแม่และปัจจุบันแม่นางเอกหายไปและนางเอกถูกจับขังมาตั้งแต่เด็กในบ้าน
อดีตคือตัวกำหนดปัจจุบันแบบที่เวลาเดินห่างกัน10ปี ปัจจุบันเลยเปลี่ยนได้ตลอดตามอดีตแบบเรียลไทล์

ขอแย้งตามนี้

ต้องยึดจุดที่Trigger ให้อดีตเปลี่ยนก่อน หนังใช้ จุด trigger ของ butterfly effect จากการ โทรศัพท์ 1 ครั้ง ในการโทรศัพท์ ได้เปิดให้ตัวละครในอดีตมีเจตจำนงอิสระ ที่สามารถตัดสินใจ ต่างจากเส้นเรื่องเดิม

หลังจาก โทรศัพ เสร็จแล้ว (หรือระหว่างโทรศัพท์อยู่) จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ช้าก็เร็ว แต่สิ่งที่สะท้อนมาถึงปัจจุบัน จะไม่มีทางที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีก เพราะตัวละครในอดีตไม่มีเจตจำนงอิสระที่จะเปลี่ยนเหตุการณ์อะไรอีก(ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ตัวละครในอดีตทำจากอดีตมาจนปัจจุบันจะสะท้อนมาที่ปัจจุบันในการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกแล้ว) เพราะยังไม่เกิดการโทรศัพท์ครั้งใหม่ เหตุการณ์จะเปลี่ยนอีกไม่ได้

สำหรับผมให้ยึดตามนี้ครับ เส้นเรื่องจริงๆของหนังคืออดีตครับและระยะเวลามันเดินพร้อมกัน ผมเน้นตรงนี้มากเลยว่าให้ดูตรงนี้ มันไม่ใช่หนังย้อนเวลาแต่มันคือหนังที่อดีตเปลี่ยนปัจจุบันเปลี่ยนตามโดยช่วงเวลาห่างเท่ากัน จุดเชื่อมมันคือโทรศัพทืตามที่ท่านว่าเลย เขาโทรหากันได้โดยที่เวลามันเดินพร้อมกัน สังเกตุเวลาที่ปัจจุบันเกิดการวาร์ปมันเกิดเพราะว่าในอดีตมีคนรอดจากที่ควรตายหรือตายจากที่ควรรอด กรณีแม่นางเอกที่ถกเถียงกันก็เช่นกัน
>สมมุติแม่ควรตายตอน 10โมงแต่ได้คุยกับนางเอกเลยรอด > ปัจจุบันเกิดวาร์ปกลายเป้นบ้านร้างและแม่นางเอกรอด
>ตัวร้ายยังไม่ตายและฆ่าแม่นางเอกอาจจะผ่านมาสัก 15นาทีเป็น10โมง15นาที > ปัจจุบันเกิดวาร์ปแม่หายและนางเอกถูกมัดอยู่เก้าอี้เพราะตอนเด็กถูกจับจากที่แม่ตาย
พอเข้าใจที่ผมอธิบายไหม 555

ผมก็งกับตอนจบ คือ การจะเปลี่ยนอนาคต ก็คือ ต้องแทรกแซงอดีต
อย่างเช่น ตัวร้ายช่วยพ่อนางเอก ตัวร้ายฆ่าสตอว์เบอรี่ อันนี้เข้าใจได้
แต่ตอนจบของเรื่อง คือ นางเอก กลับมาอยู่กับแม่ ก็แปลว่า อดีตตัวร้ายตาย
แล้วอยู่ๆแม่นางเอกหายไป เพราะ ตัวร้ายฟื้น ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้อ่ะ ไม่งั้นแม่ก็ไม่ควรกลับมาแต่แรก
แล้วตอนนางเอกโดนเทน้ำร้อนอีก คือ มันไม่ควรเจ็บหรือเปล่า เพราะ มันโดนตั้งแต่เด็กแล้ว น่าจะเป็นแค่รอยแผล

แต่ส่วนตัวถ้าดูแบบไม่คิดอะไร ก็สนุกดี พล็อตเรื่องสุดยอดมากสำหรับผม

แต่มีอีกทฤษฏีนึงที่ไปอ่านมา คือ นางเอกเป็นผู้ป่วยจิตเวช แล้วจินตนาการขึ้นมาเองหมด
เพราะ หลายอย่างอธิบายไม่ได้ เช่น ไฟไหม้ห้องใต้ดิน หรือ สายที่มาจากอดีต

ผมคิดซะว่าฉากพลอททวิสตอนจบแค่เอามาแปะเล่นๆไม่ได้ยึดโลจิคหลักเหมือนกับเนื้อเรื่องที่ผ่านมาอะ

ถ้าจะเอาแบบคุณอธิบายคือ timeline อดีตที่กำลังเกิดคู่ขนาน ต้องเป็น คนละ เส้นเรื่องกับ อดีตของปัจจุบัน

จินตนาการว่า มันคือการ อัดวีดีโอเขียนทับอดีต ด้วย เจตจำนงอิสระ ของตัวร้าย ที่ไม่เหมือนอดีต เดิม

หมายความว่า ตัวตนของตัวร้ายในอดีต ณขณะที่มันเดินในหนัง(หลังจากหลอกว่าตาย) จะมีความคิดไม่เหมือนกับตัวตนของตัวร้ายในอดีต ระหว่างจุดนั้นจนถึงอนาคตที่แม่ไม่ตาย(ที่ถูกเปลี่ยนแปลงแล้วในครั้งแรก) ซึ่งถ้าจะตีความว่าเป็นคนละเส้นเรื่องแบบนี้ ก็ยิ่งไม่มีทางที่การเปลี่ยนแปลงใดๆ จะสะท้อนมาถึงปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงแล้วได้

มัน timeline เดียวกันนี่ละครับ เหมือนจุด2จุดที่เชื่อมถึงกันแล้ววิ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน หนังมันเดินเป็นเส้นตรงเลยด้วยซ้ำ หลายท่านจะไปหลงว่าที่แม่ไม่ตายคนร้ายก็ต้องตายแล้วสิซึ่งจริงๆคนร้ายไม่จำเป็นต้องตายในเส้นเรื่องตอนนั้นก็ได้ มันรอดคู่ก็เป็นไปได้หมด
ลองมองแบบอดีตคือเส้นเรื่องหลักมันจะเข้าใจง่ายกว่านะ ตัวร้ายดำเนินเรื่องไปโดยที่มีเสียงบอกมาจากอนาคต ทุกๆการตัดสินใจ ณ ตอนนั้นทำให้อนาคตเปลี่ยนเรื่อยๆจนเกิดจุดที่ตัวคนร้ายมันติดต่อกันเองได้
พิมพ์อธิบายมันเข้าใจกันยาก ถ้าได้นั่งถกกันตรงหน้าน่าจะพูดกันง่ายกว่าและคงสนุกดี