ไม่ต้องลุ้นเยอะ! เบนซ์โขกเบิ้ล "ราชัน" ปิดจ็อบซิวสิงห์หนุ่ม 2-0 แชมป์กลุ่ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล มาดริด ปิดจ็อบแบบไม่ต้องลุ้นอะไรมากเมื่อพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 2-0 โดยได้ คาริม เบนเซม่า เหมาโขกตั้งแต่ครึ่งแรก ทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 10 คะแนนจาก 6 นัด เข้ารอบน็อคเอาท์ไปในฐานะแชมป์กลุ่มบี ขณะที่ทีมสิงห์หนุ่มมี 8 แต้มยังได้เข้ารอบเป็นที่สอง
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
74'
25.
โรดรีโก้
74'
ตัวสำรอง
11.
มาร์โค อเซนซิโอ้
74'
30.
เซร์กิโอ อาร์ริบาส
74'
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สนาม อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่
พุธที่ 9 ธันวาคม 2563
กรรมการ บียอร์น ไคเปอร์ส
เรอัล มาดริด
2
0
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
1-0 คาริม เบนเซม่า 9'
2-0 คาริม เบนเซม่า 32'
พี่มอสคัมแบ็ค ราชันขอชนะการันตีลิ่ว
เรอัล มาดริด ต้องการชนะเพื่อการันตีการเข้ารอบโดยไม่ต้องไปลุ้นผลอีกคู่ เกมนี้ข่าวดีคือได้รามอสฟิตกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงในจำแห่งเซนเตอร์คู่กับวาราน ในระบบ 4-3-3 แนวรุกวันนี้เป็น เบนเซม่า,วินิซิอุส,โรดรีโก้ ขณะที่แผงมิดฟิลด์ใช้ โครส,คาเซมิโร่,โมดริช
สิงห์หนุ่มขอแค่เสมอก็จะการันตีเข้ารอบโดยไม่ต้องพึ่งผลอีกคู่ เกมนี้มาเล่น 4-2-3-1 โดยให้ เอ็มโบโล่ ค้ำหน้าและมี ตูราม,สตินเดิล,เปลอา คอยหนุน
ออกตัวดี!เบนซ์โขกหาย 1-0 ราชันนำ
ราชันชุดขาวมาได้ประตูขึ้นนำจากโอกาสลุ้นครั้งแรกของเกม จังหวะที่บาซเกซได้บอลทางฝั่งขวาก่อนครอสเข้าไปในกรอบเขตโทษให้เบนเซม่าเทคโหม่งเสียบเสาสองไปเลย 1-0 เจ้าถิ่นเฮ
เบนซ์ปั่นแฉลบหลุดคาน
รูปเกมเป็นมาดริดที่ครองบอลได้มากกว่า จังหวะเป็นเบนเซม่าที่ได้วางเท้าปั่นด้วยขวาริมกรอบฝั่งซ้าย บอลแฉลบบล็อคปลิ้นหลุดข้ามคานไ้แค่แค่เตะมุม
เปลอาหลุดเดี่ยวพลาดโอกาสทอง
สิงห์หนุ่มน่าได้ประคูตีเสมอแบบสุดๆ จากจังหวะสวนกลับที่นอยเฮาส์กระชากขึ้นมาตรงกลางสนามแล้วแทงทะลุช่องให้เปลอาหลุดพาบอลเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย สุดท้ายเลือกยกข้ามคูร์กตัวส์แต่หลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
เจ้าเก่า!เบนซ์โขกเน้นๆ เบิ้ลราชันหนี 2-0
ราชันชุดขาวมาได้ประตูหรีเป็น 2-0 จากจังหวะที่โรดรีโก้ได้บอลที่เส้นหลังฝั่งขวาก่อนจะเลี้ยงจี้โยกหลอกเอลเวดี้แล้วเปิดเข้าไปหน้าประตูและเป็นเบนเซม่าเจ้าเก่าที่เทคโหม่งเน้นๆ ซอมเมอร์ปัดโดนแต่บอลแรงปลิ้นเข้าประตูไปเลย
โมดริชตวัดยิงชนเสาน่าเสียดาย
มาดริดน่าได้ประตูที่สามแบบสุดๆ จังหวะที่บาซเกซเล่นชิ่งหลุดไปในกรอบฝั่งขวาเกือบถึงเส้นหลังก่อนเปิดไปที่เสาแรกให้โมดริชตวัดยิงไปชนเสาเด้งออกมาก่อนที่ฝั่งสิงห์หนุ่มจะเคลียร์ออกไป
โมดริชซัดอย่างงามแต่ล้ำหน้าไปก่อน
มาดริดส่งบอลตุงตาข่ายจากจังหวะที่บอลป้วนเปี้ยนหน้าปากปรัตู เป็นโครสที่ได้บอลจากการโหม่งชงของวาราน เขาพักบอลแล้วคืนหลังให้โมดริชหวดด้วยขวาเน้นๆ ตาข่ายสั่น แต่ไม่ัทนจะได้ดีใจก็โดนผู้ตัดสินเป่าล้ำหน้าของวารานไปก่อน
สุดท้ายจบครึ่งแรกมาดริดนำไปก่อน 2-0 จากการเหมาโขกของเบนเซม่า หากจบแบบนี้พวกเขาจะเข้ารอบ ขณะที่กลัดบัคต้องลุ้นให้อีกคู๋ไม่มีผลแพ้ชนะ
เบนซ์ได้โขกเข้ามือซอมเมอร์
โอกาสลุ้นครั้งแรกในครึ่งหลังเป็นของมาดริด จังหวะที่โรดรีโก้กระชากบอลถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้เบนเซม่าได้เทคโหม่ง แต่คราวนี้บอลย้อยเข้ามือซอมเมอร์ไม่ยาก
โครสกดอีซ้ายเกือบมีหาย
โครสได้โอกาสกระชากบอลเข้าซ้ายแล้วซัดจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงจะเบียดเสาเข้าอยู่แล้วแต่ซอมเมอร์ยังขยับมาปัดเอาไว้่ได้ทัน
โรดรีโก้กลับตัวซัดเฉี่ยวเสา
อีกครั้งที่มาดริดน่าได้ประตู จังหวะที่พวกเขาต่อบอลกันหลายจังหวะมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ แล้วสุดท้ายเป็นโรดรีโก้ที่ได้กลับตัวตวัดยิงด้วยขวาพุ่งเรียดหลุดกรอบไปนิดเดียว
พี่มอสโขกติดเซฟ เบนซ์ซ้ำตำคาน!!
มาดริดน่าได้ประตูที่สามแบบสุดๆ จากจังหวะที่โครสเปิดจากฝั่งซ้ายเข้าไปตรงกลางให้รามอสโฉบโหม่งไปติดเซฟซอมเมอร์ บอลเด้งออกมาเข้าทางเบนเซเม่าได้ซัดด้วยเน้นๆทางเสาสองแต่พุ่งไปชนคานอย่างจัง
บาซเกซพลิกกดเน้นๆ จูบเสาไปอีก
อีกครั้งที่มาดริดเกือบจะได้ประตู จังหวะที่บาซเกซรับบอลจากเบนเซม่าทางกรอบฝังขวาก่อนพลิกซัดเน้นๆ พุ่งแรงชนเสาอย่างจัง เป็นอีกครั้งที่ราชันโดนเสาคานปฏิเสธในเกมนี้
เบนซ์โขกกะย้อนศร
ท้ายเกมมาดริดยังพยายามจะเอาประตูที่สาม จังหวะนี้เบนเซม่าได้เทคโขกที่เสาสอง พยายามให้บอลย้อนศรแต่ก็ไปเข้ามือซอมเมอร์
ราชันปิดจ็อบแชมป์กลุ่ม สิงห์หนุ่มเดินตาม
สุดท้ายจบเกมมาดริดเปิดบ้านเอาชนะไปไม่ยาก 2-0 โดยได้จากเบนเซม่าตั้งแต่ครึ่งแรก ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์กลุ่ม ขณะที่สิงห์หนุ่มแม้จะแพ้แต่ผลอีกคู่ไม่มีใครชนะทำให้พวกเขาตามเข้ารอบเป็นที่สองแบบหวุดหวิด
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
Starting Formation: 4-2-3-1
17.
ออสการ์ เวนด์ท
46'
36.
บรีล เอ็มโบโล่
46'
10.
มาร์คัส ตูราม
85'
ตัวสำรอง
7.
แพทริค แฮร์มันน์
85'
8.
เดนิส ซากาเรีย
46'
19.
วาเลนติโน่ ลาซาโร่
46'
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Thu Dec 10, 2020 05:06, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker