อันนี้อยากรู้ถึงในเรื่องว่าการมีเอเย่นต์มันดีกว่าในเรื่องไหนบ้างครับ เท่าที่รู้มานักเตะส่วนมากมีเอเย่นต์หมด แต่ปัญหาต่างๆที่มักเกิดขึ้นก็เพราะเอเย่นต์นี่เเหละ โดยเฉพาะป็อกบาที่เอเย่นต์มันก็หาเรื่องได้แทบตลอด และบวกกับตัวมันเองก็งอแงด้วยยิ่งเข้าทางไปอีก

นักเตะที่ฟรีเอเย่นต์และไม่เคยมีเอเย่นต์เลยที่จำได้คือพอล สโคลส์ ซึ่งทำให้เขามีสิทธิ์เลือกหรือคิดเองที่จะอยู่กับทีมไปจนแขวนสตั๊ด แต่นักเตะสมัยนี้คงเพราะเงินใช่ไหมครับถึงได้หาเอเย่นต์แบบไออ้วนไรโอล่ากัน

สมัยนี้มีเอเย่นกันทุกคนแหละ จะได้มุ่งเน้นแค่เรื่องฟุตบอล เรื่องนอกสนามให้เอเย่นจัดการไป

ฟรีเอเย่นต์ หมายถึง นักเตะที่ไม่มีสัญญาผูกมัดกับสโมสรไหนแล้ว

ไม่ใช่ไม่มีเอเย่นต์ครับ

คิดว่าการมีเอเย่นต์มันคือคอนเนคชั่นนะ ถ้าจำไม่ผิดอย่างไรโอล่าก็เคยช่วยหาสโมสรให้อิบรา(ย้ายออกจากอาหยักซ์) การต่อรองผลประโยชน์(อิบราย้ายออกจากบาซ่า)

ผมคิดว่านักเตะแบบมคิทายานก็เป็นคนที่ฉลาดนะแต่ก็ยังสังกัดเอเย่นต์

คล้ายๆกับดารามีผู้จัดการส่วนตัวแหละ คอยต่อรองผลประโยชน์ สกรีนงาน เลือกสิ่งที่ดีที่สุดทั้งภาพลักษณ์และค่าตอบแทนให้แก่นักเตะ

ดูอย่างเปเป้สิ ไม่รู้เอเย่นเป็นใคร เรียกค่าตัวได้ถึง 70 ล้าน

เอเย่น คือคนกลางผสานงานกับสโมสร เพื่อดูแลผลประโยช์นหรือนำเสนอผลประโยช์นที่พึงได้ต่อนักเตะ

อาทินักเตะเก่งมากแต่นิสัยเจียมเจี๋ยม มักน้อย ขี้เกรงใจ คนแบบนี้ก็อาจถูกครอบงำด้วยคำว่า เพื่อสโมสร เพื่อแฟนๆ เอาค่าแรงถูกๆไปซะ การมีเอเย่นที่เคี้ยวพวกเขาก็จะทำให้คนแบบนี้ได้ผลประโยช์นมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่างนักเตะที่มีเอเย่นกับไม่มีนั้น ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ในแง่ "เรียกร้องผลประโยช์น" เพราะตัวนักเตะที่ไร้เอเย่นอาจเรียกค่าเหนื่อยแพงก็ย่อมได้ งอแงขอย้ายทีมก็ย่อมได้

เคส ไรโอล่า ผมมองว่ามันเป็นเหมือนอีกขั้นของอาชีพ เอเย่น คือทำมากกว่าเอเย่นทั่วไปจะทำ จนผมคิดว่า ไรโอล่า คือผู้จัดการส่วนตัวของนักเตะซะมากกว่า คือดูแลมากกว่าการเจรจา แต่รวมถึงผลักดัน ยุแยง ให้นักเตะในสังกัดทำตามความคิดของตนเอง

เอาจริงๆ มันก็มีนักเตะบางส่วนที่ความรู้น้อย ฝึกบอลตั้งแต่เด็ก พวกสัญญาต่างๆ จึงต้องให้พวกบริษัทหรือเอเย่นต์ต่างๆ เข้ามาช่วยดูแล

เอาไว้ต่อรองแทนนักเตะ
ถ้าเป็นตัวนักเตะเองไปบอกสโมสร จะขอขึ้นค่าเหนื่อยนะ สโมสรอาจจะว่า อะไร เพิ่งดังเรียกร้องแล้วเหรอ อาจจะขัดแย้งกัน
ถ้าเปลี่ยนเป็นเอเย่นต์ไปต่อรอง สโมสรอาจจะว่า ก็เป็นหน้าที่เอเย่นต์เขา จะตกลงจะต่อรองจะปฏิเสธค่อยว่ากัน
จริงๆอาจจะเป็นนักเตะไปกระซิบเอเย่นต์เอง หรือเอเย่นต์อยากได้ตังค์ ก็ไม่รู้ แต่สโมสรจะไม่ค่อยขัดแย้งกับนักเตะ
แล้วเอเย่นต์เป็นนักต่อรองมืออาชีพ นักเตะไปขอขึ้นค่าเหนื่อยเองสโมสรอาจจะให้เบิ้ลเท่านึง เอเย่นต์ไปคุยอาจจะได้สามเท่า เป็นต้น

มีประโยชน์กับนักเตะเยอะมากครับเอเยนต์

เอาง่ายๆก็พวกสิทธิต่างๆของนักเตะที่ควรได้รับหรือกระทั่งการจ่ายภาษีเอเยนต์ก็ดำเนินการต่างๆให้หมดครับ

หรือแม้กระทั่งการรับงานจากพวกไนกี้ อดิดาสก็ต้องติดต่อผ่านเอเยนต์ก่อน

เอาง่ายๆถ้ามีเอเยนต์นักเตะไม่ต้องไปพะวงอะไรมาก วันๆก็ซ้อมกับเล่นบอลไปก็พอ

แต่ถ้าไม่มีนักเตะก็ต้องคอยพะวงต่อสัญญาทีก็ต้องมานั่งคุยสัญญาเอง ย้ายตัวทีก็ไปคุยกับทีมใหม่ที

สมาธิกับโฟกัสเลยไม่ได้จดจ่ออยู่กับฟุตบอลซักที

มีเอเยนต์ดีกว่าอยู่แล้วครับ เรื่องสัญญาต่างๆมีคนดูแลให้ช่วยได้เยอะ อ่านเองตาแตกแน่ๆ ไหนจะเรื่องพวกเรื่องรับงานนอก ดูแลภาษีต่างๆอีก

นักเตะส่วนใหญ่ ตั้งแต่เด็กฝึกแต่ด้านฟุตบอลอย่างเดียว
น้อยมากที่จะจบ ป ตรี
ไม่ต้องพูดถึงป ตรีก็ได้ เอาแค่ high school ยังมีคนยังไม่จบเลย
มาเทียบกับเราๆ ท่านๆ คนธรรมดาที่จบป ตรี เป็นส่วนใหญ่
ใครตายที ก็ต้องวิ่งไปปรึกษาทนายความเรื่องมรดกแล้ว
แล้วนักเตะ เจอผลประโยชน์เรื่องเงินมหาศาล จะไม่ให้มีเอเยนต์มาเป็นตัวช่วยไม่ได้หรอกครับ
เวลา 24 ชั่วโมง ต้องเอาไปทุ่มให้การซ้อมในสนามส่วนใหญ่
ไม่มีเวลามาอ่านเอกสารทุกหน้า ทุกบรรทัดแน่นอน
ยังไงก็ต้องมีเอเยนต์ช่วย
แต่กรณีเมื่อคืน มันก็เกินงามในหน้าที่เอเยนต์ไปหน่อย

ต่างกันตรงสนหรือไม่สนผลประโยชน์ของตัวเองครับ ถ้าไม่สนก็ไม่ต้องมีก็ได้

แบบพอลสโคล์ ป๋าบอกให้ทำอะไรก็ทำ ถึงเวลาต่อสัญญาก็เซ็นๆ ไป
ให้เล่นก็เล่น เลิกแล้วให้กลับมาเล่นก็ยังมาเล่น

บางคนแฟนเลิก ฟอร์มยังตก
บางคนเรียนภาษาไปด้วยเตะบอลไปด้วยยังไม่ไหว
ถ้าให้ต้องมาจัดการเงินภาษี เงินสปอนเซอร์ เงินโฆษณาด้วย
จะเอาสมาธิที่ไหนมาโฟกัสเรื่องฟุตบอล

ลองหาอ่านดีลของ CR7 ที่เพจ วิเคราะห์บอลจริงจัง
เอเย่นเก่งๆนี่โคตรเท่เลยนะ ได้ผลประโยชน์ทุกฝ่าย ทั้งนักเตะและสโมสร