โบว์-ปัณฑิตา ศิลปินวัย 23 ปี ที่ทำรายได้จากงานศิลปะถึง 10 ล้านบาท /โดย ลงทุนเกิร์ล
การซื้องานศิลปะสักชิ้นหนึ่งมาสะสม
บางคนอาจเลือกจากงาน ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินที่มีชื่อเสียง
เพราะผลงานเหล่านี้ มักมีโอกาสที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
ซึ่งถ้ากล่าวถึงศิลปินชื่อดังในประเทศไทย เราอาจนึกถึงศิลปินแห่งชาติ
ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลที่อยู่ในวงการศิลปะมานาน หรือค่อนข้างมีอายุ
อย่างไรก็ตาม “อายุ” ก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดความสำเร็จเสมอไป
เพราะตอนนี้ หนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ ที่กำลังได้รับการจับตามองจากนักสะสม
ก็น่าจะมีชื่อ คุณโบว์-ปัณฑิตา มีบุญสบาย อยู่ด้วย
โดยภาพวาดของเธอ ถูกประมูลไปในราคาเกือบ 2 แสนบาท ก่อนที่เธอจะเรียนจบด้วยซ้ำ
คุณโบว์-ปัณฑิตา มีบุญสบาย คือใครและน่าสนใจอย่างไร? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
คุณโบว์ คือเด็กสาวจากจังหวัดระยอง
ที่เพิ่งจบการศึกษาจาก คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ปัจจุบันเธออายุ 23 ปีเท่านั้น
แต่ด้วยระยะเวลาเพียง 2 ปี เธอกลับขายผลงานศิลปะได้กว่า 200 ชิ้น
จริงๆ แล้ว เมื่อก่อนคุณโบว์ก็เคยมองว่าภาควิชาที่เธอเรียน
จบมาแล้ว ก็ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร
เพราะเธอไม่เคยมองเห็นความมั่นคงของชีวิตในวงการศิลปะเลย
ซึ่งคุณโบว์เอง ที่เลือกคณะจิตรกรรม ก็เพราะแค่ “ความชอบ”
รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ทางด้านการวาดรูป และที่บ้านก็สนับสนุนเธออย่างเต็มที่
แต่แล้วเส้นทางชีวิตของคุณโบว์ในวงการศิลปะก็เริ่มชัดเจนขึ้น
เมื่อมีนักสะสมคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้จักคุณโบว์มาก่อน
เห็นผลงานธีสิสตอนปี 4 ที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก และส่งข้อความมาขอซื้อผลงานของเธอ
และนั่นก็เป็นภาพแรกที่คุณโบว์สามารถขายได้ ด้วยราคา 20,000 บาท
แม้จะดูเป็นก้อนเงินที่ไม่ใหญ่มาก เทียบไม่ได้กับผลงานศิลปินชื่อดัง
แต่มันก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คุณโบว์มองเห็นถึงโอกาสในอาชีพสายนี้
ว่าเป็นอาชีพที่หาเลี้ยงตัวเองได้ และสามารถต่อยอดได้ในอนาคต
และก็ถือว่าเป็นความคิดที่ถูกต้อง
เพราะปัจจุบันผลงานของคุณโบว์ กลายเป็นที่ต้องการในวงการศิลปะ
แล้วจุดเด่นที่ทำให้นักสะสมสนใจงานศิลปะของคุณโบว์ คืออะไร?
ถ้ามองย้อนกลับไป งานศิลปะที่ผู้คนให้คุณค่า มักจะเป็นงานเชิงอนุรักษ์ความเป็นไทย
แต่คุณโบว์กลับมองต่างออกไปว่า “ศิลปะ” ควรเป็นเพียงแค่ “งานศิลปะที่ไม่ต้องมีเนื้อหาอะไร”
เพราะเธอต้องการผลิตงานศิลปะที่จรรโลงใจผู้คนมากกว่า
โดยคำจำกัดความงานของเธอคือ “แฟนตาซี อาร์ต” เป็นผลงานที่ทรงพลัง
และใช้พลังเกินตัว ตรงกันข้ามกับบุคลิกของเธอที่ดูเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ
เรามาดูยอดขายของผลงานศิลปะคุณโบว์กันค่ะ
ปกติแล้วคุณโบว์จะผลิตงานศิลปะได้ประมาณ 6 ชิ้นต่อเดือน
ซึ่งผลงานแต่ละชิ้น มีราคาไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท
แปลว่าใน 1 ปี คุณโบว์ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาทเลยทีเดียว
ซึ่งตอนนี้ผลงานของคุณโบว์ มียอดจองล่วงหน้าไปถึงปี 2565 แล้ว
แม้ภาพวาดจะยังไม่ถูกวาด แต่ก็มีคนตั้งตารอผลงานคุณโบว์นานเป็นปีๆ
ซึ่งถ้านับตั้งแต่วันที่ คุณโบว์เริ่มขายผลงานชิ้นแรก
ผ่านมา 2 ปี เธอก็สามารถขายงานไปได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ไม่เพียงเท่านี้ เธอยังสามารถทำยอดเงินถึง 100,000 บาท
ภายในเวลา 1 ชั่วโมง จากการขายจานสีทั้งหมด 20 ชิ้น
แน่นอนว่าเหล่านี้ไม่ใช่จานสีทั่วไป แต่เป็นจานสีที่คุณโบว์ใช้ผสมสีสำหรับวาดรูป
ที่มาพร้อมกับเรื่องราว เพราะ จานสีแต่ละอัน จะถูกใช้กับผลงานหนึ่งชิ้นเท่านั้น
และเธอจะไม่ล้างจานสีเลยสักครั้งจนกว่าผลงานนั้นจะเสร็จ
ซึ่งรายได้ทั้งหมดจากการขายจานสี ยังถูกนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาศิลปะที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ เรามาดูแนวคิดที่คุณโบว์ใช้ในการพัฒนางานศิลปะของเธอกันค่ะ
อันดับแรก คุณโบว์มองว่า ผลงานทุกชิ้นที่ออกมาไม่มีคำว่า “สมบูรณ์ 100%”
เพราะคำว่า “สมบูรณ์แบบ” คือข้อจำกัดความของการ “หยุดพัฒนา”
ดังนั้นผลงานชิ้นโปรดของคุณโบว์ มักจะเป็นผลงานใหม่ล่าสุดเสมอ
เพราะเธอจะหาจุดผิดพลาดในทุกชิ้นงาน เพื่อนำไปพัฒนาและสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ต่อไป
ต่อมา “แรงบันดาลใจ” ก็เป็นส่วนสำคัญในการผลิตงานใหม่
โดยแรงบันดาลใจในการผลิตผลงานของคุณโบว์จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว
อย่างเช่น ศิลปินที่เธอชื่นชอบก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่เจาะจงเสพงานของศิลปินที่เธอชอบนานๆ
เพราะเธอคิดว่า ทุกคนจะมีธรรมชาติของการลอกเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว
ทั้งทางพฤติกรรม รวมถึงเนื้องาน ทำให้บางทีผลงานอาจจะไปคล้ายคลึงกันได้
ดังนั้นเมื่อคุณโบว์ไม่ยึดติดกับผลงานของคนใดคนหนึ่ง
ผลงานขอเธอจึงไม่เคยหยุดนิ่งและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นกัน
นอกจากนั้นเราต้องค้นหา “เอกลักษณ์” ของตัวเองให้เจอ
การเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีฝีมือดีที่สุด
แต่มันอยู่ที่ความแตกต่างและวิธีการนำเสนอผลงานมากกว่า
ที่ผ่านมาคุณโบว์ได้ทดลองทำงานศิลปะมาหลากหลายแบบ
ทำให้เธอสามารถสร้างเป็นเอกลักษณ์ของเธอได้อย่างทุกวันนี้
คุณโบว์ จึงไม่อยากให้ศิลปินรุ่นใหม่ ตีกรอบความคิดของตัวเอง
หรือสนใจแต่จำนวนเงิน และเลือกทำงานศิลปะตามความนิยม
แต่ต้องสร้างความแตกต่าง และเป็นผู้นำในด้านที่ตัวเองถนัด
ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้คนสนใจซื้อผลงานมากกว่า
อย่างสุดท้ายคือ “การรักษามาตรฐาน”
ซึ่งการรักษามาตรฐานผลงานศิลปะของคุณโบว์คือ ไม่ได้ทำให้มันเท่าเดิม
แต่ทำมาตรฐานให้ดีขึ้นกว่าเดิมทุกครั้ง และพยายามสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ให้ดีขึ้นกว่าชิ้นเดิม
เรื่องนี้ยังทำให้คุณโบว์มีข้อจำกัดด้านปริมาณการผลิตผลงาน
เพราะแม้ว่าจะได้รับการติดต่อขอซื้อผลงานอย่างไม่ขาดสาย
แต่เธอก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะต้องการรักษามาตรฐานเอาไว้
เรื่องราวของคุณโบว์ เป็นหนึ่งสัญญาณที่ดีของวงการศิลปะในประเทศไทย
ทำให้เห็นว่าปัจจุบัน สังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น
มีหลายคนเริ่มให้คุณค่ากับงานศิลปะแนวใหม่ๆ นอกจากผลงานที่เน้นความเป็นไทยและวัฒนธรรม
ในอนาคตวงการศิลปะไทย ก็น่าจะมีโอกาสเติบโตไปในทางที่ดี เกินกว่าที่หลายคนคาด
References:
-www.facebook.com/puntita.meeboonsabai
-สัมภาษณ์ตรงกับคุณโบว์-ปัณฑิตา มีบุญสบาย
Credit ลงทุนเกิร์ล
ช่วงหลังจากได้ออกสื่อบ่อยๆ เริ่มมีเซเลปมาจับจองมากขึ้น
เริ่มจาก ณเดช ญาญ่า
เซนต์ มิว
ปกอัลบั้ม whal&dolph
ล่าสุด ใหม่ ดาวิกา ก็ติดต่อไป