'หล่อเหลา' ขอเบิ้ล! น้ำหอมซิวสวีเดนส่งท้าย 4-2 แชมป์กลุ่มไร้พ่าย
ส่งท้ายอย่างยอดเยี่ยมสำหรับ ฝรั่งเศส ที่โดนนำอย่างไวแต่ก็ได้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ จัดการเหมาสองลูกและที่เหลือ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ กับ คิงสลี่ย์ โคมัน แบ่งกันยิง น้ำหอม เอาชนะ สวีเดน 4-2 จบเนชันส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่มโดยที่ไม่แพ้ให้ใครเลย
ฝรั่งเศส
Starting Formation: 4-4-2
4.
ราฟาเอล วาราน
45'
6.0
21.
ลูคัส เอร์นานเดซ
45'
5.5
14.
อาเดรียง ราบิโอต์
78'
6.0
22.
มาร์คุส ตูราม
57'
7.0
9.
โอลิวิเยร์ ชิรูด์
84'
8.5
ตัวสำรอง
15.
สตีเฟ่น เอ็นซองซี่
78'
-
13.
เคิร์ท ซูม่า
45'
6.0
19.
ลูคัส ดีญ
45'
6.0
11.
คิงสลี่ย์ โคมัน
84'
6.5
10.
คิลิยัน เอ็มบาปเป้
57'
6.5
ฟุตบอลเนชันส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ลีก เอ 3
สนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563
กรรมการ อเล็กเซย์ คูลิบาลอฟ
ฝรั่งเศส
4
2
สวีเดน
1-1 ชิรูด์ 16'
2-1 ปาวาร์ 36'
3-1 ชิรูด์ 59'
4-2 โคมัน 90+5'
0-1 คลาสสัน 4'
3-2 ไควสัน 88'
ฝรั่งเศส เข้ารอบไปแล้วแต่ยังยึดตัวหลักเดิมๆอยู่ มีแดนกลางให้ ซิสโซโก้ กับ ตูราม ลงเล่นและส่ง ชิรูด์ กับ กรีซมันน์ จับคู่ในแดนหน้า
สวีเดน ยังพอมีโอกาสรอดตกชั้นอยู่และพวกเขาเปลี่ยนนักเตะตำแหน่งเดียว ด้วยการส่ง คลาสสัน ลงมาเล่นแทน เอ็คดัล ที่ติดโทษแบน
สวีเดนมาไว! คลาสสัน ยิงแฉลบนำก่อนเลย
เริ่มเกมมาไม่นาน สวีเดน ก็ชิงเอาประตูออกนำก่อนแล้ว ภายหลังบอลปาดจากขวาเข้าเขตโทษโดนสกัดไว้ คลาสสัน เก็บได้หน้าเขตโทษจะลุยต่อโดนชนนิดนึงยังไม่เสียหลักเลยดีดส่งบอลแฉลบเปลี่ยนทางเข้าเลย สวีเดน ออกนำ 1-0
น้ำหอมตอบโต้ หล่อเหลา โหม่งคนเดียวโดนปัด
หลังจากนั้นมา ฝรั่งเศส ก็เดินหน้าบุกใหญ่และมีจังหวะลุ้นตีเสมอด้วย ซิสโซโก้ ครอสจากริมเส้นขวามาในเขตโทษแล้ว ชิรูด์ ว่างๆขึ้นโหม่งคนเดียวแต่โดนปัดเอาไว้
ขอคืน! ตูราม จ่ายถึง หล่อเหลา ยิงไม่จับตีเจ๊า
แล้วในไม่ช้า ฝรั่งเศส ก็เอาประตูตีเสมอสำเร็จเมื่อ ตูราม เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วจ่ายมาให้ ชิรูด์ ตรงกลางยิงแบบไม่ต้องจับเสียบเสาแรก ฝรั่งเศส ไล่ตีเสมอ 1-1
ฟอร์สเบิร์ก สับไกหน้าเขตโทษหลุดกรอบ
สวีเดน ตอบโต้กลับบ้างด้วย เบงท์สัน ริมเส้นซ้ายรับบอลมาแล้วจ่ายเข้ากลางให้ ฟอร์สเบิร์ก แตะหลบไปหน้าเขตโทษก่อนสับไกด้วยขวาแต่พุ่งหลุดกรอบไปพอสมควร
ยังหาโอกาสหสาดเสียวเพิ่มไม่เจอ
ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกมากลายเป็นทั้งสองฝั่งตันๆไป ไม่มีใครหาโอกาสลุ้นเอาประตูนำเพิ่มได้เลยส่วนใหญ่บอลไปเสียเอาตรงกลาง
แซงแล้ว! ตูราม โชว์สเต็ปยิงติดบล็อกกอน ปาวาร์ ซัดเสียบเสา
แล้วจังหวะนี้ น้ำหอม ก็เอาประตูแซงนำสำเร็จ ต้องชม ตูราม ก่อนเลยจากที่รับบอลหน้าเขตโทษทางซ้ายแล้วโยกหลบสองทีเข้าเขตโทษตามด้วยการหมุนแล้วยิงติดบล็อก บอลกลายเป็นดีลอยมาหา ปาวาร์ วางเท้ายิงไม่ต้องจับเสียบเสาไกลขึ้นนำ 2-1
เกือบมีเพิ่ม! ราบิโอต์ ยิงไกลแฉลบเกือบมุดเสียบคาน
ฝรั่งเศสเดินเครื่องต่อเลยมีลุ้นจะเป็นประตูทิ้งห่างกับจังหวะ ราบิโอต์ หน้าเขตโทษรับบอลมาเห็นช่องตั้งป้อมยิงไกลติดแฉลบลอยโด่งจะเสียบคานยังโดนปัดออกไปก่อน
หล่อเหลา ได้โหม่งอีกแล้วหลุดเสาออกไป
มาครึ่งหลัง ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูเพิ่มหลังถ่ายบอลไปทางขวา ซิสโซโก้ มีโอกาสมองแล้วครอสเข้าเขตโทษเป้าหมายคือ ชิรูด์ คนเดิมโหม่งได้แต่หลุดออกเสาแรกน่าเสียดาย
หนนี้ไม่เหลือ! น้องเป้ ครอสให้ หล่อเหลา โขกตุงตาข่าย
ยังเป็น ฝรั่งเศส เดินหน้าบุกต่อและก็มีลูกสามทิ้งห่างสำเร็จ จุดเริ่มต้นจากบอลโยนข้าฟากมาให้ เอ็มบาปเป้ ทางซ้ายที่เพิ่งลงมาใหม่ก่อนจะตั้งป้อมเปิดไปในเขตโทษจบที่ ชิรูด์ วิ่งโฉบมาโขกเต็มหัวไม่มีเหลือก ฝรั่งเศส นำเพิ่ม 3-1
สวีเดนท่าไม่ดีหาจังหวะลุ้นไม่ได้ลเย
หลังจากนั้นมา สวีเดน พยายามตอบโต้แล้วแต่ก็สร้างโอกาสยิงดีๆไม่ได้เลย ถ้าเป็นแบบนี้พวกเขาจะเป็นทีมที่ตกชั้นจากลีก เอในฐานะบ๊วยของกลุ่ม
เกือบมีเพิ่ม! หล่อเหลา พักอกให้ อ๋อง วอลเล่ย์เฉี่ยวคาน
กลับมาเป็น น้ำหอม หวิดมีตุงสี่เพิ่มหลังทิ้งบอลขึ้นมาทางซ้ายให้ เอ็มบาปเป้ ตามเก็บสุดเส้นหลังแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ ดีญ ก่อนย้อนออกมาที่ ป็อกบา แล้วเปิดเข้าไปถึง ชิรูด์ พักอกให้ กรีซมันน์ วอลเล่ย์พุ่งหลุดคานไปหน่อย
น้ำหอมมาอีกชุด หล่อเหลา ยิงหนนี้โดนรับไม่ยาก
เข้าท้ายครึ่งแรกแล้ว ฝรั่งเศส ได้จังหวะสวนกลับขึ้นมาด้วยการแทงให้ เอ็มบาปเป้ ควบตามเข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วโยกหาช่องยิงติดบล็อก บอลเด้งมาถึง ชิรูด์ หน้าเขตโทษลองยิงสวนเลยแต่หลักไม่ดีบอลเลยกระดอนไปถูกรับง่ายๆ
พอมีหวัง?! ไควสัน ชาร์จจ่อไล่จี้เหลือลูกเดียว
สวีเดนยังไม่ยอมแพ้หาประตูไล่จี้มาจนได้ กับจังหวะบอลเปิดหลุดมาหา คูลูเซฟสกี้ ทางขวาแล้วได้ตักเข้าไปใหม่เสาไกลมี เบงท์สัน ตบกลับมาหน้าประตูจบที่ ไควสัน ชาร์จจ่อๆไม่เหลือไล่มาเป็น 3-2
ไม่ต้องหวัง! โคมัน ปิดท้ายยิงเข้าประตูโล่งๆ
ก่อนหมดเวลา ฝรั่งเศส มีประตูแถมเป็นการปิดท้าย หลัง โอลเซ่น ขึ้นไปเล่นลูกฟรีคิกด้วยเพื่อลุ้นประตูตีเสมอแต่ฟรีคิกทำอะไรไม่ได้แล้วโดนสวนกลับ โคมัน วิ่งมาเอาบอลมีกองหลังขวางคนเดียวเลยแต่งเอาเนียนๆแน่ๆ จบด้วยการยิงส่งบอลค่อยๆกลิ้งเข้าประตูโล่งๆ 4-2
จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ สวีเดน ไปได้ 4-2 ทำให้จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยไม่แพ้ใครเลยจากที่กวาดชัย 5 เกมและสะดุดเสมอนัดเดียว
ส่วน สวีเดน จบในฐานะบ๊วยของกลุ่มทำให้พวกเขาจะต้องร่วงลงไปเล่นในลีก บีสำหรับเนชันส์ ลีกหนหน้า
สวีเดน
Starting Formation: 4-4-2
3.
วิคตอร์ ลินเดเลิฟ
66'
5.5
2.
มิกาเอล ลุสติก
67'
5.5
17.
วิคตอร์ คลาสสัน
66'
6.5
7.
เซบาสเตียน ลาร์สัน
87'
6.0
9.
มาร์คุส เบิร์ก
86'
5.5
ตัวสำรอง
14.
ฟิลิป เฮลันเดอร์
66'
6.0
16.
เอมิล คราฟธ์
67'
5.5
22.
โรบิน ไควสัน
66'
6.5
11.
อเล็กซานเดอร์ อิซาค
86'
-
18.
เยนส์ คายุสเต้
87'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Wed Nov 18, 2020 04:48, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
