ฟีโน่ซัดจ่อ! "แซมบ้า" หืดจัดๆ ซิว "นางงาม" 1-0 ทวงฝูง
หืดขึ้นคอทีเดียวสำหรับบราซิล หลังจากโดน VAR ปฏิเสธไปสองครั้งในครึ่งแรก แต่สุดท้ายนาที 68 เป็น โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ที่ซัดส้มหล่นจ่อๆ ทำให้ทัพแซมบ้าเฉือนชนะ เวเนซูเอล่า 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 โซนอเมริกาใต้
บราซิล
Starting Formation: 4-3-3
6.
เรนาน โลดี้
90+6'
18.
ดักลาส ลุยซ์
46'
7.
ริชาร์ลิซอน
76'
9.
กาเบรียล เชซุส
76'
ตัวสำรอง
19.
เอแวร์ตอน
76'
13.
อเล็กซ์ เตลเลส
90+6'
11.
ลูคัส ปาเกต้า
46'
17.
เปโดร
76'
ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
สนาม โมรุมบี
เสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2563
กรรมการ ฮวน เบนิเตซ
บราซิล
1
0
เวเนซูเอล่า
1-0 โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ 68'
ฟีโน่,เชซุส,ริชาร์ลิซอน สามประสานแนวรุกแซมบ้า
บราซิลมาเล่น 4-3-3 โดยแนวรุกมี ริชาร์ลิซอน,ฟีร์มิโน่,เชซุส แผงกลาง ดักลาส,อัลลัน,ริเบโร่ แนวรับซ้ายไปขวา โลดี้,ซิลวา,มาร์ควินญอส,,ดานิโล่ และ เอแดร์ซอน เฝ้าเสา ฝั่งเวเนซูเอล่าก็มา 4-3-3 โดยวางแนวรุกเป็น รอนดอน,มาชิส,โซเตลโด้
• เจอกัน 7 นัดหลังสุดทุกรายการ บราซิล ชนะ 4 เสมอ 3
ซิลวาโขกเตะมุมข้ามคาน
เริ่มเกมมาบราซิลก็เปิดหน้าลุยใส่เลยและมาได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เอแวร์ตอนรับหน้าที่เปิดโค้งไปเสาแรกแล้วเป็นซิลวาที่โฉบโหม่งแต่บอลก็หลุดข้ามคานไปไกล
ริชาร์ลิซอนซ้ำตุง แต่เพื่อนโดนจับล้ำไปก่อน
เจ้าถิ่นส่งบอลเข้าประตูจังหวะที่มาร์ควินญอสวางยาวจากแดนหลังไปทางกรอบฝั่งซ้าย เป็นโลดี้ที่โฉบแปกึ่งยิงกึ่งผ่านติดเซฟฟาริเนซ ฟิร์มิโน่พยายามซ้ำแต่ไม่โดน ก่อนที่บอลจะเด้งมาเข้าทางริชาร์ลิซอนที่แปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นการล้ำหน้าหลังจากเช็ค VAR
นางงามเสียโควต้าเปลี่ยนตัว
เวเนซูเอล่าต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกเนื่องจากเฟลท์เชอร์มีอาการบาดเจ็บ และเป็นมาโก้ที่ลงไปเล่นแทนในตำแหน่งแบ็คซ้าย
ฟีโน่ได้ช่องซัดไกลติดเซฟ
เกมของบราซิลค่อนข้างอึดอัด พวกเขาครองบอลมากกว่าก็จริงแต่ยังหาทางเจาะแนวรับทีมเยือนไม่ได้ จังหวะนี้ฟิร์มิโน่รับบอลจากเอแวร์ตอนก่อนพลิกแล้วเห็นช่องซัดด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งเรียดแรงแต่ฟาริเนซยังล้มตัวปัดเอาไว้ได้
ฟีโน่โขกเตะมุมหลุดเสาสอง
จังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาของบราซิล เอแวร์ตอนเปิดเข้าไปตรงกลางแล้วเป็นฟิร์มิโน่ที่เทคโหม่งลงพื้นแต่ก็หลุดเสาสองไป
ริชาร์ลิซอนชาร์จจ่อๆ หลุดเฉย
บราซิลน่าได้ประตูขึ้นนำแบบ จากจังหวะที่โลดี้ครอสจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปตรงกลางแล้วกาเบรียลโฉบแปะให้ริชาร์ลิซอนชาร์จจ่อๆหลุดกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ดักลาสซ้ำขลุกขลิกตุงตาข่าย แต่ริชาร์ลิซอนฟาวล์ไปก่อนแล่ว
บราซิลส่งบอลเข้าประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ริชาร์ลิซอนได้โขกหน้าปากประตูติดเซฟฟาริเนซ บอลขลุกขลิกอยู่หน้าปากประตูแล้วสุดท้ายเป็นดักลาสที่ตามซ้ำตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะฟาวล์ของริชาร์ลิซอนที่ใช้มือผลักโอโซริโอ้ตั้งแต่จังหวะขึ้นโหม่ง
ดานิโล่ซัดไกลติดเซฟ จบครึ่งแรกยังไร้สกอร์
ก่อนจบครึ่งแรกบราซิลพยายามบุกเอาประตู จังหวะนี้ดานิโล่รับบอลจากซิลวาก่อนวางเท้ากดด้วยขวาระยะไกล บอลพุ่งเรียดตรงกรอบแต่ก็ไปติดเซฟฟาริเนซ สุดท้ายจบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
ปาเกต้าลงช่วยเกมรุกแซมบ้า
เริ่มครึ่งหลัง บราซิลเปลี่ยนตัวคนแรกโดยส่งปาเกต้าลงไปเล่นเกมรุกแทนดักลาส ลุยซ์ที่มีใบเหลืองติดตัวในครึ่งแรก
เชซุสโขกหลุดกรอบ
โอกาสลุ้นอีกครั้งของบราซิล เป็นจังหวะที่ริชาร์ลิซอนเปิดเข้ากลางให้กาเบรียล เชซุสได้โขกแต่บอลพุ่งหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
เอาจนได้!ฟีโน่ส้มหล่นแปจ่อไม่พลาด 1-0 แซมบ้าเฮ
แล้วความพยายามของบราซิลก็มาเป็นผล จังหวะที่ริเบโร่ได้บอลกระชากถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตักไปเสาสองแล้วมาชิสพยายามโหม่งสกัดแต่ผิดเหลี่ยมไปเข้าทางปืนฟิร์มิโน่ที่ได้ยิงจ่อๆ หน้าประตูไม่มีพลาด 1-0 แซมบ้าออกนำจนได้
ปาเกต้าตีลังกาฟาดแป้ก
บราซิลยังครองบอลบุกอย่างต่อเนื่องแม้จะเจาะไม่ค่อยเข้า จังหวะนี้เอแวร์ตอนได้บอลหลุดไปทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนบรรจงตักไปเสาสองให้ปาเกต้าตีลังกาฟาดแต่โดนไม่เต็มพลาดโอกาสไป
ฟีโน่กะจะเบิ้ลเสียหน่อย
อีกครั้งของบราซิลจังหวะที่ต่อบอลมาริมกรอบเขตโทษ แล้วเป็นเปโดรที่ทำชิ่งให้ฟิร์มิโน่ได้จังหวะแปเร็วด้วยขวา บอลแฉลบพุ่งหลุดเสาเป็นแค่เตะมุม
คาสเซเรสได้โขกข้ามคาน
เวเนซูเอล่าได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะที่คาสเซเรสครอสลูกโหม่งของเดล ปิโน่ แต่บอลก็หลุดข้ามคานไป
โอเตโร่ซัดฟรีิคิกแฉลบข้ามคาน
เวเนซูเอล่าได้ฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา เป็นโอเตโร่ที่รับหน้าที่ซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งแฉลบกำแพงข้ามคานได้เป็นเตะมุม
ฟีโน่ซัดโทนพาแซมบ้านทวงฝูง
สุดท้ายจบเกมเป็นบราซิลที่เฉือนชนะแบบหืดขึ้นคอ โดยมาได้ประตูโทนในครึ่งหลังจากผลงานของฟิร์มิโน่ ทำให้พวกเขาเก็บ 9 แต้มเต็มกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง
เวเนซูเอล่า
Starting Formation: 4-3-3
20.
โรล์ฟ เฟลท์เชอร์
19'
16.
โรแบร์โต้ โรซาเลส
65'
17.
คริสเตียน คาสเซเรส จูเนียร์
10.
เยเฟอร์สัน โซเตลโด้
65'
7.
ดาร์วิน มาชิส
79'
ตัวสำรอง
14.
หลุยส์ มาโก้
19'
19.
เจฟเฟอร์สัน ซาวาริโน่
79'
21.
อเล็กซานเดอร์ กอนซาเลซ
65'
18.
โรมูโล โอเตโร่
65'
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Sat Nov 14, 2020 09:38, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ