ฟาบินโญ่เดี้ยง!! โชด้า ควง โม คนละตุง ‘หงส์’ 2-0 กด 6 แต้มเต็ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
กองหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แทบไม่เหลือแล้วหลัง ฟาบินโญ่ กองหลังจำเป็นเดี้ยงเป็นรายล่าสุดยังดีได้ ดิโอโก้ โชต้า ยิงเบิกร่องและเป็นลูกที่ 10,000 ในประวัติศาสตร์สโมสรก่อนโม ซาลาห์ จะมากดจุดโทษทดเจ็บเอาชนะ มิดทิลลันด์ แบบฟอร์มหนืดๆ 2-0 คว้าชัย 2 นัดติดนำจ่าฝูง แชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่ม ดี
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
3.
ฟาบินโญ่

30'
6
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
7.5
18.
ทาคุมิ มินามิโนะ

60'
6
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

46'
6
27.
ดิว็อค โอริกี้

60'
6
20.
ดิโอโก้ โชต้า

80'
7.5
ตัวสำรอง
5.
จอร์จินิโอ้ ไวจ์นาลดุม

46'
6
46.
รีส วิลเลี่ยมส์

30'
6
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่

80'
6
10.
ซาดิโอ มาเน่

60'
6
11.
โมฮาเหม็ด ซาลาห์

60'
6.5
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี
สนาม แอนฟิลด์
อังคารที่ 27 ตุลาคม 2563
กรรมการ พาเว ราซซ์คอฟสกี้
ลิเวอร์พูล
2
0
มิดทิลลันด์
1-0 ดิโอโก้ โชต้า 55'
2-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 90+2' (Pen.)
ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวนักเตะเพียบในนัดนี้โดยเฉพาะแดนกลางและแดนหน้า โดยสามประสานวันนี้เป็นหน้าที่ของเซอร์ดาน ชากิรี่, ทาคุมิ มินามิโนะและดิว็อค โอริกี้ ส่วนดิโอโก้ โชต้าคอยทำเกมจากแดนกลางแล้วให้เจมส์ มิลเนอร์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน คอยไล่แดนกลาง ขณะที่แนวรับนั้นยังใช้ชุดเดิมลงสนาม
หงส์ครองเกมบุกใส่
เริ่มเกมในช่วงแรกลิเวอร์พูล ครองเกมบุกกดดันเข้าใส่ได้มากกว่าแต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่เจอ ขณะที่ทีมเยือนมีโอกาสส่องไปหนจากจังหวะที่โชลซ์เปิดบอลไปให้เดรเยอร์ ยิงด้วยซ้ายแต่ไปติดเซฟของอลิสซอน
เฮนโด้โขกไม่มีอะไร
เกมยังคงเป็นของเจ้าถิ่นแทบจะฝ่ายเดียวแต่หาโอกาสเข้าทำแทบไม่ได้ จังหวะนี้ได้คอนเนอร์โรเบิร์ตสันเปิดเข้ามาเฮนเดอร์สันได้โหม่งแต่ก็ไม่มีอะไรให้ลุ้น
งานเข้า!ฟาบินโญ่เดี้ยง น้องรีสมาแทน
เกมต้องหยุดลงชั่วขณะเมื่อฟาบินโญ่ มีอาการบาดเจ็บที่ขาซ้ายจังหวะวิ่งต้องให้หมอลงมาดูอาการยืดกล้ามเนื้อพักใหญ่ ทว่าสุดท้ายเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอา รีส วิลเลี่ยมส์ ลงสนามมาแทน
โชต้ายิงไม่เต็ม
คอนเนอร์ทางซ้ายของลิเวอร์พูล โรเบิร์ตสัน เปิดบอลมาลุ้นตรงกลางประตูแล้วมาตกใส่เท้าของโชต้าที่าางเท้าแปด้วยขวาแต่โดนไม่ดีบอลก็หลุดออกหลังไปอีก
มิลเนอร์หลุดซัดติดบล็อค
จังหวะนี้ลิเวอร์พูลทำเกมกันได้สวย มินามิโนะจ่ายไปให้โชต้า ดึงจังหวะก่อนแทงทะลุช่องให้มิลเนอร์ที่สอดขึ้นมาตวัดยิงด้วยขวาบอลไปติดบล็อคออกหลังได้แค่เตะมุม
ทาคิโขกไกลเกิน
ก่อนหมดครึ่งแรก อาร์โนลด์ วางบอลวางมาจากริมเส้นด้านขวาให้มินามิโนะ พยายามวิ่งสอดไลน์มาโขกแต่ระยะไกลเกินไปบอลก็เบาค่อยๆหลุดออกหลังไม่มีอะไร
หงส์ชิ่งสวย!โชต้าจบสบายนำ 1-0
หงส์แดง ได้ประตูขึ้นนำจนได้ เริ่มจากเทรนท์ลากบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนฝากบอลให้ชากิรี่ แทงทะลุช่องกลับมาให้แล้วปาดเข้ากลางมีโชต้าวิ่งมารอก่อนยิงเข้าประตูโล่งๆไป 1-0 และลูกนี้เป็นประตูที่ 10,000 ของสโมสรในการลงสนามทุกรายการด้วย
ซาลาห์,มาเน่ เติมจี๊ด
คล็อปป์เปลี่ยนตัวเพิ่มเอาดิว็อค โอริกี้ และทาคุมิ มินามิโนะออกไปแล้วส่งซาดิโอ มาเน่และโม ซาลาห์ ลงสนามมาเติมแนวรุกแทนช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย
ชากิรี่สับขาอย่างสวย
ไวจ์นาลดุมจ่ายบอลไปให้ชากิรี่โชว์สับขาหลอกใส่โชลซ์ได้สวยก่อนหลุดเข้ากรอบเขตโทษแต่สุดท้ายม่เปาลินโญ่ อ่านทางถูกขยับมาดักได้ก่อนไม่งั้นดาวเตะสวิสได้ยิงเต็มๆแน่
เอวานเดอร์ม้วนยิงหลุดเสา
ลิเวอร์พูลเกือบโดนตีเสมอ เอวานเดอร์ตัวสำรองจับบอลในกรอบเขตโทษได้ก่อนม้วนหนีโกเมซแล้วตวัดยิงด้วยขวาแต่โชคร้ายบอลไม่ตรงกรอบหลุดเสาขวามือออกไป
ซาลาห์ปั่นข้ามคานไกล
จังหวะสวนกลับเร็วซาลาห์ลากจี้จากริมเส้นขวาตัดเข้ากลางแล้วตัดสินใจไม่ส่งให้มาเน่ บรรจงปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบทว่าบอลโด่งข้ามคานออกไปไกล
ฟีโน่ยิงเสียราคา
เทรนท์ลุยขึ้นมาอีกรอบเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจ่ายยัดกลับมาให้ฟิร์มิโน่ที่ยืนรอตรงจุดโทษแต่ซัดโด่งข้ามคานออกไปไกลอย่างน่าผิดหวัง
หงส์เสียววาบ!เดรเยอร์หลุดยิงเข้าหน้าต่าง
มิดทิลลันด์พลาดได้ประตูตีเสมอแบบไม่น่าเชื่อเดรเยอร์เกี่ยวบอลเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาอย่างสวยก่อนพริ้วหนีโกเมซได้แล้วแต่จังหวะจิ้มผ่านอลิสซอนดันไปเข้าข้างตาข่ายเท่านั้น
ซาลาห์กดโทษปิดท้าย!หงส์ซิวชัย 2-0
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษจังหวะสวนเร็วซาลาห์ลากเข้ากรอบเขตโทษก่อนโดนเปาลินโญ่มาเหยียบส้นเท้าด้านหลังล้มลงไปกรรมการเป่าทันทีแล้วเป็นดาวเตะอียิปต์รับหน้าที่ยิงเองเต็มข้อเข้าไป 2-0 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ขยับเป็นจ่าฝูงหล่อๆ
มิดทิลลันด์
Starting Formation: 4-2-3-1
7.
ปิโอเน่ ซิสโต้

72'
6
40.
เยนส์ คายุสเต้

80'
6.5
9.
ซอรี่ คาบา

80'
6
11.
มาบิล

65'
6
ตัวสำรอง
10.
เอวานเดอร์

72'
6
15.
บอซไฮดาร์ คราเยฟ

80'
6
34.
มิคเคล แอนเดอร์สัน

65'
6
33.
ลูก้า พีเฟฟเฟอร์

80'
6
16.
วัลเดมาร์ เบิร์กโว่ ธอร์เซ่น
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Wed Oct 28, 2020 06:44, ทั้งหมด 21 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ