เห็นข่าวฟานไดจ์น่าจะเจ็บ ACL เลยเอาประสบการณ์ตรงของผมเองมาแชร์ครับ
ขอแชร์ประสบการณ์ผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าขาด(ACL) โรคยอดฮิคของนักกีฬา
เนื่องมาจากผมได้เห็นข่าวว่า ฟานไดจ์ นั้นเอ็นไขว้หน้าบาดเจ็บ ก็เลยนึกถึงตัวผมเองเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
จังหวะเล่นบอลปกติสนามลื่นไปสไล์เพื่อนเขาล้มทับขา โอ้โหมันคือแบบเจ็บโครตๆโครตปวด ทรมานมากๆ พอสักพักไปมันก็หายเจ็บ แต่พอลงมาเล่นใหม่ก็เป็นอีก ผมลองพักไป 1 อาทิตย์ กะยังไงหายแน่นอน อะหื่อ ลงได้ 2 นาทีเข่าหลุดอีกแล้วครับ
ที่เป็นแบบนี้ เพราะว่าเอ็นไขว้นั้นฉีกขาดทั้งหมดทำให้เวลาวิ่งหรือบิดตัวมากๆข้อเข่าก็จะกระแทกกันบ้าง หลุดจากเบ้าบ้าง ซึ่งผมผิดเองที่ไม่ไปหาหมอแต่แรก พอตัดสินใจไปหา ที่ศิริราชครับ หมอบอกว่าอาการหนักเลย หมอนรองกระดูกคงแตกไปหมดแล้ว เพราะเจ็บแล้วไปเล่นจนเข่าหลุดๆ หลายๆรอบ ตอนนั้นผมนี่เคว้งเลยครับ พอได้ไปอ่านบทความก็ยังพอมีความหวังว่าจะได้กลับมาเล่นฟุตบอล แต่อย่าง ฟัลเกา โอเว่น โด้อ้วน พวกนี้ล้วนเป็นกันหมด ซึ่งหลังจากกลับมาฟอร์มก็จะไม่เหมือนเดิม
ซึ่งเดี๋ยวผมจะมาอธิบายให้ฟังนะครับว่าทำไม ? หลังจากผมไปหาหมอมาได้ 2-3 รอบก็นัดคิวรอผ่าเลยครับ ที่โรงพยาบาลศิริราช ผ่ากับ อาจารย์ บวรรัฐ (คนที่ผ่าข้อมือให้ เมย์ รัชนก) นอนแอดมิดงดอาหารก่อนเลย 1 วัน หมอก็แวะเวียนกันเข้ามาจับขาผมบิด คือเค้าเทสอะครับ โครตทรมานเลย และเวลาผ่านไปเวลาเชือดก็มาถึงครับผมถูกเข็นบนเตียงนอนไปที่ห้องผ่าตัด อากาศในนั้นหนาวมากๆ แต่หมอและทีมงานดูเหมือนจะชิวๆ เพราะเปิดเพลง คูล 93 ฟังไปด้วยขณะเตรียม และ
จากนั้นก็มีวิสัญญีคนนึงมาบอกให้ผมนอนตะแคงก่อนจะชวนคุยนั่นนี่ จากนั้น นางก็ทิ่มเข็มฉีดไปที่เอวผม เท่านั้นก็ชาทั้งท่อนล่างเลยครับ ทำให้เข้าใจเลยว่าคนเป็นอัมพาตมันทรมานมากขนาดไหน จากนั้นผมก็เริ่มโดนเชือด มีทั้งเจาะ ทั้งเคาะ สั่นมายันหน้าเลย เสียวมาก ใช้เวลา 3 ชั่วโมงได้ผมก็หลับๆตื่นๆ ตื่นมาอีกทีคือผมถูกเข็นออกมายังห้องพักผู้ป่วยแล้ว ตอนนั้นยังไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้นครับ หลังจากผ่านไป 6 ขม ก็เหมือนอยู่ในนรกครับขาผมบวมเสียยิ่งกว่าโต๊ะสนุกเสียอีก งอก็แทบจะไม่ได้ ตอนแรกคิดโอ้ยกุคิดถูกหรือป่าวว้า
หลังจากคืนนั้นก็ได้กลับบ้าน หมอก็ให้อุปกรณ์มา ทำกายภาพ บลาๆ ผมทำทุกวันเลยเพราะอยากหาย จนผ่านไปได้ 1 สัปดาห์ผมก็เริิ่มเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว ไปพบหมอก็อาการนั้นดีขึ้นมากๆ จนกระทั่งผ่านไป 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน หลังๆเริ่มขี้เกียจกายภาพ ผมก็ออกวิ่งแล้วครับรู้สึกได้เลยว่าเข่าแน่นขึ้นมากแต่มีอาการเสียวอยู่ และผมได้ทะลึ่งไปเตะฟุตซอล ก็ไม่เป็นอะไรนะครับ แค่ปวดๆ แต่พอไปหาหมอตามนัด ผมโดนด่าเละเลย เพราะข้อเข่าผมบวมไปหมด จากนั้นมาก็ทำตามบ้างไม่ทำบ้าง จนตอนนี้ผ่านมา จะ 7 ปีแล้วก็สามารถเดินได้ปกติวิ่งจ๊อกกิงได้ แต่ !! เตะฟุตบอลผมให้แค่ 85% ของตอนแรกครับ คือมันจะรู้สึกขัดๆ และแหยงๆ ทำให้เราไม่กล้าเล่นจังหวะเสี่ยงๆเลย แต่แค้นี้ก็ดีใจมากแล้วครับ เพราะความรู้สึกตอนเอ็นมันขาดไปแล้ว ยังไม่ผ่า เข่ามันหลวมมาก กล้ามเนื้อลีบลง บางทีเดินๆข้ามถนนเข่าดันหลุด ลงไปนอนกอง โชคดีไม่มีรถผ่านมา สุดท้ายผมอยากจะฝากบอกสำหรับคนที่เป็น ACL นะครับว่าอย่าไปซีเรียสครับ หมอสมัยนี้สุดยอดมากๆ ถ้าขยันกายภาพไม่ขี้เกียจแบบผม น่าจะเล่นได้เต็มร้อยเลยนะครับ ส่วนค่าใช้จ่ายใครอยากรู็หลังไมค์มานะครับ
๋
นี่ครับจะได้เห็นภาพ
อันนี่ฟิล์ม X-RAY ของผมก็คล้ายแบบนี้เลยคือในข้อเข่าจะมีน็อตยึดเอ็นอยู่
โดยในการผ่าตัดเราเลือกได้ 2 วิธีครับ ภาพนี้คือวิธีที่ผมเลือก คือตัดเอ็นลูกสะบ้ามาแทน
ส่วน อีกแบบคือใช้ harmstring ครับ
โดยแต่ละอย่างจะมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันไป แต่เอ็นลูกสะบ้าจะหายไวกว่ามากแต่แผลจะไม่สวยครับ
อันนี้จะมีขาด 2 แบบครับ แบบแรกคือแค่ฉีก อาจรักษาโดยไม่ผ่าได้ แต่ของผมนั้นเป็นเคสที่ขาดโดยสมบูรณ์เลยครับ T-T