จริงๆไม่อยากให้มีข่าวลวงออกมาแบบนี้ แล้วแชร์กันโดยไม่ตรวจสอบก่อนเลย เพราะพอเป็นแบบนี้ มันก็เหมือนกระแสตีกลับ ทั้งๆที่การขวางรถพยาบาลมันไม่ถูกต้องแต่แรกอยู่แล้ว

อยากให้ใจเย็นๆกันหน่อย รอข่าวที่น่าเชื่อถือได้มาค่อยใส่กัน เพราะเอาจริงๆ โอกาสคนท้องตายในรถมันน้อยอยู่แล้วนะ สมัยนี้เครื่องมือเค้าก็พร้อม รถพยาบาลด้วย

นี่คือข้อนึงก็ของสื่อสารที่อันตรายมากเลยฮะ

ไม่เกี่ยวกับว่าต้องไปขอโทษหรือไม่ขอโทษอะไรนะฮะ..แต่เป็นการลดทอนคุณค่าใน"สาส์น"ที่ต้องการสื่อ

สมมติไม่มีเรื่องโกหก(คนท้อง แม่ลูกเสียชีวิต).. fact มันชัดเจนอยู่แล้วว่าตำรวจปิดทางรถพยาบาล

แค่นั้นก็เลวร้ายพอจะเป็นประเด็นที่พูดคุยกันสังคมได้..และฝั่งที่ยังสนับสนุนไม่มีข้อที่จะแก้ตัวหรือปฏิเสธการตำหนิได้เลย

พอไปเจอข่าวลวงนี้..แน่นอนนาทีแรกมันทำให้การปิดทางรถดูเลวร้ายมากขึ้นไปอีก กระแสพุ่งขึ้นสูงปรี๊ดจากอารมณ์ของคน

แต่พอมันโดนเฉลยว่าเป็นข่าวลวง..กลายเป็นฝั่งตรงข้ามช่วงชิงความได้เปรียบตรงนี้ เอาลงมาเป็นประเด็น fake news แทน

และเรื่อง fact ที่ว่าตำรวจปิดทางรถพยาบาล..กลายเป็นเรื่องรองทันที (ง่ายๆคือพยายามกลบเกลื่อนสาส์นกัน โดยใช้จังหวะได้เปรียบ)

เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นบ่อย เวลามีเหตุการณ์แบบนี้ฮะ..

เคยมีคนสอนผมว่า ถ้าเจอแฉเรื่องที่เป็นลบ วิธีแก้ที่ดีที่สุดไม่ใช่หาทางแก้ข่าวนั่น แต่ให้ใส่ไข่เพิ่มขึ้นจนเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องไร้สาระไปเลย

ไอ้คนที่เริ่มข่าวลวง ถ้ามาจากฝั่งตรงข้ามคือชั่ว(และฉลาดมาก) นี่เป็นการลดทอนความสำคัญของสาส์นหลักที่โคตรมีประสิทธิภาพ

แต่ถ้ามาจากทางฝั่งเดียวกันคือโคตรโง่ คิดว่าจะปั่นขึ้น เอาอารมณ์ แต่ไม่มอง step ถัดไปเลย..ว่าความจริงมันสืบค้นง่ายนิดเดียว

จริงๆ ไม่น่าสร้างข่าวการตายของประชาชนมา เพื่อทำให้คนเกรียดชังทหาร/ตำรวจมาก ขึ้นเลย
เพราะแค่ ขัดขวาง การปฏิบัติงานของรถพยาบาลก็หนักมากแล้ว พอกระแสมันไม่ถูกต้อง
ก็เหมือนสร้างความเป็นธรรมให้กับเหล่าทหาร/ตำรวจ ขึ้นมา กลบกระแสขัดขวางการปฏิบัติงาน
ของรถพยาบาลเลย

จะสู้แบบถวายหัวก้ต้องอย่าเดินเกมส์พลาดอ่ะยิ่งพวก fake newเนี่ยมันทำให้สถานการณ์ตีกลับได้ง่ายๆเลย ขอให้ถูกต้องไม่ใช่ให้เร็ว

ผมก็ว่าละว่าไม่น่าจริง ดูแปลกๆ ปกติตามข่าวในทวิตก็เชื่อแค่ 20-30% อยู่ละ

แต่ถึงยังไงก็ถือว่ายังดีที่ไม่เป็นไรมาก แต่การปิดกั้นรถพยาบาลโดยไม่มีแม้แต่ลงมาเช็คว่ามีคนเจ็บจริงไหมนี่มันบ่งบอกถึงอะไรได้เยอะนะ

พวกข่าวจากทวิตเตอร์ทั้งหลาย ผมก็ไม่อยากให้เชื่อทันทีที่อ่าน มันหาที่มาที่ไปไม่ได้ยิ่งเป็นแอคอวตารความน่าเชื่อถือก็น้อยลง แล้วก็มีอีกเรื่องนึงที่มีคนในทวิตบอกว่าจุฬาไม่ปลอดภัย พอผมไปดูไลฟ์สดของthe reporter ที่ถ่ายน้องๆจากจุฬาเค้าก็ประกาศว่าปลอดภัยดี ไอพวกปั่นข่าวทั้งหลายในทวิตมีเยอะมากแล้วคนก็แชร์กันมั่วไปหมด ดังนั้นต้องช่วยกันกรองให้ดีครับ พยายามหามูลหาที่มาที่ไปก่อน ชั่งน้ำหนักดูความสมเหตุสมผล ยิ่งเราอยู่ในยุคที่ข่าวสารกระจายไปเร็วมากต้องระมัดระวังให้ดี อ่านแล้วใจเย็นๆกันสักนิดจะดีกว่าครับ

เรื่องจริงใช่มั้ยครับ คิดถูกละที่ยังไม่แชร์ตั้งแต่ที่เห็นตอนแรก

เสริมข้อมูลนะครับ ในข่าวบอกว่าคนป่วยเป็น ผู้สูงอายุ เพศหญิง ก็ตรงตามที่คุณ ZwerzyXi บอกอยู่นะว่าเป็นย่าเพื่อนเขา ( ผู้สูงอายุเพศหญิง )

มีแต่ตอนเริ่ม สรุปจบยังไงอะ ตำรวจให้ผ่านไหม แล้วใครเป็นอะไร ส่วนนี้สำคัญสุดดันไม่มีใครเสนอข้อเท็จจริงให้ครบ

ตำรวจไม่ให้ผ่าน รถต้องอ้อมไปอีกทาง

ส่วนใครเป็นอะไร ปลอดภัยมั้ย ในลิงค์ข่าวที่ผมลงไว้มีครบครับ กดอ่านดูก็น่าจะเห็น ถ้าไม่สะดวกเดี๋ยวผมก็อปมาให้อ่านครับ

" ทีมข่าวสปริงนิวส์ออนไลน์ ตรวจสอบแล้วว่า คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทางคนขับรถพยาบาล บอกว่า ได้รับผู้ป่วยจริง แต่เป็นผู้หญิงสูงอายุ รับมาจากชุมชนเทพประทาน เขตคลองเตย มีอาการเหนื่อยหอบ เมื่อวิ่งไปถึงจุดสกัดตรงนั้น เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดทางให้จึงเปลี่ยนไปอีกทางประตู และได้นำส่งผู้ป่วยที่รพ.ตำรวจ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว "

อ้อผมหมายถึงข่าวจาก ทวิตเตอร์เมื่อคืน กับคลิปก่อนหน้า ที่ตัดมาแค่นิดหน่อย ผมเลยเลือกจะไม่เชื่อครับ ขออภัยที่พิมไม่ครบ

ดีแล้วคนับที่ไม่เป็นความจริงผมก็ตามข่าวอยู่ แต่ข้อเท็จจริงคือมึงขวางรถพยาบาลไง

โล่งใจที่ไม่มีใครเสียชีวิต

แต่การกระทำก็ยังทุเรศอยู่ดี

48 ชั่วโมงแว๊ปเข้ามาในหัวเลยมั้ย

แค่ขวางรถพบาบาลก็เลวแล้ว
ไม่มีคนตาย ไม่ได้ทําให้รู้สึกว่าเลวลดลง