วัดจริงๆก็ielts tofelแหละสูงก็6.5+ ตามเกณฑ์​ปโทu top 20
ถ้าตามสายภาษาผมไม่รู้ว่าจบสายตรงนอกจากงานประสานงาน​มันทำไรอาจต้องผันตัวไปเป็นฝ่ายขาย ผู้ประสานงาน​ดูครับตามบริษัทtech startup เพราะจบแต่หละสายการเดินทางก็ต่างกันเหมือนถ้าสายกม.ได้engเยอะๆก็เหยียบหัวคนทั่วไปเกินครึ่งประเทศอ่ะ ถ้าเดินสายเอกชน ถ้าวิศวะผมก็ว่าเหยียบเกินครึ่งเหมือนกันเพื่อนผมได้toeic300-400 เงินเริ่มก็20k+

ถ้าแบบนี้ ผมก็คงแนะนำเหมือนคนอื่นว่าหาสมัครพวก MNC น่าจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยๆดูแล้วก็มีความรู้ด้าน Special Tax บ้าง รวมไปถึงน่าจะรู้เรื่อง IFRS ในระดับนึง แต่งานที่เกี่ยวข้องที่พอทำได้ ก็พวก Corporate/External Affairs ที่ต้องดีลกับหน่วยงานของรัฐครับ เพราะไม่ได้จำเป็นจะต้องใช้ความรู้ตรงสายเท่าไหร่ หรือจะไปพัฒนาตัวเองด้านกฏหมายด้าน IL เพื่อต่อไปเป็น general counsel ก็ทำได้เช่นกัน

หรือว่าจะเบนเข็มไปทำด้านบัญชี ด้าน FM ก็ทำได้ครับ ขึ้นอยู่กับว่าสนใจหรือเปล่า แต่เนื่องจากไม่ได้จบตรงสายก็อาจจะยากนิดนึง (แต่ด้าน FM ส่วนใหญ่ไม่ได้จบบัญชี แต่จบ econ มากกว่า)

ส่วนตัวแล้ว อย่างที่คุณเองก็ยอมรับ TOEIC 900++ นั้นก็มีคุณค่าในตัวมัน แต่ไม่ได้ differentiate yourself from the crowd ขนาดนั้นครับ ซึ่งผมแปลกใจนะ ทำไม TOEIC ได้ 900+ แต่ได้ IELTS ไม่ถึง 8+ เพราะมันก็มี conversion table อยู่ว่าควรจะเทียบได้กับ IELTS/TOEFL เท่าไหร่ (แต่ผมเองไม่เคยสอบ TOEIC เลยตอบไม่ได้ครับ เพราะสมัยนู้นนนน ผมสอบแค่ TOEFL อย่างเดียว) แต่ก็น่าจะเป็น VAS ที่คุณพอจะใช้ต่อรองกับบริษัทได้ในระดับนึงครับ

สุดท้าย ถ้าคุณคิดว่าภาษาอังกฤษคุณดีพอในระดับที่คนใน big four จะ consider ว่าคุณภาษาดี ผมว่าก็สมัคร big four ต่อไปเลยสิครับ เงินเดือน สวัสดิการดี แล้วก็ค่อนข้างมั่นคงด้วยครับ

อ่าวววว งั้นสายเดิมไม่ชอบหรอ ถ้าชอบสายเดิมก็เอา โทอิคไปอัพเงินเดือนที่ใหม่ได้อยู่มั่งง

เด็กรุ่นหลังๆมานี่ภาษาดีมากนะครับ จบ วิศวะ บัญชี toeic 750-900+ นี่เพียบเลย สมัยนี้เป็น be advantaged ไปละ กลุ่มนี้สามารถทำงานได้หลากหลายเลย ไม่ตรงสายก็โอกาสได้งานสูง

ใช้ภาษาเขียนเก่งมั๊ยหละครับนักแปลนิยายนี่รวยนะตามกลุ่มfacebookถ้าจับถูกเรื่องแล้วไม่โดนLCตัดหน้า
ผมเคยเข้ากลุ่มนึงมีสมาชิก2000คนแปล100ตอน1กลุ่ม นิยายจีนเรื่องนึง1000ตอน+ แล้วมันมี10กลุ่มอ่ะ

ผมว่ามันอยู่ที่โชคด้วย

ตอนยื่น ผมยื่นไปกลางๆ พอทำจิงได้เกิน 2 เท่า แต่ไม่เพิ่มเลยตั้งแต่ทำมา

ปล. เพิ่งอ่าน ท่านจบภาษามา แนะนำให้ไปเอาอีกภาษา จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สักอันนึง แล้วมันจะเปิดโลกไปเลยคับ

เพราะแฟนก็จบภาษามา โทอิค 900++ เหมือนกัน พอได้อีกภาษาทีนี้หางานง่ายเลย เลือกงาน เลือกเงิน เลือกสถานที่ ได้หมด

โทอิคถ้าผมไปสอบผมมั่นใจนะ ต่อให้พลาดเยอะเลยยังไงก็750ขึ้นไป

จริงๆผมอยากไปสอบโทเฟล ไอเอิลเลยเหมือนกัน แต่ค่าสอบมันเอาเรื่อง555 ไม่อยากพลาดแล้วต้องไปเสียค่าสอบใหม่

คือที่ผ่านมาทำ MNC มาตลอดครับ เรื่องบัญชีหรือ TAX ผมเป็นสายสนับสนุนที่ผมพอจะมีความรูัและทำได้ดี (ตามที่หัวหน้าบอกน่ะนะ)มันเฉพาะทางมากจนหาคนเข้าใจยากมากเลยครับและผมก็ไม่ชอบด้านนี้ ส่วนเรื่อง IELTS ไม่ถึง 8 อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจครับพอดีมันอย่างที่บอกเป็นแค่ซิมูเลชั่นแล้วก็ตอนสอบผมไม่ได้นอนทั้งคืนด้วยแหละเกิน 24 ชม.จำได้แค่ว่าออกจากบ้านแล้วกลับมานอนได้ก็เก่งแล้ว และก็มีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยครับ ส่วนเรื่อง Big 4 คือมันมีแต่อันที่ไม่อยากทำแล้วอ่ะเลยออกมา ผมเน้นเนื้องานมากกว่าด้วยมั้ง ส่วนตัวอยากทำเกี่ยวกับ Internal Communication ทีไม่ได้ผูกกับ Marketing ซึ่งดูแล้วในไทยนี่ก็มีน้อยเหลือเกินที่มีก็ออกแนวเป็นระดับสูงต้องใช้ประสบการณ์อีกบางทีก็ชัดเลยว่าอยากได้คนต่างชาติ แต่ก็หาด้านนี้อยู่ครับตอนนี้พอดีอยากลองดู ออกแนวบ่นเรื่อยเปิื่อยละ ยังไงขอบคุณมากครับ

อันนี้มันแบบออกแนวเรื่องเงินน่ะครับ ส่วนตัวผมมองงานที่ต่อยอดตัวเองได้ก่อน เรื่องแปลนี่ถ้าจะเอาจริงๆคิดว่าพอถาได้ถูไถอยู่ครับมีคนรู้จักทำอยู่พอจะคุยหาลูกค้าได้ ปัญหาคืออย่างที่บอกอยากหางานที่ทำแล้วรู้สึกอยากต่อยอดตัวเองได้เพราะมันอาจจะส่งผลถึงการหาที่เรียนต่อด้วย

สรุปคือจะบ่นเรื่อยเปื่อยใช่มั้ยครับ

นึกว่าต้องการคำปรึกษาจริงๆ

จะได้เข้าใจ แล้วจะได้ไม่ต้องคุยต่อ

แบบนี้เสียเวลาผมครับ

อยู่ที่คาดหวังรายรับเท่าไร่ กับตำแหน่งอะไร

ผมกับเพื่อนๆ วิศวกร toeic 600-700 ปสก7-8ปี เงินเดือน ประมาณ30k +- นิดหน่อยตามบริษัท

ที่จะบอกคือ 600-700 คือสกิลคนธรรมดาปกติ

900คือเก่งมากกว่าคนธรรมดาขึ้นมา

ไม่ครับ หมายถึงถ้าผมตอบมากกว่านั้นมันจะออกแนวเรื่อยเปื่อยแล้วเลยตอบแค่นั้นก่อน ถ้าคุณมีอะไรแนะนำก็บอกได้เลยครับ คำแนะนำที่กลั่นกรองมาแล้วยังไงผมยินดีรับฟัง/อ่านเสมอครับ

EDIT-อย่างไรก็ตามสิ่งที่คถุณแนะนำมา ผมคิดไว้แล้วแหละหมายถึงผมลองคิดดูแล้ว ถ้าเป็นไปได้อยากได้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมครับ ตอนนี้หลักที่อยู่ในใจมันน่าจะเป็นความรู้สึกแบบ There is something out there น่ะครับ ปัญหาคือผมยังไม่แน่ใจว่า "Something" ตรงนี้มันคือสิ่งที่ผมรู้อยู่แล้วรึเปล่า ออกแนวเรื่อยเปืิ่อยมั๊ยล่ะ

ผมคาดหวังไม่เยอะนะ EXP 2.4 ปี ได้จากที่ใหม่ 30k++ แต่อยู่ได้แค่ 2 เดือนไอ้ ++ นี่เลยยังไม่ทันได้เพราะผมลาออกมาก่อน ดันเจอบริษัทเน่าใน

อันนี้คนแนะนำหลายอย่างดูไม่ค่อยชอบคำตอบถ้าจะให้แนะนำจริงๆไปถามคนรู้จักท่านนั่นแหละรุ่นพี่สมัยเรียน สมัยทำงาน อาจารย์​มหาลัยที่มาจากสายbusiness อันนี้คนไม่รู้ว่าปกติท่านทำอะไรบ้างเนื้องานก็บอกมาคร่าวๆก็ไม่รู้อีกว่าจุดที่ท่านคาดหวังมันต้องถึงขั้นไหน

ไม่เชิงไม่ชอบหรอกครับแค่แบบเป็นอะไรที่ผมคิดมาแล้วอยู่เหมิอนกัน ส่วนตัวแล้วผมเองไม่ได้อยากได้งานอะไรที่มันดูเลิศเลออะไรมากในสายตาคนอื่นหรอก เอาจริงๆงานล่าสุดที่ลาออกมามันก็โอเคนะในแง่หน้าที่งานอะไรแบบนี้หมายถึงแบบตอบโจทย์ผมอยู่ในช่วงเวลานั้น แต่ดันมาเจออะไรที่ไม่ดีน่ะเลยต้องออก ทีนี้พอมามีเวลาเลยลองหาอะไรที่อยากทำจริงๆหมายถึงงานน่ะนะ ซึ่งไอ้ที่อยากทำมันก็ดันดูเหมือนจะหาทำในไทยไม่ง่ายเท่าไหร่ จะดันทุรังดูอย่างตอนนี้มันก็มีเวลาที่ต้องหยุด คนรู้จักผมส่วนใหญ่จะบอกกว้างๆว่าผมไปได้หมดแหละผมมันเหนือความคาดหมาย บทจะเก่งก็โคตรเก่งจะกากก็โคตรกากประมาณ แจ๊ค สแปร์โร่ เลยไม่รู้จะแนะนำอะไร นี่ต้องบอกว่าดีที่ไม่ลำบากไม่งั้นคงเครียดครับ