อยากให้ฟังอาจารย์พูดตั้งแต่นาทีที่ 29 ครับ

(กระทู้นี้ไม่การเมืองนะ คลิปนี้มีประเด็นการเมืองเยอะ แต่ผมอยากหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูดคุยกันครับ)






ความรู้ใหม่ของผมเหมือนกันนะ ว่าเด็กทุกวันนี้ใช้คำว่า PC หรือ Politically Correct กันเป็นปกติ
ซึ่งตามที่อาจารย์พูด ในนั้นมันรวมถึงการล้อเลียน LGBT หรือว่าการดูถูกเพศตรงข้ามด้วย

ทีนี้มาถึงคำตัวอย่างของผม "ไอ้ตุ๊ด" หรือ "ไปใส่กระโปรงไป" และอีกหลายคำ ผมมองว่ามันเป็นคำด่าติดปากของคนรุ่นเรา
ซึ่งถึงไม่ใช่การด่าผู้หญิงหรือเพศที่ 3 ตรงๆ แต่มันแฝงไปด้วยความเหยียด เหมือน "ไอ้ลาว" ที่เป็นการเหยียดเชื้อชาติน่ะแหละ

ผมเชื่อว่าพวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้มีความคิดเหยียดหรอกในปี 2020 นี้แล้ว แต่มันเป็นคำด่าติดปากไปแล้วมาตั้งแต่ 10-20 ปีก่อน
อีกอย่างคือ SS เป็นสังคมแทบจะชายล้วน เลยทำให้การห้ามปรามมันน้อย ไม่งั้นถ้า ผญ หรือ LGBT เยอะ เราพูดแบบนี้ไม่ได้หรอก

ปีนี้ผมอายุ 25 ขนาดเพิ่งผ่านวัยเด็กมาไม่ถึง 10 ปี ยุคผมก็ยังใช้คำแบบนี้หรือล้อเลียนเพศที่ 3 กันสนุกปากอยู่เลยครับ
แต่เด็กยุคนี้มันไม่ใช่แล้วเว้ย เรื่องพวกนี้มันขึ้นมาเป็น Serious Issue เต็มตัวแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆนะ

ปีหลังๆมานี้ผมเองก็พยายามยั้งมากครับ เพราะตอนเด็กๆก็เคยติดปากมาเยอะ ไม่รู้ว่ามีหลุดไปเยอะรึเปล่า
แต่อยากรณรงค์ให้เลิกครับ ช่วยเตือนๆกันนี่แหละ ผมว่าเราทำได้นะ จะได้ไม่ติดไปพูดข้างนอกด้วยครับ


ไม่งั้นต่อไปเราจะกลายเป็นไอ้ทุเรศขี้เหยียดในสายตาเด็กแน่ๆ
ถ้าผมโดนเด็กด่าว่าไม่ PC (Politically Correct) ผมเครียดนอนไม่หลับหลายวันแน่ๆครับ

ผมก็ยังเห็นเด็กมัธยมใช้คำนี้ด่ากันอยู่นะ โดยเฉพาะตามโซเชี่ยล

เวลามีข่าวผู้ชายทำร้าย ผู้หญิง เด็ก คนแก่

ผมเลิกนานละ รอบตัวมีแต่กระเทย

มันก็ต้องมีแหละครับ แต่เด็กที่เค้าเริ่มมีความ รณรงค์เรื่องนี้ หรือซีเรียสเรื่องนี้ เค้าก็จะต่อต้านไง

ผมว่าเราก็น่าจะทำตัวให้เป็นแบบอย่างด้วย ตอนนี้ถึงยุคของการเปลี่ยนแปลง การรณรงค์ความเท่าเทียมที่มากขึ้น

เราเองก็ต้องปรับตัวด้วยแหละครับ

ใช่ครับจริงๆเรื่องนี้ก็รณรงค์กันมานาน ให้เลิกคำด่าเหยียดเพศ

แต่ยุคเราดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นัก เพราะมันติดปากไปแล้ว

คำแบบ ไอหน้าหมี ไปใส่กระโปรง หน้าตัวเเมีย นี่เจอคนพูดบ่อยมาก

คิดว่าเด็กรุ่นหลังจากนี้สัก 10-20 ปี อาจจะดีขึ้น

ใช้ฉันกลับมาแว้วแทน

เออแต่แปลก ไอ้คำว่าหน้าหมีผมกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นการเหยียดเพศแฮะ ในฟีลลิ่งของความหมายนะ ผมมองมันเป็นการด่าด้วยอวัยวะเพศเหมือน หัวค.. มากกว่า แบบในบริบทไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการดูถูกเพศอ่ะ

คือไรอ่ะครับงง

ปกติแหละครับ เมื่อคนกลุ่มนี้มีบทบาททางสังคมมากขึ้นก็ได้รับการปกป้องเป็นธรรมดา

แต่ยังไงซะ สังคมก็จะหากลุ่มคนบางกลุ่มที่จะถูกเหยียดเพราะไม่ได้เป็นไปตามความธรรมดาที่สังคมนั้นคาดหวังอยู่ดี

พวกนี้ไม่มีทางหมดไปหรอกครับ

ขอเพิ่มเติมหน่อยนะครับ

ตอนที่มีข่าวเรื่อง เหยียดสีผิว ในต่างประเทศในหลายๆครั้ง หรือแม้กระทั่งตอน black lives matter ผมเห็นคนไทยหลายคนออกมาพูดว่า โชคดีนะ ประเทศเราไม่ค่อยเหยียด

จริงๆถ้าเราย้อนกลับมาพิจารณาจริงๆแล้ว สังคมเรามีการเหยียดรูปแบบต่างๆมาก เพียงแต่มันพูดกันจนคิดว่า ไม่เป็นการเหยียด ไม่ว่าจะเป็น

1. เหยียดูรูปร่าง: อ้วน ผอม เหยิน ดำ คืออันนี้แบบแทบจะเรียกว่าเหยียดกันมากที่สุดเลย แต่หลายคนกลับบอกว่า ก็แค่ล้อ
2. เหยียดเชื้อชาติ: แขก เจ๊ก ลาว
3. เหยียดฐานะ ชนชั้น
และ รวมถึง เหยียดเพศด้วย

ส่วนตัวผมมองว่า ปัญหาการเหยียดต่างๆ รวมถึง เพศ มีมานานมาก แต่วังคมไม่ได้รู้สึกว่ามันรุนแรง หรือมีคนเรียกร้องเหมือนต่างประเทศ

ผมก็เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ว่า เราควรจะกลับมาพิจารณาว่า เราใช้คำพูดอะไรในการเรียกคนอื่น และหลีกเลี่ยงการวิจารณ์เพศสภาพคนอื่น เพื่อลดการเหยียดในสังคม

ผมเพิ่งเห็นคำว่า แขวะเก่งกว่าตุ๊ดอีก หรือไรประมาณนี้แหละ ในมู้ไหนไปแหมบๆ

เวลาสอนนักเรียน ถ้าต้องเรียกกลุ่มนี้จะเรียก เพศทางเลือก หรือ lgbt ไปเลย ไม่เรียกตุ๊ดหรือกระเทยหรือผู้ชายตุ้งติ้งไรทำนองนั้นเลย

ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ครับ อยากพูดเรื่องนี้มานานมากแล้วเหมือนกัน
รู้สึกไม่ชอบทุกครั้งที่เห็นการเอา "เพศ" อื่นๆ มาใช้เป็นคนด่าเลย

เราโตมากับคำพวกนี้จริงๆ แต่อย่าแกตัวไปพร้อมๆ กับคำพวกนี้เลยครับ

ผมโคตรหงุดหงิดเป็นส่วนตัวเวลาเจอคนใช้คำพวกนี้

จะพูดเตือนไอ้เราก็รู้ว่าแค่ติดปากแหละ จะเตือนจริงๆก็หาวิธีพูดแบบสั้นๆไม่ได้

อาการมันจะคันยิบๆ ละก็ปล่อยไป

ไปใส่กระโปรงไป ผมพูดติดปากเลยครับ น้องๆชอบเดินเเก้ผ้า