ไร้คมคู่...โคนมเจ๊าสิงโตโนสกอร์
เป็นเกมที่ทั้งสองทีมพยายามสู้กันอย่างเต็มที่แล้ว และมีโอกาสทำประตูบ้างกันทั้งสองทีมแต่สุดท้ายไม่มีใครสามารถส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายสำเร็จ ทำให้เดนมาร์กจับมือเสมออังกฤษแบบไม่มีสกอร์ 0-0 โดยเจ้าถิ่นเก็บแต้มแรกได้ ขณะที่ทีมของแกเร็ธ เซาธ์เกต มี 4 คะแนนจาก 2 เกมอยู่อันดับ 2 ของกลุ่มตามหลังเบลเยี่ยม
เดนมาร์ก
Starting Formation: 4-3-3
15.
คริสเตียน นอร์การ์ด
73'
6
12.
แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก
76'
6
9.
มาร์ติน เบรธเวท
82'
6
ตัวสำรอง
4.
ซิมง เคลียร์
82'
6
23.
ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก
73'
6
11.
ราสมุส ฟอล์ค
76'
6
ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กลุ่ม 2
สนาม เตลล่า พาร์เค่น
อังคารที่ 8 กันยายน 2563
กรรมการ อิสวาน โควัตส์
เดนมาร์ก
0
0
อังกฤษ
เกมเนชั่นส์ ลีก นัดสุดท้ายประจำเดือนนี้ เดนมาร์กเจ้าถิ่นเอาตัวหลักอย่างคริสเตียน อีริคเซ่น ยืนเป็นจอมทัพที่แดนกลาง ขณะที่แนวรุกมีมาร์ติน เบรธเวทและแคสเปอร์ ดอลเบิร์ก เป็นตัวอันตราย ด้านอังกฤษ ไม่ได้เปลี่ยนเยอะจากเกมก่อนมีเพียงคอเนอร์ โคอาดี้ลงมาเป็นเซ็นเตอร์, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ประจำแบ็คขวา และคัลวิน ฟิลลิปส์ มายืนกลางแทนวอร์ด-เพราส์ ส่วนแฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิ่งและเจดอน ซานโช่ ยังเป็นตัวสำคัญในแดนหน้า
ซานโช่ยิงติดบล็อค
เปิดเกมมาช่วงแรกไม่ค่อยมีอะไรกันเท่าไหร่ อังกฤษมาได้ลุ้นหนแรกจังหวะที่ทริปเปียร์ ครอสบอลจากริมเส้นซ้ายเข้ากลางแล้วซานโช่ พยายามสอดมายิงด้วยขวาแต่ก็ติดบล็อคกองหลัง
ดอลเบิร์กหลุดยิงออกหลัง
โอกาสของเดนมาร์กบ้างเหมือนกัน วาสส์ แทงบอลต่อไปถึงดอลเบิร์ก กระชากเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงทันที ทว่าบอลหลุอออกหลังเท่านั้นไม่ตรงกรอบ
เบรธเวทซัดไกลได้เสียว
เดนมาร์กเกอืบได้ประตูขึ้นนำเมื่อโกเมซ โหม่งเคลียร์ออกมาไม่พ้นบอลไปเข้าทางเบรธเวท พักบอลลงหน้ากรอบเขตโทษก่อนกระหน่ำด้วยซ้ายทันทีบอลพุ่งแรงพิคฟอร์ดต้องพุ่งสุดตัวแต่หลุดออกหลังไปนิดเดียว
อีริคเซ่นพลิกสวย!ดอลเบิร์กกดเต็มพิคฟอร์ดเซฟ
อีริคเซ่นพลิกบอลหนีไดเออร์อย่างสวยก่อนไหลบอลไปให้ดอลเบิร์ก กระชากเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแล้วกระหน่ำยัดไปที่เสาแรก ทว่าพิคฟอร์ด ดักเอาไว้อยู่แล้วปัดทิ้งออกหลังได้ทันเวลา
เบรธเวทยิงไม่ได้เรื่อง
เดนมาร์กยังได้จบอยู่ฝ่ายเดียว คราวนี้เบรธเวท ได้บอลริมเส้นด้านซ้ายก่อนลากตัดเข้ามาแล้วยิงไกลด้วยขวาทันที แต่บอลบดเกินไปไม่ตรงกรอบด้วยอีกต่างหาก
เบรธเวทเสียบเคนโดนเหลือง
ใบเหลืองแรกของเกมมาจนได้ เคน กระชากบอลจากกลางสนามไปแล้วแต่โดนเบรธเวท ที่ตามลงมาเข้าเสียบตัดเกมโดนแต่คนไม่โดนบอล กรรมการวิ่งมาชักใบเหลืองทันที
เคนหลุดยิงล้ำหน้าก่อน
ราฮีมยกบอลอย่างสวยให้เคน หลุดเดี่ยวเกี่ยวบอลลงในกรอบเขตโทษแล้วยิงด้วยซ้ายทันทีไปติดเซฟของชไมเคิ่ล แต่ไลน์แมนก็ยกธงว่าเป็นการล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
อีริคเซ่นฟรีคิกนกตาย
ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะไกลกว่า 30 หลาของเดนมาร์ก เป็นทางอีริคเซ่น ลองยิงเองแต่ดันวิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวาบอลโด่งข้ามคานออกไปไกลโข
เคนโขกเสาไกลแค่ใกล้เคียง
เม้าท์ตามไปเอาบอลสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนจ่ายย้อนกลับมาให้ทริปเปียร์ ตั้งป้อมเปิดบอลยาวไปทางเสาไกล เป็นเคน ที่พยายามโฉบมาโขกบอลได้แต่ไปตกบนตาข่ายหลังประตู
ราฮีมหลอกยิงเสาแรกไม่ผ่านแคสเปอร์
เม้าท์ลงมามีส่วนกับเกมเยอะ คราวนี้ต่อบอลกับราฮีม ที่พลิกจากริมเส้นซ้ายเข้ามาตรงกลางก่อนหลอกยิงไปที่เสาแรก บอลตกพื้นแต่ชไมเคิ่ลไม่ยอมพุ่งไปปัดทิ้งได้ก่อน
โกเมซเซฟ!อีริคเซ่นเกือบยิงเหน่ง
ทีมโคนมน่าได้ประตูขึ้นนำจริงๆ วาสส์โยนบอลจากริมเส้นด้านขวาไปให้พอลเซ่นในกรอบเขตโทษด้านซ้ายโหม่งตั้งกลับมาให้อีริคเซ่นวิ่งเข้ามายิงเหน่งๆ แต่ต้องชมโกเมซที่พุ่งมาแหย่ขาบล็อคบอลออกหลังไปในจังหวะสุดท้าย
เคนโดนสกัดบนเส้น!โคนมเสมอสิงโตไร้สกอร์
ก่อนหมดเวลาเคนเกี่ยวบอลหนีชไมเคิ่ลที่ออกมานอกเส้นได้แล้วแต่สุดท้ายโดนซานก้าตามมาเคลียร์ทิ้งจากเส้นไปได้หวุดหวิดหมดเวลาการแข่งขันไม่มีทีมไหนยิงประตูกันได้ทำให้เสมอกันไป 0-0 โดยอังกฤษเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มมี 4 คะแนนส่วนเดนมาร์กมาได้แต้มแรกจาก 2 นัด
อังกฤษ
Starting Formation: 3-4-3
2.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
86'
6
7.
คัลวิน ฟิลลปิส์
76'
6
11.
เจดอน ซานโช่
60'
6
ตัวสำรอง
17.
แจ็ค กรีลิช
76'
6
15.
ไอน์สลี่ย์ เมียตแลนด์-ไนลส์
86'
6
18.
เมสัน เม้าท์
60'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Wed Sep 09, 2020 07:11, ทั้งหมด 11 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
