BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10131
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 16:08
[เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2007/08 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์
**คำเตือน gif เยอะ (มากๆ)

--เกริ่น--

ผมว่านี่จะเป็นกระทู้ที่ทำให้เราเข้าใจตรงกันว่า แมนยูยุคเซอร์มีการเล่นแบบไหน แผนอะไร
และบางทีอาจจะตอบคำถามยอดฮิตของแฟนบอลยุค2020นี้ได้ด้วยว่า "แมนยูยุคเซอร์ มีทรงหรือไม่มีทรง"?

หมายเหตุ** ไม่ใช่กระทู้รายงานผล แต่จะออกแนวๆวิเคราะห์แผนการเล่น
ดังนั้น บางจังหวะที่คนเขียนยกมาอธิบาย อาจจะไม่ใช่จังหวะสำคัญภายในเกม






---เริ่ม---

หลังจากเดินทางกลับจากกรุงโรม ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมป์เปี้ยนลีก ปี2008
สามวันต่อมา พวกเขามีคิวไปเยือนสนามริเวอร์ไซด์ สเตเดี่ยม
เพื่อพบกับมิดเดิ้ลสโบรซ์ ทีมอันดับ13ของตาราง

ก่อนเกมที่ทั้งคู่จะลงเตะ แมนยูมีคะแนนนำเป็นจ่าฝูง
โดยถ้าหากพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้
แมนยูจะมีคะแนนทิ้งห่างเชลซีออกไปเป็น5คะแนน

วันนี้แมนยู มาในชุดทีมเยือนสีดำ กางเกงขาว



เริ่มกันที่รายชื่อของผู้เล่นทั้งสองทีม





จากกราฟฟิกแมนยูมาในระบบ 4-4-2
ในแดนกลางเป็นการจับคู่ ของพอล สโคลล์ และคาร์ริค
ส่วนโอเว่น ฮาร์กรีฟ และแอนเดอร์สัน ที่ได้รับโอกาสในเกมเจอโรม่า
นัดนี้พวกเขามีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง
เกมนี้แมนยูไม่มีชื่อปราการหลังคนสำคัญ อย่าง เนมันยา วิดิช
โดยคนที่รับหน้าที่แทน คือ จอห์น โอเชีย!!!
ลงจับคู่กับริโอ เฟอร์ดินาน

ที่น่าสังเกต คือ เซอร์เลือกที่จะเอากองหลังอาชีพอย่างเวสบราวน์
ขยับไปเล่นเป็นฟูลแบ็คแทนที่จะให้เล่นตรงกลางแทนโอเชีย

Kickoff
เริ่มเกม

1st Minute:



ทันทีที่เริ่มเกม เดอะ โบโร่ ส่งบอลกลับไปให้ผู้รักษาประตูประตู
โดยมีคารอซ เตเบซ วิ่งกดดัน

2nd Minute:

Whoa! เหมือนจะเห็นการยืนตำแหน่งแปลกๆ
ไรอัน กิ๊ก ขยับไปเล่นตรงกลางเป็นมิดฟิล์ด3ตัว!?



หรือมันอาจจะเป็นแค่บางจังหวะในเกมเฉยๆ
เพราะบ่อยครั้งแมนยูก็มักให้นักเตะเคลื่อนที่กันอย่างอิสระ
เดี๋ยวลองดูไปเรื่อยๆ น่าจะเริ่มชัด



จังหวะต่อมา ในระหว่างที่แมนยูทำเกมรุก ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญซะแล้ว
ไรอัน กิ๊ก ขยับเข้ามาเล่นตรงกลาง สวมบทผู้เล่นหมายเลข10
โดยให้รูนนีย์ขยับ ไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย

หากดูจากลักษณะการยืน
(จะว่าไปแล้ว มันดูคล้ายแผน 4-2-3-1 ของแมนยูยุคนี้มากๆ)



9th Minute:



เริ่มเกมมาไม่ถึง10นาที แมนยูเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน
จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา ไรอัน กิ๊ก เปิดบอลข้ามมาเสาไกล
คาร์ริค เก็บบอลได้ ก่อนแต่งบอลหลบกองหลังหนึ่งจังหวะ
แล้วผ่านเรียดให้โรนัลโด้ซัดจ่อๆเข้าไป แมนยูนำเจ้าบ้านไปก่อน 1-0

11th Minute:

จากประตูขึ้นนำ ทำให้พวกเขาปรับไปใช้แผน 4-5-1 หรือ 4-4-1-1 ในทันที
ลักษณะการยืน เน้นยืนแบบnarrowหรือแคบๆ อัดแน่นกันตรงกลาง (ไม่เน้นพื้นที่ด้านข้าง)



จังหวะข้างล่างนี้ แมนยูเริ่มถอยไปตั้งรับในแดนตัวเอง
จากนั้นเมื่อพวกเขาสามารตัดบอลมาได้ พวกเขาก็จะสวนกลับเร็วทันที

(ป๊าด!! ดูสโคลล์เข้าบอล )
โดยจังหวะนี้ จะเห็นการประสานงานของกลางสามตัว
สโคล์ตัดบอล ,ไรอัน กิ๊กเก็บจังหวะสอง แล้วคาร์ริคแทงบอลขึ้นหน้าให้เตเบซ



13th Minute:

จังหวะนี้ เดอะ โบโร่สามารถเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายได้สำเร็จ
ปัญหาในเกมรับของแมนยูเริ่มมีให้เห็น



จังหวะ3v3ทางขวา ไรอัน กิ๊ก , สโคลล์ ลงมาช่วยเอฟร่าปิดเกมริมเส้น
ทุกคนต่างมองที่บอล แต่ไม่มีใครระวังฟูลแบ็คคู่แข่งที่วิ่งเติมเกมขึ้นมา
โชคดีที่จังหวะสุดท้ายไรอัน กิ๊กเข้ามาบล็อคได้ทัน

15th Minute:

ระหว่างเกม กล้องจับภาพไปที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต
ผู้บรรยากาศภาษาอังกฤษ เริ่มพูดถึงเขาว่า
"เขา(เซาธ์เกต)เตรียมแผนมาค่อนข้างดีทีเดียว
แม้ว่าทีมของเขาอาจจะอยู่กลางๆตาราง แต่เขาน่าจะสัมผัสได้ว่า
พวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่าซีซั่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด"




22nd Minute:

จังหวะนี้ เป็นเหมือนภาพจำลองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับแมนยูชุดปัจจุบัน



เมื่อไหร่ที่แมนยูฉวยโอกาสจากจังหวะสวนกลับไม่ได้
พวกเขามักจะเจอปัญหาในการเจาะเกมรับของเดอะ โบโร่ที่ลงไปตั้งรับกันหมด



22nd Minute:

การยืนตำแหน่งเกมรับของแมนยู วันนี้ย่ำแย่มาก
ใครที่ดูเกมนี้อยู่ในวันนั้น คงอยากจะเข้าไปจิกหัวของพวกเขา



จังหวะนี้ คนที่น่าโดนตำหนิสุด คือ พอล สโคลล์
ผู้เล่นโบโร่ด้านขวามีคาร์ริค ยืนปิดให้อยู่แล้ว
แต่สโคลล์ดันขึ้นขยับไปช่วย ปล่อยให้คู่แข่งทางซ้ายมือของเขายืนไร้ตัวประกบ
เดือดร้อนถึงโอเชียต้องออกจากตำแหน่งขึ้นมาบีบ ทำให้มีพื้นที่ด้านหลังเขา
โชคดีที่ฟาน เดอร์ ซาร์อ่านจังหวะนี้ออก เข้ามาปิดได้ทัน
ทำให้รอดจากการเสียประตู

27th Minute:

จอห์น โอเชีย เปิดบอลขึ้นหน้าไม่แม่น
แถมสกัดสะเปะสะปะมาก



อีกจังหวะนึง แสดงให้เห็นปัญหาของเกมรับแมนยูที่สกัดไม่ขาด
เริ่มจากจอห์น โอเชีย ต่อด้วยเอฟร่า




เดือดร้อนไปถึงฟาน เดอร์ ซาร์ต้องออกแรงโชว์ซุปเปอร์เซฟ



28th Minute:



ปัญหาอย่างนึงของเกมนี้ คือ เกมสวนกลับของพวกเขาไม่มีประสิทธิภาพ
พวกเขาปล่อยให้เดอะ โบโร่ ได้มีเวลาในการถอยไปตั้งเกมรับ

29th Minute:

คำพูดนึงของเซอร์อล็ก เฟอร์กูสัน คือ หากคุณต้องการที่จะเล่นเกมcounter attack
คุณต้องเริ่มจากการผ่านบอลแรกให้ดีที่สุดให้ได้ก่อน
ตัวอย่างเช่น จังหวะนี้



นี่คือเหตุผลว่า ทำไมกองหลังสมัยใหม่ คนที่เล่นกับบอลได้ดี
จึงมีมูลค่าและเป็นที่ต้องการ

จังหวะนี้ ริโอ เฟอร์ดินาน ไม่เคลียร์บอลสุ่มสี่สุ่มห้า
แต่เขาพักบอลให้เพื่อนนิ่มๆ เพื่อให้คาร์ริคสามารถเล่นต่อได้เลย
คาร์ริคจึงสามารถจ่ายตัดระหว่างไลน์ได้จากการผ่านบอลแค่ครั้งเดียว


29th Minute:



พระเจ้าช่วย! ดูจังหวะนี้ซะก่อนสิ คริสเตียโน่
โรนัลโด้เลี้ยงแหวกผู้เล่นสี่คน ก่อนเข้าไปยิงหลุดกรอบ
เรียกเสียงฮือฮากันทั้งสนาม

34th Minute:

แมนยูหลังหลวมเว่อร์! เดอะ โบโร่ ตีเสมอได้สำเร็จ



จากจังหวะที่ไม่น่ามีอะไร เดอะ โบโร่ ตัดบอลได้
โอนีลสาดบอลยาวขึ้นหน้าข้ามหัวจอห์น โอเชีย
เลยไปถึงอาลิยาดิแอร์ สกิดบอลไปให้อะฟอนโซ่ อัลเวส ที่วิ่งเติมมาจากข้างหลัง
หลุดไปยิงผ่านตัวฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไป เดอะ โบโร่ ตามตีเสมอได้สำเร็จ


44th Minute:

จังหวะนี้ให้ดูการรับผิดชอบกันเป็นทีม



คาร์ริค เติมขึ้นไปรับบอลข้างหน้า ทำให้เกมตรงกลางเหลือเพียงสโคลล์
แต่เป็นเดอะ โบโร่ที่เก็บบอลได้ และกำลังจะสวนกลับ
ทำให้เตเบซ ต้องรับผิดชอบในการตัดบอลแทนคาร์ริคที่เสียตำแหน่งไปแล้ว

อีกตัวอย่างหนึ่ง
เตเบซวิ่งจากเส้นกลางสนามเพื่อมามาสกัดคู่แข่ง
จากนั้นก็มีรูนนีย์ที่วิ่งจากแดนคู่แข่งลงมาช่วยเก็บจังหวะที่สอง



'รับทั้งทีม รุกทั้งทีม' มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก ทั้งคู่เสมอกันที่ 1-1

********************************************************
********************************************************

Half Time

เริ่มเกมครึ่งหลัง เซอร์อเล็ก เฟอร์กูซัน มีการปรับเกมรับ
ด้วยการขยับเอาเวสบราวน์ไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็ค
แล้วเอาโอเชียมาเล่นเป็นฟูลแบ็คทางขวาแทน

50th Minute:

จังหวะนี้ริโอ เฟอร์ดินาน โชว์คลาสของกองหลังระดับโลก
เขากล้าครองบอล กล้าเล่นกับบอล



เมื่อเขาเอาตัวรอดมาจากพื้นที่แคบๆมาได้
เขาสามารถผ่านบอลขึ้นหน้า
ทำให้แมนยูสามารถเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกได้ในทันที



นักเตะแบบModern defender คือคุณสมบัติของกองหลังที่เซอร์อต้องการ
ดังนั้น หากกรณีที่เฟอร์ดินาน ลงเล่นไม่ได้
จึงเป็นเหตุให้เซอร์เลือกที่จะใช้ไมเคิล คาร์ริคไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็คแทน

เซอร์เคยให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจส่งคาร์ริคลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเอาไว้ว่า

"Michael Carrick was absolutely brilliant with his passing the ball and his interceptions."

"ไมเคิล คาร์ริค มีการผ่านบอลที่ยอดเยี่ยม และสามารถตัดบอลได้ดี"


52nd Minute:

กลับมาที่เกมของเรา แมนยูยังเสมอกับเดอะ โบโร่ 1-1
การย้อนดูเกมเก่าๆมันช่างคุ้มค่าเหลือเกิน
เพราะคุณจะได้เห็นจังหวะที่น่าทึ่งของแมนยูชุดนี้ในทุกๆนาที

จังหวะนี้แมนยูโชว์จังหวะการสวนกลับอย่างรวดเร็ว
เริ่มจากการขว้างบอลยาวของฟาน เดอร์ ซาร์
ไปให้โรนัลโด้รับบอลแล้วกระชากยาวจากครึ่งสนาม
ก่อนจะแทงทะลุช่องให้รูนนีย์ได้ตวัดบอลเข้ามาตรงกลาง
น่าเสียดายที่บอลมันย้อนหลังเตเบซไปซะแล้ว



แม้จะจบสกอร์ไม่ได้ แต่ก็แสดงให้เห็นเกมสวนกลับที่ยอดเยี่ยมของแมนยู
โดยพวกเขาใช้เพียง2-3จังหวะเท่านั้น ในการพาบอลเข้าสู่เขตโทษ

54nd Minute:

รูนนีย์โชว์ความมุ่งมั่นทุ่มเท
วิ่งสปริ้นท์ตามไปเล่นบอลจังหวะที่คู่แข่งส่งบอลคืนหลังไปให้ผู้รักษาประตู
แต่มาร์ค ชวาร์เซอร์ คว้าบอลไว้ได้ก่อน แรงเฉี่อยทำให้รูนนีย์เข้าปะทะกับผู้รักษาประตู จนได้รับใบเหลืองไป



56th Minute:

อ่าวเห้ย! แมนยูโดนยิงแซงเฉย
กองหลังแมนยูยังแจกโชคต่อเนื่อง
เริ่มจากเฟอร์ดินาน ขึ้นโหม่งจังหวะแรกบอล
ไปเข้าทางผู้เล่นมิดเดิ้ลสโบรซ์เตะโด่งกลับไปข้างหน้า
เวสบราวน์ ขึ้นโหม่งแพ้ ทำให้บอลไปเข้าทางอัลเวส หลุดเข้าไปยิง
สถานการณ์เริ่มลำบาก แมนยูกลับเป็นฝ่ายตามหลัง 2-1



59th Minute:

เดอะ โบโร่ เล่นเหมือนบอลได้ใจ
ยังโหมบุกเข้าใส่ต่อเนื่องจนเกือบได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะนี้



มาจากการพยายามเล่นบอลเร็ว แต่รูนนีย์พลาดท่าเสียบอลกลางสนาม
เอฟร่าหลุดตำแหน่ง ทำให้เวสบราวน์ต้องขยับไปปิดริมเส้น
ทำให้ตรงกลางเหลือแค่เฟอร์ดินานคนเดียว
บอลลอยผ่านมาถึงผู้เล่นของมิดเดิ้ลสโบรซ์โหม่งย้อนไปให้เพื่อนที่เติมขึ้นมา
โชคดีที่ริโอ เฟอร์ดินานกระโดดกลับตัวสกัดเอาไว้ได้ทัน

คนเดียวแบกกองหลังทั้งแผงจริงๆ


60th Minute:

ผู้บรรยายภาษาอังกฤษเริ่มพูดกันว่า เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสันจะจัดการกับเกมรับที่ปวกเปียกนี้ได้อย่างไร

63rd Minute:

แมนยูตัดสินใจเปลี่ยนตัวคนแรก ด้วยการถอดคาร์ลอส เตเบซออก
แล้วส่งปาร์ค จีซอง ลงไปแทน

เป็นการเปลี่ยนตัวที่น่าสนใจ
ดูเหมือนแมนยูจะเปลี่ยนไปเล่นเป็น 4-4-2 ที่ตัวเองถนัด
โดยการขยับเอารูนนีย์เข้ามาเล่นตรงกลางมากขึ้น จับคู่กับโรนัลโด้
ปาร์ค ขยับไปเล่นฝั่งขวา แล้วขยับไรอัน กิ๊กไปเล่นตำแหน่งปีกซ้ายธรรมชาติ

65th Minute:

ถัดจากนั้น2นาที แมนยูขยับเปลี่ยนตัวที่2ทันที
ด้วยการถอดกองหลังอย่างจอห์น โอเชีย ออกแล้วส่งโอเว่น ฮาร์กรีฟลงไปแทน

69th Minute:

ภายในไม่กี่นาที แมนยูต้องใช้โควต้าเปลี่ยนตัวจนครบ
เนื่องจากริโอ เฟอร์ดินานมีอาการบาดเจ็บ
ทำให้ต้องส่งกองหลังดาวรุ่งอย่าง เคราร์ด ปิเก้ ลงมาแทน

73rd Minute:

แมนยูตามตีเสมอได้สำเร็จ!!!
การปรับมาเล่นเกมรุกมากขึ้นของเซอร์อเล็กได้ผลทันทีในนาทีที่73
คาริค แทงบอลให้ปาร์ค วิ่งควบไปเอาบอล ก่อนจะแตะหลบหนีกองหลังมิดเดิ้ลสโบรซ์มาได้
แล้วบรรจงผ่านบอลให้รูนนีย์ซัดจ่อๆไม่เหลือ แมนยูตีเสมอได้สำเร็จ 2-2 เหลือเวลาอีกไม่ถึง20นาที



การขาดคนที่มีวิชั่นในการผ่านบอลแบบคาร์ริค
คือสิ่งที่แมนยูชุดปัจจุบันขาดไปในฤดูกาล2020นี้



ตัวที่ทำได้ ก็ดันเจ็บไปซะยาว

77th Minute:

แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องขยับแก้เกมบ้าง
โดยเขาถอดเอากองหน้าอย่างอะฟอนโซ่ อัลเวส คนทำสองประตูให้กับทีมออกไปพัก
แล้วส่งมิดฟิล์ดลงไปแทน ตอนนี้เดอะ โบโร่ มีกองกลางทั้งหมด5ตัวอยู่ในสนาม

เป็นอย่างที่เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสันเขียนเอาไว้ในหนังสือ
ถึงเหตุผลที่ทำให้ทีมเขาสามารถยิงได้ในช่วงท้ายเกมได้บ่อยๆ
นั่นก็เพราะคู่แข่งมักถอดเกมรุกออก ทำให้เซอร์สามารถเพิ่มผู้เล่นเกมรุกได้โดยไม่ต้องห่วงเกมรับ

85th Minute:

สกอร์2-2 เหลือเวลาไม่ถึง5นาทีก่อนทดเวลา
จังหวะนี้ โรนัลโด้ กระชากหนีผู้เล่นมิดเดิ้ลสโบรซ์ทีเดียวสองคน
ก่อนจะถูกสกัดล้มลงบริเวณกรอบเขตโทษ สุดท้ายผู้ตัดสินให้เป็นแค่ลูกฟรีคิกนอกกรอบ



สังเกตจังหวะนี้ เซอร์สังให้ผู้เล่นแมนยูทุกคนดันขึ้นสูง
รวมถึงโอเว่น ฮาร์กรีฟที่เล่นตำแหน่งฟูลแบ็คฝั่งขวาก็เข้าไปลุ้นบริเวณกรอบเขตโทษด้วย

Full Time
สุดท้าย จบเกมด้วยสกอร์ 2-2 แมนยูเก็บได้เพียงหนึ่งคะแนน
แต่ยังนำเป็นจ่าฝูง โดยทิ้งเชลซีเป็น3คะแนน โดยที่เหลือเกมให้เล่นอีก5เกมเท่านั้น


ที่มา (แปลจาก) : https://thebusbybabe.sbnation.com/2020/4/17/21223933/retro-diary-middlesbrough-vs-manchester-united-premier-league-2008
แก้ไขล่าสุดโดย Famelaini เมื่อ Mon Aug 03, 2020 17:59, ทั้งหมด 7 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10131
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 16:58
[RE: [เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2008/09 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์]
มิดเดิ้ลสโบรซ์ ยุคเซาท์เกต ไม่ธรรมดาเลยนะ
คือชุดที่ยิงถล่มแมนซิตี้่ของสเวน โกรัน อิริคสัน ไป 8-1

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
Engineer
Status: #ความรักก็เช่นกัน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jan 2015
ตอบ: 36404
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีผู้หญิง
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 17:11
[RE: [เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2008/09 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์]
ขอบคุณครับ ลืมหมดแล้วบอกตรงๆ ชอบมาก

ปล.ผมมีเสื้อตัวนี้สีนี้ของแท้ สกรีน Hargreaves ด้วย คิดถึงแกเลยแฮะ
เป็นที่เล่นที่อยู่ไม่กี่ปี ลงไม่กี่นัด แต่ตรึงใจผมมากๆ 555555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Manchester United Fan since 2002
Heat Fan sice 2006-2013 Wade win a Ring
Nuggets Fan Since draft Jamal Murray y2016

ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10131
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 17:17
[RE: [เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2008/09 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์]
ฮิป สะ เตอร์ นะ จ้ะ พิมพ์ว่า:
ขอบคุณครับ ลืมหมดแล้วบอกตรงๆ ชอบมาก

ปล.ผมมีเสื้อตัวนี้สีนี้ของแท้ สกรีน Hargreaves ด้วย คิดถึงแกเลยแฮะ
เป็นที่เล่นที่อยู่ไม่กี่ปี ลงไม่กี่นัด แต่ตรึงใจผมมากๆ 555555
 


ผมก็เพิ่งรู้ว่าแกเคยเล่นเป็นฟูลแบ็ค ก็จากเกมนี้แหละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: ตัวละครลับ ในโรงละครแห่งความฝัน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 890
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 17:27
[RE: [เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2008/09 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์]
เขียนสนุกมากครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
Engineer
Status: #ความรักก็เช่นกัน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jan 2015
ตอบ: 36404
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีผู้หญิง
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 17:33
[RE: [เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2008/09 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์]
Famelaini พิมพ์ว่า:
ฮิป สะ เตอร์ นะ จ้ะ พิมพ์ว่า:
ขอบคุณครับ ลืมหมดแล้วบอกตรงๆ ชอบมาก

ปล.ผมมีเสื้อตัวนี้สีนี้ของแท้ สกรีน Hargreaves ด้วย คิดถึงแกเลยแฮะ
เป็นที่เล่นที่อยู่ไม่กี่ปี ลงไม่กี่นัด แต่ตรึงใจผมมากๆ 555555
 


ผมก็เพิ่งรู้ว่าแกเคยเล่นเป็นฟูลแบ็ค ก็จากเกมนี้แหละ  


ป๋าจับยืนมาหมดแล้ว กลางรับ กลางรุก ปีก ฟูลแบ็ค แล้วเล่นดีหมดเลยครับ

แถมนัดไหนถ้าพี่แกลงคือโด้ไม่ได้ยิงฟรีคิก ป๋าให้พี่แกยิงอันดับ 1 เลย

ถ้าได้ระยะหน้ากรอบ สุดจริงๆ สภาพไม่น่ากระดูกยุงเลยยยย

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Manchester United Fan since 2002
Heat Fan sice 2006-2013 Wade win a Ring
Nuggets Fan Since draft Jamal Murray y2016

ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10131
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 17:42
[RE: [เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2008/09 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์]
chimpanzee พิมพ์ว่า:
เขียนสนุกมากครับ  


ผมแปลมาอีกทีครับ

จริงๆมีอีกเกมนึงที่ต้นฉบับเขาเขียนไว้
ท่านจะลองเอาไปดูก็ได้ครับ
(จริงๆมีสองบทความ มันต่อกัน)

ลิงค์อันนี้เป็นเกมเจอโรม่า (ก่อนเจอมิดเดิ้ลสโบรซ์)
https://thebusbybabe.sbnation.com/2020/4/7/21207336/retro-diary-as-roma-vs-manchester-united-champions-league-2008

แต่ผมดูแล้วไม่ค่อยมีอะไร ก็เลยเลือกแปลแค่อันเดียว

ที่ผมตลกคือ คนเขียนแก งง วิธีการเล่นของโรม่า
ที่จะแบ่งเป็นสามๆๆ หน้าสาม กลางสาม หลังสาม
แล้วที่ตลกคือ เวลาเข้าสกัด เข้าทีละสาม!!

แล้วพอดูในgif มันก็เป็นอย่างนั้นจริง 55555
พุ่งสกัดทีเดียวสามคน เป็นอะไรที่แปลกตามากครับ

Spoil
 


คงต้องให้แฟน กัลโซ่ มาอธิบายจังหวะแบบนี้
แก้ไขล่าสุดโดย Famelaini เมื่อ Mon Aug 03, 2020 17:43, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 16860
ที่อยู่: Promised Land
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 17:51
[RE: [เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2008/09 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์]
นิดหน่อยครับเป็นซีซั่น 07/08
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10131
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 17:57
[เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2007/08 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
นิดหน่อยครับเป็นซีซั่น 07/08  


อ่าวเหรอครับ พอดีต้นฉบับเขาเขียนแค่2008
ถ้างั้นก็หมายถึงปีที่ได้ดับเบิ้ลแชมป์ใช่มั้ยครับ

ขอบคุณมากๆครับที่บอก

ขออนุญาติแก้ไขหัวข้อนะครับ
เปลี่ยนจาก2008/09 ไปเป็น2007/08

แก้ไขล่าสุดโดย Famelaini เมื่อ Mon Aug 03, 2020 19:58, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 16860
ที่อยู่: Promised Land
โพสเมื่อ: Mon Aug 03, 2020 21:12
[RE: [เกมย้อนหลัง] ซีซั่น 2007/08 : แมนยู vs มิดเดิ้ลสโบรช์]
Famelaini พิมพ์ว่า:
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
นิดหน่อยครับเป็นซีซั่น 07/08  


อ่าวเหรอครับ พอดีต้นฉบับเขาเขียนแค่2008
ถ้างั้นก็หมายถึงปีที่ได้ดับเบิ้ลแชมป์ใช่มั้ยครับ

ขอบคุณมากๆครับที่บอก

ขออนุญาติแก้ไขหัวข้อนะครับ
เปลี่ยนจาก2008/09 ไปเป็น2007/08

 


ใช่ครับ น่าจะช่วงปลายซีซั่น

ว่าไปแล้วก็คิดถึงโบโร่ เป็นอีกทีมที่ชนะยากในช่วงนั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel