ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Jan 2014
ตอบ: 397
ที่อยู่: London
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 16:16
ถูกแบนแล้ว
[Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี


วันนี้ ผมเอาบทความเก่ามาให้อ่านกัน
ถูกเขียนไว้สมัยแฟรงค์ แลมพาร์ด อำลาเชลซี
หวังว่าทุกคนจะสนุกและรำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆนะ
ลองดูว่าคุณจำโมเม้นเหล่านี้ได้หรือเปล่า

แฟรงค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์พรสวรรค์สูงชาวอังกฤษ
ย้ายเข้าร่วมก๊วนเชลซีตั้งแต่ปี 2001 ในยุคของรานิเอรี่


การเทคโอเวอร์ของโรมัน อบราโมวิช
ได้นำเข้าเหล่าสตาร์ระดับโลกมากมาย
เพื่อทดแทนช่องว่างของนักเตะรุ่นพ่อทั้งหลาย

ทั้งกุสตาโว โปเยต์, เดนนิส ไวส์ หรือ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ก็ดี

แต่เขายังคงยืนเป็นเสาหลักได้จวบจนทุกวันนี้
ส่วนนึงก็ต้องขอบคุณโค้ชคู่บุญ โจเซ่ มูรินโญ่ ด้วย
เขาพัฒนาศักยภาพแลมพาร์ดในทิศทางที่ถูกต้อง

ลูกยิงไกลที่มีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด
การวางบอลในน้ำหนักที่แม่นยำสุดขีด
ทักษะการอ่านเกมที่ชาญฉลาด

ในศึกยูโรปี 2004 ก็ทำได้ดีอีก
เขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของชาติมาครอง
ผมก็ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำพูดอะไรมาอวยแกนัก
เอาเป็นว่าครบเครื่องต้มยำแล้วกัน



ในภาพขั้นต้นคือ ภาพเก่า
ที่แสดงถึงวิธีการทำประตูของเขา
ในตลอดระยะเวลา 12 ปีกับเชลซี


แต่ปัจจุบันเขาซัดไป 211 ประตู จาก 649 นัด

แบ่งเป็นพรีเมียร์ลีคกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
ทิ้งห่างอันดับสองอย่างไรอัน กิ๊กส์ กว่าครึ่งร้อยเลยทีเดียว

ความเก่งกาจของเขายังไม่หมดแค่นั้น
เขาเคยเกือบเอาชนะโรนัลดินโญ่คว้าบัลลงดอร์มาแล้ว
ด้วยสไตล์วิ่งไม่หมด แข็งแกร่งทั้งบอลสั้น บอลยาว
มีการทำประตูเป็นออพชั่นเสริมอีก

ความสมบูรณ์แบบจนยากจะหาใครเทียบ
ทำให้เขากลายเป็นก้อนเนื้อชิ้นปลามัน
ได้รับความสนใจจากสโมสรอื่นทั่วโลก




ในวัย 29 ปี ของแฟรงค์ แลมพาร์ด
เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับกัลโช่ เซเรีย อา
เวทีใหญ่อันดับหนึ่งจากดินแดนรองเท้าบู๊ต


ความซับซ้อนของแท็คติกที่เหล่ากุนซือใส่ลงไป
เครื่องปรุงแต่งหลากรสจะช่วยถนอมสภาพร่างกาย
ให้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในอาชีพค้าแข้งไปได้อีกนานโข

ไม่เพียงแค่ยอดทีมแห่งเมืองตูรินเท่านั้น
แต่กลิ่นหอมชวนหลงไหลนี้แพร่ขยายไปทั่วขุมอำนาจ
ทั้งกรุงโรมของนางพญาหมาป่า และเมืองมิลานของปีศาจแดงดำ

แลมพาร์ดยังไม่ลืมความโศกเศร้านั้น
ในวันที่โจเซ่ มูรินโญ่ ต้องอำลาสโมสรไป
ชายที่สร้างให้เขากลายเป็นซูเปอร์ แฟร้งค์ อยู่ที่นั่น

ที่อีกฟากหนึ่งของเมืองมิลาน
งูใหญ่หนึ่งตัวรอวันปะทุขึ้นมาครองโลก
"อินเตอร์ มิลาน"

เขานั่งคิดทบทวนอีกครั้ง
ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะเดินเข้ามา
มาช่วยทำให้เขาเปลี่ยนความคิดไป




ผ่านไปไม่นานนัก
หญิงสาวคนดังกล่าวเสียชีวิตลงด้วยโรคร้ายอันน่าสลด


เจ็ดวันก่อนเกมกับลิเวอร์พูล
ในศึกรอบรองชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก
สโมสรแสดงความจำนงไม่ปรารถนาให้แลมพาร์ดลงแข่งขัน
เนื่องจากทราบดีถึงสภาวะจิตใจอันแสนหดหู่ของเจ้าตัว

มิดฟิลด์ผู้เคร่งขรึมกลั้นใจฝ่าฝืนคำสั่งของสโมสร
ยื่นเอกสารเป็นคำพูดแทนหน้ากระดาษ

"ผมพร้อมรับใช้สโมสรแล้ว"

เกมเป็นไปอย่างดุเดือด
ผลลงเอยที่เสมอ 1-1 เข้าสู่ช่วงเวลาต่อพิเศษ
เชลซีได้จุดโทษจากการทำฟาวล์ของแข้งลิเวอร์พูล

แลมพาร์ดมองไปยังแสตนด์ด้วยใจอึกทึกครึกโครม
ยืนฟังเสียงแฟนบอลในสนามที่ดังสนั่นหวั่นไหว
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องกดดันจากทีมคู่แข่ง

'แฟร้งค์ แลมพาร์ด จูเนียร์'
วิ่งเข้าไปซัดบอลสวนทางกับผู้รักษาประตู
เขาเดินไปฝั่งมุมธงของสนามแล้วถอดปลอกแขนออก
ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้นหญ้าสุดชุ่มฉ่ำในแสตมฟอร์ด บริดจ์
'คิงดร็อกบา'เข้ามาแสดงความยินดีกับประตูชัยที่เกิดขึ้น

เหนือขึ้นไปบนฝั่งกองเชียร์
ชายร่างท้วมไว้หนวดเครารุงรัง
ยืนยิ้มเบาๆกับความสำเร็จที่เชลซีได้รับ

โดยปกติแล้วเขาจะเข้ามาดูทุกเกม
ที่มีแฟร้ง แลมพาร์ด ลงสนามพร้อมภรรยา
ทั้งคู่เป็นแฟนบอลตัวยงของแฟรงค์ แลมพาร์ด
และยังเป็นผู้ให้กำเนิดมิดฟิลด์ชาวอังกฤษคนนี้

ข้างกายเขาไม่มีอีกแล้วผู้หญิงคนนั้น
คนที่ฟูมฟักดูแลลูกชายตัวน้อยจนเติบใหญ่ถึงบัดนี้
แลมพาร์ดเงยหน้าขึ้นมาพร้อมชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้า

ใช่แล้ว...
คนที่บอกให้เขาอยู่กับสโมสรต่อคือแม่ของเขา
คำพูดในวันนั้นช่วยให้แลมพาร์ดกลายเป็นฮีโร่ในวันนี้

“ลูกห้ามไปยูเวนตุส ลูกต้องอยู่ที่นี่ ที่เชลซี”




อังเดร วิลลาส โบอาส กุนซือหนุ่มไฟแรง
เริ่มต้นความท้าทายใหม่กับสโมสรที่เขาเคยทำงาน
ภายใต้นโยบายแสนเคร่งครัดสุดเข้มงวด


เชลซีจะต่อสัญญาให้กับผู้เล่นที่อายุเลย 30 ปี แค่เพียงปีเดียวเท่านั้น

โบอาสผู้ได้รับฉายาว่า 'นิวมูรินโญ่'
อ้าแขนแสดงอำนาจหวังเปลี่ยนแปลงสโมสรในทิศทางใหม่
คีย์แมนคนหลักจะไม่ใช่แลมพาร์ดอีกต่อไป

ความสั่นคลอนสั่นสะท้านไปทั่วสโมสร
การเมืองภายในคุกรุ่น ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
โบอาสผู้ที่เคยเป็นดูแค่แท็คติคในยุคมูรินโญ่น่ะเหรอ
กล้าดียังไงจะมาดร็อปแฟร้งกี้?

"ผมจะพาเชลซีเถลิงบัลลังก์แชมป์ภายในสามปี"

ผลงานสวนทางกับคำพูด
คำกล่าวแข็งกระด้างกลายเป็นเสี้ยนหนามตอกตำ
โบอาสอยู่ในสถานะเก้าอี้ร้อนฉ่าเหมือนลนไฟ

ทุกคนลงความเห็นว่า
ต้องนำแลมพาร์ดกลับมาอีกครั้งเพื่อกู้สถานการณ์

แต่ความดื้อรั้นของโบอาสก็ยังไม่หยุดหย่อน
เขาเปลี่ยนตัวแฟรงค์ แลมพาร์ดออกกลางเกม
มิดฟิลด์รองกัปตันทีมกระทืบเท้าเดินออกสนามไม่พูดไม่จา
นำไปสู่ข่าวลือที่ว่า 'แคมป์สิงบลูแตกเรียบร้อย'




แต่ใครเล่าจะกล้าต่อว่ากองกลางผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสร
ผลงานที่ดิ่งลงเหวนำไปสู่การปลดกุนซือหนุ่มกลางคัน


เงินค่าชดเชยกว่าสิบล้านปอนด์
ไม่ได้ทำให้โรมัน อบราโมวิช ขนร่วงอยู่แล้ว
ตราบใดที่สิ่งที่เขาทำมันเพื่อสโมสร เขาไม่เคยแคร์ใคร

โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ้ มือขวาคนสนิทโบอาส
ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือแทนชั่วคราว
เขายุติปัญหาโดยการคืนอำนาจและการันตีตัวจริงให้รองกัปตัน

เมื่อกองทหารได้ตัวแม่ทัพกลับมาบัญชาเกมส์
นักเตะเชลซีวิ่งลืมตายโค่นล้มทีมเล็กใหญ่เป็นว่าเล่น
รวมถึงทำช็อคโลกด้วยการโกงความตายเอาชนะนาโปลี
ผ่านเข้ารอบเกมยุโรปไปแบบสุดระทึกใจ

เส้นทางมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
เพราะด่านสุดท้ายก่อนเกมชิงดำ คู่แข่งดันมาจากต่างดาว


หลายครั้งหลายคราที่ลีโอเนล เมสซี่
พยายามเจาะตาข่ายขุนพลสิงห์บลู
แต่ก็ถูกสกัดกั้นระหว่างทางไว้ได้ตลอด
โลกได้รู้จักกับรถบัสเชลซีครั้งแรกในเกมนี้

แลมพาร์ดเข้าตัดเกมได้ดีเอามากๆ
ก่อนส่งกระสุนปืนทะลุแนวรับอาซูลกราน่า
ให้รามิเรสหลุดไปชิพบอลปิดบัญชี
ฉีกหน้ากระดาษเหล่าเกจิเป็นผุยผง

ท้ายที่สุด เขาลงสนามที่อัลลิแอนซ์ อารีน่า
สวมปลอกแขนกัปตันทีมไปเชือดเสือใต้คาถิ่น
จากผลงานของลูกผู้ชายชาวไอเวอรี่ โคสต์
ผู้เปรียบเสมือนอาวุธร้ายเคียงข้างแลมพาร์ดเสมอมา

สร้างประวัติศาสตร์พาเชลซีคว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นครั้งแรกของสโมสร



ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงของจริงได้เริ่มต้นขึ้น
ภายหลังการคว้าแชมป์ยุโรปมาครองอย่างยิ่งใหญ่


ฝ่ายผู้บริหารนำเงินไปจับจ่ายใช้สอย
คว้าดาวเตะสายเลือดใหม่มาประดับทีม
เปรียบเสมือนสิงโตเฒ่าผู้กระหายความเยาว์วัย
บำรุงร่างกายด้วยเพชรและอัญมณีล้ำค่าจากทั่วทุกมุมโลก

นำทัพโดยเอเด็น อาซาร์
ผู้เข้ามาปลุกชีวิตชีวาเกมรุกสโมสร
ชื่อเสียงชุดแนวรุกตัวใหม่ถูกขนานนามว่า "สามทหารเสือ"

'กระทิงหนุ่ม' ฆวน มาต้า
'บราซิลเลี่ยนบอย' ออสก้าร์
'ผลไม้ต้องห้าม' เอเด็น อาซาร์



เกมรุกจัดจ้านช่วงต้นฤดูกาลเริ่มแผ่วลง
ดิ มัตเตโอ้ ถูกตราหน้าว่ากึ๋นไม่เพียงพอ
ได้แชมป์ยุโรปเพียงเพราะโชคชะตาลิขิตไว้เท่านั้น

เขาถูกปลดออกและผู้เข้ามากอบกู้สถานการณ์คือ
อดีตนายใหญ่ชาวสเปนที่เคยกล่าวว่า
เชลซีจะเป็นทีมที่เขาไม่มีวันมาคุม

"ราฟาเอล เบนิเตซ"

ผลกรรมตกถึงตัว
ราฟาถูกขับไล่ ด่าทออย่างไม่ใยดี
วาจาที่เคยเอ่ยไว้ย้อนเข้ามาเป็นลูกศรปักตัว

เขาข่มใจสู้กัดฟันไปพร้อมนักเตะ
จนสุดท้ายมันระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ราฟาพูดประโยคเด็ดได้ใจทั้งนักเตะและแฟนบอลเต็มๆ

"ถ้าคุณเป็นแฟนบอลเชลซี คุณควรสนับสนุนพวกเขา
ไม่ใช่โห่ในสนามแบบนี้และจบฤดูกาลนี้ผมจะไป"


ผลเสมอสามนัดรวดในสามนัดแรก
พลิกไปมาจนคอมเมนเตเตอร์ต้องอ้าปากค้าง
เมื่อเจ้าหนวดร่างท้วมพาเชลซีคืนชีพได้จริงๆ

จบท็อปโฟร์และคว้าถ้วยยูโรป้าลีกเข้าตู้
'เอลราฟา'จากไปอย่างพระเอก ป้ายขอบคุณเบนิเตซเต็มพื้นสนาม



แต่ประเด็นหาได้อยู่ที่ราฟาไม่
รองกัปตันผู้ยิ่งใหญ่กับเชลซีกำลังจะจากไป
ทุกคนคาดว่ามันคือขวบสุดท้ายของเขาแล้ว


ข่าวลือโหมกระหน่ำถาโถมในช่วงตกต่ำของอาชีพ
ผู้บริหารยืนกรานถึงสัญญาปีเดียวและต้องลดค่าเหนื่อยลง
เบนิเตซเองก็รู้ดีถึงสถานการณ์ต่างๆ

แต่เพื่อกอบกู้สถานการณ์
เขาจำเป็นต้องใช้คนอื่นเป็นแกนหลัก
มากกว่าเสือใกล้หมดวัยอย่างแลมพาร์ด

อย่างไรก็ตาม
เพราะฟุตบอลไม่ได้มีแค่แท็คติกเดียว
และราฟาก็ไม่ใช่โบอาส

เขาผ่านร้อนผ่านมาหนาวมามากพอ
ที่จะรู้จักการจัดการนักเตะภายในทีม

เขาให้โอกาสแลมพาร์ดในการลงสนาม
ก่อนซุปเปอร์แฟร้งจะลงไปตะบันชัยให้เชลซี
เสียงแฟนบอลหลายคนร้องระงมถึงวาระสุดท้าย
ในสีเสื้อเชลซีหมายเลข 8 ของเขา

แลมพาร์ดวิ่งไปแสดงความดีใจ
ปนเปกับความโศกเศร้าร่วมกับแฟนบอล
เขากางมือออกสองข้างและกล่าวว่า

"I Love You All"




การกลับมาของมูรินโญ่
คงช่วยยืดอายุของแฟร้งกี้ได้เพียงเท่านี้
เขารู้ดีว่าลูกน้องคนนี้เก่งกาจขนาดไหน
เขายังแปลกใจที่แฟร้งไม่ได้บัลลงดอร์


หลายคนยกให้เขาคือ กองกลางที่เก่งที่สุดที่เชลซีเคยมีมา
หลายคนยกให้เขาคือไอดอลเบอร์หนึ่งที่จะเอาไว้เป็นแบบอย่าง
และหลายคนยืนยันว่าจะไม่ลืมเขาแน่นอน

ในวันนี้คงไม่มีอีกแล้ว
กับชายที่ชื่อแฟร้ง แลมพาร์ด ในสนามแสตมฟอร์ด บริดจ์
ผมเคยหวังอยู่ลึกๆว่าซุปเปอร์แฟร้งจะไม่ไป
จะแขวนที่นี่เป็นที่สุดท้ายจากคำที่เขาเคยพูด

แต่เมื่อมันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ผมก็เชื่อว่าแฟนเชลซีทุกคนจะรับมันได้
และพร้อมสนับสนุนเขาต่อไป

"ตอนผมมาถึงสโมสรที่น่าอัศจรรย์แห่งนี้เมื่อ 13 ปีก่อน
ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะโชคดีพอที่จะได้ลงเล่นเกมมากมาย
และร่วมแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ"

"สโมสรแห่งนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว"

"สโมสรจะต้องเดินหน้าต่อไป ในแบบที่เชลซีเป็น
และผมไม่มีข้อกังขาในเรื่องของคุณภาพของนักเตะที่มีอยู่เลย
พวกเขาจะก้าวต่อไปพร้อมกับความสำเร็จ
ที่เราเคยมีร่วมกันในฤดูกาลที่ผ่านๆมา"

"ขอบคุณสำหรับความทรงจำ และขอให้สร้างประวัติศาสตร์ต่อไป"


Goodbye Super Frank
Chelsea Legend



อย่างน้อยๆตอนนี้ก็กลับมาแล้ว
มาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยกันต่อนานๆไปเลยนะ
ผมเป็น Big Fan ของป๋าแลมพ์เลยครับ

หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วย
ภาษาที่ใช้อาจจะแปลกหน่อยเพราะบทความเก่าแล้ว
หวังว่าทุกคนจะชอบและรำลึกความหลังไปกับผมนะครับ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8590
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 16:27
[RE: [Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี]
แกเป็นคนที่คิดถึงเหตุผลก่อนอารมณ์เสมอ
หลังจากที่ โดนอิเนสต้า ยิงช่วงทดเจ็บตอนปี2009
ดรอกบา บัลลัค เทอรี่ กำลังวิ่งไล่พี่หัวเหม่งอยู่

แลมพาดเดินไปแลกเสื้อชิวๆกับนักเตะบาซ่า

หรือไม่ ตอนที่แกยิงลูกที่เป็นตำนานสโมสร
คนอื่นคงถอดเสื้อโดนแดงไปแล้ว
แลมพาดกำลังจะถอดเสื้อ แต่เหมือนแกนึกอะไรขึ้นได้ เลยไม่ถอด วิ่งไปหาแฟนบอลแทน

3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 5366
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 16:34
[RE: [Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี]
ตอนที่แกลงให้แมนซิ แล้วยิงเชลซี

จังหวะนั้นแม่งสะเทือนใจโคตร น้ำตาผมแม่งไหลเลย

ใจป๋าแกก็คงตรึงๆเหมือนกันล่ะผมว่า




8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 7307
ที่อยู่: อิน ยัวร์ แอ่รีย้ะ
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 16:34
[RE: [Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี]
ผมเสียดายมากที่แลมพาร์ดไม่ได้แขวนสตั๊ดที่เดอะ บริดจ์

แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นวัฏจักรของชีวิตการค้าแข้ง ก็ได้แค่หวังให้แลมพ์ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งในฐานะโค้ช

ไม่นึกเลยจริงๆว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้ อยู่ด้วยกันไปนานๆนะครับบอส
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Mar 2010
ตอบ: 9132
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 16:41
[Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี
ขอบคุณครับ อ่านทถกบรรทัด ไอดอลเลยป๋าแลมพ์
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Apr 2020
ตอบ: 622
ที่อยู่: อยู่ในใจ
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 16:51
[RE: [Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี]
ชายผู้ทำให้ผมเชียร์เชลซี จากที่ดูบอลเล่นๆกับพ่อในบอลโลก 2006 ไปสะดุดตากับเบอร์ 8 เฉยทั้งๆที่ตอนนั้นควรจะสนใจเบอร์7อย่างเบคแฮม
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
I'm the Blues since 2006
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Sep 2013
ตอบ: 16730
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 17:05
[RE: [Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี]
ถ้าโปรเจค 3 ปีหน้าเป็นไปตามเป้า เชื่อว่าเราจะกลับมายิ่งใหญ่ได้แน่ๆ ปีแรกไม่หวังอะไรยังได้ขนาดนี้เลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Apr 2009
ตอบ: 947
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 18:44
[RE][Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี
เขียนได้ดีมากๆครับ ขอติดตามบทความของท่านทุกๆบทความเลย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 4045
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 19:21
[RE: [Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี]
ยังจำปีแรกแลมพาร์ดกับเชลซีได้อยู่เลย กลางสัญชาติอังกฤษที่ลงมาทำได้แค่ขวางบอลไปมาซ้ายไปขวาขวาไปซ้ายกลางรุกที่ไม่มีประโยชน์ในเกมรุก จนเป็นประเด็นให้บอร์ดเชลซีสมัยนั้นเดือดบ่อยๆว่าซื้อมาแค่อยากเพิ่มสัญชาติอังกฤษในทีม ไม่มีอิมแพคต่อเกมเลยตอนนั้น ณ วันนี้หลายคนคงกราบขอขมากันหมดแล้ว

หวังว่าลูกชายที่รักของนายอย่างเมาส์จะลบคำสบประมาท ทำให้คนด่ากลายเป็นคนชมได้อย่างนายนะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 3355
ที่อยู่: Stamford Bridge #
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 19:40
[RE: [Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี]
ไอดอลผมเหมือนกัน ตั้งแต่เริ่มดูบอล

จำได้แม่นเริ่มดูบอล 2004 ช่วงป๋าแลมพ์ฮอตๆเลยตอนนั้น ยิงไกลโคตรแรง ท่าดีใจโคตรเท่

บอกตรงๆเวลาผมดูเชลซีช่วงนั้น ผมอยากให้คนที่ยิงประตูได้ คือป๋าแลมพ์

เพราะจะได้ดูท่าดีใจ ดูทีไรก็สะใจตลอด
แก้ไขล่าสุดโดย 'kungyongunn เมื่อ Sat Jul 11, 2020 19:46, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: ಥ_ಥ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8748
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 20:39
[RE: [Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี]
เชี่ยเอ้ย เกือบร้องไห้

ขอบคุณสำหรับบทความที่ยอดเยี่ยมครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
CGM48
••••••••••••••••••••••••••



ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 5206
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jul 11, 2020 22:27
[Chelsea] ในวันที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ลาจากเชลซี
เป็นนักเตะที่ยอมซื้อโปรเตอร์ติดหน้าประตูหห้อง
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel