ดั้งเดิมนั้นถ้วยแชมป์วิคตอเรีย เป็นรางวัลเกียรติยศที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จของสโมสรฟุตบอลที่คว้าแชมป์เยอรมัน ยุคปี 1903-1944 ครั้นเมื่อถ้วยแชมป์วิคตอเรียเกิดการสูญหายไป จึงได้มีการจัดทำเป็นถาดแชมป์ Die Meisterschale เพื่อมอบให้แก่ทีมชนะเลิศเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ปี 1949 เป็นต้นมา แม้นว่าต่อมานั้น จะได้ถ้วยแชมป์วิคตอเรียกลับคืนมาในปี 1990 แต่ก็เห็นว่าไม่มีความเหมาะสำหรับการเฉลิมฉลองแชมป์อีกต่อไป จึงได้ใช้ถาดแชมป์ Die Meisterschale เป็นรางวัลความสำเร็จประจำฤดูการแข่งขันตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจวบจนปัจจุบัน



(ถ้วยแชมป์วิคตอเรีย)

สำหรับถาดแชมป์ Die Meisterschale หน้าตาเป็นถาดกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 59 เซนติเมตรน้ำหนักประมาณ 11 กิโลกรัม ประกันภัยไว้ในวงเงิน 50,000 ยูโร มีการสลักชื่อทีมแชมป์แต่ละปีไว้ที่ขอบวงแหวนรอบนอก มีครบทั้งหมดตั้งแต่ปี 1903 เป็นต้นมา โดยปีปัญหา 1921/1922 นั้นสลักชื่อแชมป์ทั้ง 1.เอฟซี เนิร์นแบร์ก และฮัมบูร์ก
ถาดแชมป์ Die Meisterschale เป็นผลงานการออกแบบและสร้าง ของศาสตราจารย์หญิง อะลิซาเบธ เทรสค็อฟและทีมงานนักศึกษาศิลปะแห่งมหาวิทยาลัย แวร์คชูเล่แห่งเมืองโคโลญจน์ ตอนแรกที่ทำขึ้นมาด้วยเงินสเตอริงค์นั้น มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางแค่ 50 เซนติเมตร น้ำหนัก 5.5 กิโลกรัม ตัวถาดประดับด้วยพลอยทัวร์มาลีนเม็ดใหญ่ 5 เม็ด เม็ดเล็ก 11 เม็ด

ในปี1981 ได้มีการขยายถาดให้ใหญ่ขึ้นเนื่องจากไม่มีพื้นที่มากพอสำหรับการสลักชื่อแชมป์ที่เติมเข้ามาในแต่ละปี การปรับปรุงครั้งนี้เป็นผลงานของช่างทองอะดอล์ฟ คูเนช แห่งเมืองโรเดนบัค โดยเติมแถบวงแหวนเงินเสริมเข้าไป ประดับเพิ่มด้วยพลอยทัวร์มาลีนคาโบชอน ขนาด 71.98 กะรัตมูลค่า 9,000 ยูโร สามารถสลักชื่อแชมป์ได้ถึงปี 2011
ในปี 2009 ช่างทองอะดอล์ฟ คูเนช ได้เปลี่ยนแถบวงแหวนสำหรับสลักชื่อให้กว้างเพิ่มขึ้น ทำให้มีพื้นที่เพิ่มจากสองแถวเป็นสามแถว ประมาณการว่าน่าจะมากพอสำหรับการสลักชื่อแชมป์จนถึงปี 2026 ซึ่งมากพอสำหรับรองรับการใช้งานได้อีก 6 ปีข้างหน้า

ถาดแชมป์จำลอง มีการจัดทำให้กับสโมสรที่ครองแชมป์แต่ละปี เพื่อให้สโมสรเก็บไว้ในครอบครองสามารถตั้งโชว์ได้ในพิธภัณฑ์เกียรติยศของแต่ละสโมสร ส่วนถาดแชมป์ของจริงมีสิทธิ์ได้ครอบครองเพียงแค่ปีเดียว พ้นจากนั้นต้องส่งคืนเดเอฟแอลเพื่อใช้ในพีมอบแชมป์ให้กับมโมสรที่ประสบความสำเร้จสูงสุดในปัจจุบัน



ในปี 2004/2005 ทีมม้าขาว เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ขอสกรีนตราสัญลักษณ์แชมป์ลงบนเสื้อแข่ง เดเอฟแอล มีมติอนุญาตให้ทีมในบุนเดสลีกาและลีกาสองติดตราสัญลักษณ์แชมป์แห่งความภาคภูมิใจบนเสื้อแข่งของตนได้ โดยได้ตกลงเป็นรูปดาวบนอกเสื้อ ซึ่งจำนวนดวงดาวบนอกเสื้อสะท้อนจำนวนครั้งของการคว้าแชมป์ที่นับตั้งแต่ก่อตั้งเวทีบุนเดสลีกาในฤดูกาล 1963/1964 เป็นตันมา โดยให้แปะดาวหนึ่งดวงได้เมื่อคว้าแชมป์ตั้งแต่ 3 สมัย ดาวสองดวงสำหรับการคว้าแชมป์ตั้งแต่ 5 สมัย ดาวสามดวงตั้งแต่10 สมัย สี่ดวงตั้งแต่ 20 สมัย ดังนั้นทุกวันนี้จึงปรากฏดาว

บนอกเสื้อของทีมต่างๆในบุนเดสลีกา ดังนี้คือ

บาเยิร์น มิวนิค (29 แชมป์บุนเดสลีกา) ดาว 4 ดวง

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (5) ดาว 2 ดวง
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (5) ดาว 2 ดวง

แวร์เดอร์ เบรเมน (4) ดาว 1 ดวง
ฮัมบูร์ก (3) ดาว 1 ดวง
เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท (3) ดาว 1 ดวง











ปล.ดาวจะเริ่มนับจำนวนแชมป์ตั้งแต่หลังก่อตั้งบุนเดสลีกาในฤดูกาล 1963/1964

Credit : โลกของ ก.ป้อหล่วน

https://www.facebook.com/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99-115768980143402/

เพจของคุณอานิกร กูรูบอลเยอรมันเบอร์ 1 ของไทย เพิ่งเปิดไม่นานไปติดตามกันได้ครับ

ติดตามอ่านในสตาร์ซ็อคเกอร์ตั้งแต่เด็กๆ

อันนี้ขอเพิ่มส่วนตัว



3 นักเตะที่คว้าแชมป์บุนเดสลีกามากที่สุดในประวัติศาสตร์



ริเบรี่ แอบแซวโดนทาบสถิติแล้ว

ดูท่าจะโดนแซงแน่ๆล่ะเฮีย

สลักชื่อบาร์เยิน มิวนิค ไว้ด้านนึงของถาด แล้วใส่แค่ปี ค.ศ. ที่ได้แชมป์ต่อท้ายดีมั๊ยครับ จะได้มีเหลือพื้นที่มากขึ้น

ไม่เคยเบื่อที่บาเยิร์นได้แชมป์ มุลดลอร์น่าจะได้ 10 นะปีหน้า แต่อลาบ้านี่ไม่แน่

ขนาดคว้าแชมป์ติดๆกันจนทำให้ลีกเซ็ง มุลเล่อร์ยังได้แค่ 9เอง ที่อังกฤษกิ๊กส์นี่ล่อไป 13 เพราะชายที่ชื่อว่าเฟอร์กี้แท้ๆเลย จากนี้ไปผีคงอีกนานกว่าจะได้แชมป์ ถึงได้ก็คงต้องแบ่งๆกับทีมอื่น

30สมัยแล้ว​ จะมีให้ติด5ดาวไหมหนอ