วันนี้จะมาขอแนะนำกับรีวิวเกม RPG ซีรี่ส์ย่อยของ Shin Megami Tensei กับภาคที่เพิ่งลงสตรีมไปสดๆร้อนๆเมื่อวานนี้อย่าง Persona 4 Golden ซึ่งเป็นภาคที่หลายๆท่านยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุดในซีรี่ส์ Persona ครับผม

https://store.steampowered.com/app/1113000/Persona_4_Golden/



สั้นๆแบบขี้เกียจอ่านเยอะ

ซีรี่ส์ Persona เป็น JRPG ที่ใช้ระบบเทิร์นเบส ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้วันเป็นตัวจำกัดเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆในเกมเป็นเวลาประมาณ 1 ปีในทุกๆภาค โดยมักใช้ยุคปัจจุบันเป็นเซ็ตติ้ง และมีตัวละครในโรงเรียนมัธยมปลายเป็นตัวดำเนินเรื่องครับ

ระบบที่แยกซีรี่ส์นี้ให้ขาดจาก JRPG เกมอื่นคือระบบโซเชียวลิ้ง หรือระบบความสัมพันธ์กับตัวละครในเกม เรียกง่ายๆคือระบบจีบสาว/หนุ่ม/ป้า/อาม่า/อากง และระบบเพอร์โซน่าหรือโปเกม่อนครับ

โซเชี่ยวลิ้งคือระบบผูกสัมพันธ์กับตัวละครหลัก/รองในเกม ผ่านเควสหรือการร้องขอต่างๆ ซึ่งมีสิทธิประโยชน์มอบให้กับผู้เล่นที่ไต่ระดับขึ้นไปได้ถึงขั้นที่กำหนด รวมไปถึงความสามารถในการผสมผสานเพอร์โซน่าขั้นสุดยอดของแต่ละโซเชี่ยวลิ้่งด้วย

แต่จุดเด่นที่สุดของระบบนี้คือเนื้อเรื่องย่อยๆที่เกิดขึ้นกับตัวเอกและตัวละครนั้นๆครับ ในแต่ละภาคจะมีตัวละครในระบบนี้อยู่ 12-15 คน แบ่งตามไพ่ทาโรต์ โดยจะมีตัวละครในปาร์ตี้หลักประมาณครึ่งหนึ่ง และตัวละครเสริมอีกครึ่ง ซึ่งให้ผลประโยชน์และมีเนื้อหาเควสที่ไม่ซ้ำกันเลย และในภาค 4 นี้เป็นภาคที่แฟนซีรี่ส์ส่วนใหญ่ยกให้เป็นภาคที่ตัวละครหลักรอง มีเสน่ห์หลากหลายที่สุดในซีรี่ส์ครับ

อีกระบบเด่นที่ดัดแปลงมาจากซีรี่ส์แม่อย่าง SMT หรือระบบเพอร์โซน่า ที่ถ้าพูดให้ง่ายๆคือโปเกม่อนในอีกมิติหนึ่งครับ

สกิลหรือสิ่งที่แบ่งตัวละครในปาร์ตี้ออกจากกันล้วนมาจาก "เพอร์โซน่า" ของแต่ละคน ที่เมื่อเลเวลอัพจะสามารถเรียนสกิลได้ไม่เหมือนกันครับ

แต่ไม่ใช่กับตัวเอกที่สามารถใช้เพอร์โซน่าได้มากกว่า 1 ตัว และเลือกสลับได้อย่างอิสระในการต่อสู้ ทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่าเพื่อนร่วมตี้ และเลือกกลบจุดอ่อนของปาร์ตี้ได้

และความสนุกที่สุดของเกมซีรี่ส์นี้คือการที่สามารถผสมเพอร์โซน่าของตัวเอกให้กลายเป็นตัวอื่นๆได้ ซึ่งมีความสามารถสูงขึ้น มีสกิลในขั้นที่ดีขึ้น มีจุดอ่อนน้อยลง ทั้งยังสามารถรับสกิลจากเพอร์โซน่าตัวเก่ามาใส่ตัวได้ ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างเพอร์โซน่าที่ไร้จุดอ่อนหรือเทพในทางใดทางหนึ่งได้ตามใจชอบครับ

พูดแต่ข้อดีไปแล้ว ลองมาฟังข้อเสียกันบ้าง

ข้อเสียแรกคือธีมของเรื่องและโทนของเกม

Shin Megami Tensei ที่เป็นซีรี่ส์แม่นั้น มีจุดขึ้นชื่ออยู่สองอย่าง อย่างแรกเลยคือความดาร์กระดับจิตตก ซึ่งมาจูนให้ซอฟลงในซีรี่ส์ Persona แต่เควสและสถานการณ์หลักของเกมก็ยังคงดาร์กกว่าซีรี่ส์ชื่อดังหลายๆเจ้าอยู่ดี

กระนั้นบทสนทนา อีเวนท์ และธีมของเกม รวมทั้งโซเชียวลิ้งหลายๆอย่างดันทำให้โทนของเกมดูสดใส แตกต่างออกมาจากเควสหลักพอที่จะสังเกตได้ ซึ่งความตลกย้อนแย้งสองแง่สองมุมที่เกมนำเสนอตรงนี้ อาจจะมีผลทำให้หลายๆคนรู้สึกขัดๆหรือเข้าไม่ถึงและไม่อินกับเกมได้ครับ

ข้อเสียที่สองคือความยากของเกม

จุดขึ้นชื่ออย่างที่สองของ Shin Megami Tensei คือเรื่องของความยากที่ยากจนเรือหาย แน่นอนว่าโดนปรับให้ซอฟลงตามเคย แต่เทียบกับ JRPG เกมอื่นๆ ซีรี่ส์ Persona ก็ยังเป็นซีรี่ส์เกมที่จะให้ความรู้สึกว่ายากกว่ามาตรฐานอยู่ดีครับ

ข้อเสียอย่างที่สามคือเวลา

ด้วยการใช้เวลาเป็นตัวดำเนินเกมอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น อาจทำให้หลายๆคนรู้สึกอึดอัดที่โดนจำกัดกิจกรรมที่ทำได้เอาไว้ จนถึงขั้นไม่ชอบ รวมทั้งบางคนที่ไม่สามารถเล่นเกมประเภทนี้ได้เลยครับ

ข้อเสียอย่างที่สี่คือความเก่า

ต้องเข้าใจว่า Persona 4 Golden ที่ลงในสตรีมเป็นเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์ของเกมเกือบ 10 ปีที่แล้วไม่ใช่รีเมค ดังนั้นตัวเกมจะให้ความรู้สึกเก่าและเก้กังบ้างในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะถ้าหากซื้อมาเล่นเพราะคาดหวังกับสไตล์และความไฮป์ของภาค 5 ก็เตรียมพบกับความผิดหวังในบางเรื่องได้เลยครับ

ในเรื่องของดันเจี้ยน ที่เป็นสเตจหลักของระบบคอมแบทของภาคนี้ สำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่จะไม่ส่งผลกระทบเท่าไหร่ แต่สำหรับผู้เล่นท่านที่ต้องการเก็บทุกอย่างให้ครบภายในการเล่นรอบเดียวและเล่นในระดับความยากที่สูงกว่าปกติ ข้อเสียหลายๆอย่างเบื้องต้นจะเข้ามาผสมกันและอาจจะทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่การฟาร์มวัตถุดิบในแต่ละดันเจี้ยนมีความอึดอัดที่สุดเกมหนึ่งครับ

พอลองมาชั่งดูจากข้อดีข้อเสียแล้วอาจจะดูเอียงไปในเรื่องแย่ๆมากกว่า แต่ข้อเสียเบื้องต้นจริงๆแล้วเป็นการยกเรื่องปลีกย่อยขึ้นมาพูดหรือบ่นเป็นส่วนใหญ่

เพราะในบรรดา JRPG ทั้งหลาย Persona 4 Golden เป็นเกมขึ้นหิ้งระดับตำนานอย่างแน่นอนไม่มีข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น ซึ่งถ้าสามารถมองข้ามความเก่าของเกมไป และไม่ได้ติดใจกับข้อเสียมากนัก รับประกันได้เลยว่ามีเกมที่ให้ประสบการณ์ระดับนี้ได้ไม่กี่หยิบมือครับ

อ้อ และพอคุณตัดสินใจที่จะเข้ามาสู่เกมในซีรี่ส์นี้ผ่านเกมนี้เป็นเกมแรก เหมือนกับที่ Burn My Dread และ Mass Destruction ในภาค 3 ได้ฝังไว้ในหัวสมองคนเล่น คุณก็จะถูก Reach Out To The Truth เบิร์นทิ้งไว้ในหัวเหมือนกันครับ



เพราะบอกทิ้งท้ายไว้ได้เลยว่าหนึ่งในอัฉริยะของวงการเพลงเกมในญี่ปุ่น คุณ Shoji Meguro ผู้รับผิดชอบการประพันธ์เพลงของ Persona คือหนึ่งในนั้นครับ

ปล. อันนี้คือโน๊ตที่ผมจดไว้สมัยเกือบ 10 ปีที่แล้วตอนที่พยายามทำ 100% รันในจบเดียว ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างอึดอัดพอสมควรสำหรับผมในสมัยนั้น และเป็นที่มาของสิ่งที่ผมเตือนไว้ในข้างต้นครับ

ข้อเสียสำคัญคือเรื่องเวลานี่ละ

ถ้าไม่มีเวลาว่างพอจะเล่นสองรอบอยากจบสมบูรณ์ยังไงก็ต้องลอกWalkthrough

สุดยอดเกมที่ไม่ทำให้ PS Vita กลายเป็นแค่ที่ทับกระดาษทั่วไป แต่ตอนนี้ใช่ล่ะ

สุดยอดเกม เล่นแล้วเหมือนย้อนวัยกลับไป ม. ปลายเลยจ้า

อิซานากิ !!!!

ไม่เคยเล่นภาคgolden
เกมนี้เป็นไม่กี่เกมที่ผมเล่นรอบสองจบได้ พอรอบสองพลังเราเต็มแล้ว ตารางมันจะผ่อนคลายขึ้นมาก

ปล.เพลงของภาคนี้ ส่วนใหญ่เนื้อเป็นภาษาอังกฤษ แต่ฝรั่งยังฟังไม่ออก สุดยอดแห่งengrish

ผมชอบภาคนี้เพราะความสัมพันธ์ตัวละคร มันทำให้เราผูกพันธ์กับตัวละครนั้นๆมากครับ
อีกอย่างที่ผมชอบมากๆเลยคือ เพลงภาคนี้เพราะทุกเพลง ยิ่งเพลงending creditเนี่ยโคตรเพราะเลย
จะเก็บ100%เกมนี้ ต้องเล่นเกือบ2รอบเลยครับ กินเวลาชีวิตมากๆ ผมแพลตเกมนี้สองรอบเลย

เคยเล่นจบไปแล้ว รอลดราคาค่อยซื้อมาเก็บแล้วกัน