พวกไม่ไหว้คนมีอายุกว่ามีอยู่สองแบบ แบบแรกคือเป็นคนไม่ค่อยมีมารยาทอยู่เป็นทุนเดิม เวลาอยู่ที่บ้านก็ไม่ไหว้พ่อแม่ตัวเอง ไม่ไหว้ใคร ที่บ้านก็ไม่ได้สอนด้วยว่าให้ไหว้คนอื่น ก็เลยไม่เห็นความจำเป็นต้องมาไหว้โดยเฉพาะใครก็ไม่รู้แค่เรียนมาก่อนปีสองปี

อีกแบบคือแค่ไม่ได้อยากไหว้เพราะไม่เห็นความจำเป็นอะไร ทำไมต้องไหว้ ไม่เห็นความสำคัญของมัน เอามือไปไหว้คนที่น่าเคารพ น่าบูชา เช่นครูที่สอนหนังสือดีๆ คนที่มีบุญคุณ คนที่น่าเลื่อมไสจะดีกว่าไหม ถ้าอยากให้ไหว้ ก็เหมือนกับที่น้องในรูปบอกว่าทำตัวให้ดีก่อนน่าชื่นชมก็จะไหว้เอง จะให้ไหว้คนส่งเดชมันใช่เรื่อง

ที่ผ่านมาเคยเจอคนที่ไหว้ผมเพราะเป็นรุ่นพี่ แต่เป็นคนไม่ดี จิตใจไม่ดี แต่แค่ไหว้เฉยๆเพราะเคารพนิดหน่อย

และเจอคนที่ไม่ไหว้ผม แต่เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคน ผมก็ได้รับอนิสงค์ให้มันช่วยอะไรอยู่บ่อยๆ

และอีกแบบ ก็เจอคนที่ไหว้ผม เพราะเป็นคนมีสัมมาคารวะ ที่บ้านสอนมาดี สอนให้นอบน้อมใหญ่ เป็นคนมีมารยาทดีมาก

และก็เจอที่ไม่ไหว้ เพราะครอบครัวที่บ้านไม่มีใครสอน พื้นฐานทางบ้านค่อนข้างกักขระ ไม่มีค่อยมีมารยาทตั้งแต่รุ่นพ่อแม่กันแล้ว

(จะสื่อว่าการไหว้มันแค่เศษเสี้ยวของสิ่งที่คนนั้นเป็น)

การไหว้เป็นการทักทายของสังคมไทย อีกครั้งเป็นการแสดงความเคารพอีกแบบนึง

ถ้าผมมีลูกสักวันนึง ก็คงสอนให้ไหว้คนอื่น เพื่อแสดงความเคารพ และเป็นการทักทายต่อคนที่อายุมากกว่าเรา

ที่จะสอนแบบนั้นไม่ใช่จะให้เลีย ประจบประแจง เดินตามคนรุ่นเก่า แต่มันคือการการกระทำที่อีกฝ่ายเห็นเค้าจะรู้สึกดีกับเรา เค้าจะเห็นว่าเราเป็นคนมีมารยาท พอรู้สึกดีๆต่อกันแต่แรกแล้ว มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของสัมพันธ์ที่ดี

สุดท้าย เด็กที่พิมพ์แบบนั้น พอโตขึ้นมาอยู่ในชีวิตทำงาน ก็จะเข้าใจได้เองว่าการไหว้มันสำคัญจริงๆ  

เคยแต่อยู่ปีหนึ่ง โดนปีหนึ่งด้วยกันไหว้