เดือนมิถุนายน ปี 1941 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ฉีกข้อตกลงกับโจเซฟ สตาลิน ก่อนจะเปิดฉากรุกรานสหภาพโซเวียตในยุทธการบาบารอสซ่า ในขณะที่ฝ่ายโซเวียตยังไม่ทันตั้งตัว สำหรับฮิตเลอร์แล้ว สหภาพโซเวียตเป็นเสมือนบ้านของแนวคิดคอมมิวนิสต์ที่นาซีเกลียดชัง ชัยชนะครั้งนี้จะเป็นการประกาศความเหนือกว่าของฟาสซิสต์ต่อคอมมิวนิสต์ และแสวงหาแผ่นดินใหม่ให้ชาวเยอรมันไปอยู่อาศัยแทนชาวสลาฟ

กองทัพเยอรมันและชาติอักษะอื่นๆ เช่น โรมาเนีย ฮังการี โครเอเชีย และบัลแกเรีย ต่างรุกไปตามเมืองต่างๆ ทหารเยอรมันสังหารทั้งชาวสลาฟและชาวยิวด้วยเหตุผลว่าพวกเขาด้อยกว่าชาวเยอรมันเชื้อสายอารยัน ในหลายพื้นที่พวกเขาทำลายแหล่งอาหารจนเกิดสภาวะอดอยาก รวมแล้วมีผู้คนเสียชีวิตจากน้ำมือนาซีระหว่างปฏิบัติการบาบารอสซ่าราว 3.3 ล้านคน

ต่อมา กองทัพเยอรมันพยายามเข้าตีกรุงมอสโก แต่กลับล้มเหลวเพราะกองทัพแดงเตรียมตั้งรับไว้อย่างดี ฮิตเลอร์จึงหมายเป้าไปยังนครสตาลินกราด (Stalingrad) หรือ ‘นครของสตาลิน’ แทน

เมืองสตาลินกราดคือแห่งอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์และอาวุธสำคัญของโซเวียตตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโวลกา ก่อนหน้านี้คือเมืองซาริตซิน (Tsaritsyn) เคยเป็นสมรภูมิสำคัญระหว่างสงครามกลางเมืองรัสเซีย ฝ่ายกองทัพแดงนำโดยโจเซฟ สตาลินเคยป้องกันเมืองนี้จากกองทัพขาวมาก่อน หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า ‘สตาลินกราด’ เพื่อเป็นเกียรติแก่สตาลิน

ฮิตเลอร์เล็งเห็นความสำคัญของสตาลินกราด ทั้งด้านยุทธศาสตร์และความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ จะเป็นอย่างไรเมื่อ ‘นครของสตาลิน’ ต้องตกอยู่ในมือของนาซี ฝ่ายกองทัพแดงรู้เยอรมันจะต้องโจมตีนครแห่งนี้ ทั้งพลเมืองและทหารต่างช่วยกันสร้างแนวป้องกันอย่างแข็งขันเพื่อต้านเท่าที่จะทำได้ สตาลินถึงกับประกาศคำสั่ง "ห้ามถอยแม้แต่ก้าวเดียว" และย้ำให้กองทัพแดงต้านการรุกรานสุดแรงกายแรงใจ

วันที่ 23 สิงหาคม ปี 1942 ฝ่ายเยอรมันเปิดฉากโจมตีเมืองด้วยฝูงบินลุฟวัฟฟ์ (Luftwaffe) แห่งกองทัพอากาศเยอรมันอันลือลั่น ประกอบด้วยเครื่องบิน 600 ลำทิ้งระเบิด มากถึง 1000 ตันเข้าใส่มหานครที่เคยรุ่งโรจน์ จนกลายเป็นซากปรักหักพังที่มีแต่ความตาย มีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 40,000 คน

จากนั้นกองพันรถถังแพนเซอร์และทหารราบเยอรมันจึงตามเข้าโจมตีเมืองภายใต้การนำจอมพลฟรีดิช เพาลุส (Friedrich Paulus) มักซิมิเลียน ฟอน ไวช์ (Maximilian von Weichs) และแฮร์มาน ฮอธ (Hermann Hoth) โดยมีฮิตเลอร์เป็นผู้สั่งการจากทางไกล ฝ่ายเยอรมันต่อสู้ยืดเยื้อกับทหารโซเวียตในระยะประชิดท่ามกลางซากปรักหักพัง ต่อสู้แบบทีละตึกที่ละบ้านอย่างดุเดือด ถือเป็นมหาสมรภูมิครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีผู้ร่วมรบทั้งหมดราว 2 ล้านชีวิต

กองทัพโซเวียตบัญชาการโดยนายพลมากประสบการณ์หลายคน ไม่ว่าจะเกออร์กี ซูคอฟ (Georgy Zhukov) วาซิลี ชุยคอฟ (Vasily Chuikov) นิโคไล วาตูติน (Nikolai Vatutin) และนิกิตา ครุสชอฟ (Nikita Khrushchev) โรงงานรถถังในเมืองยังคงผลิตรถถัง T-34 ออกมาเรื่อยจนกระทั่งฝ่ายเยอรมันบุกยึดโรงงานได้ รวมแล้วมีรถถังโซเวียต 894 คันเข้าร่วมสมรภูมิครั้งนี้

ครั้นพอถึงเดือนพฤศจิกายน หลังป้องกันอย่างสุดฤทธิ์มาสามเดือน กองทัพแดงจึงเริ่มปฏิบัติการยูเรนัสเพื่อโอบล้อมกองทัพเยอรมันที่ติดอยู่ในเมือง ฝ่ายเยอรมันใช้กองทหารชาติอักษะที่อ่อนแอกว่าคอยคุ้มกันแนวปีก ทหารโซเวียตใช้โอกาสนี้เข้าโจมตีกองทหารชาติอักษะเหล่านี้จนแตกพ่ายและปิดล้อมกองทัพเยอรมันไว้ได้ บัดนี้กองทัพเยอรมันที่พยายามล้อมเมืองกลับถูกปิดล้อมเสียเอง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ก็เกิดพลิกผันเมื่อฤดูหนาวมาถึง กองทัพเยอรมันที่ถูกตัดขาดต้องพบกับความอดอยากและความเหนื่อยล้า ทหารทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันทารุณที่มีอุณหภูมิติดลบ30 ถึงติดลบ 40 องศาเซลเซียส และเป็นเรื่องบังเอิญที่ฤดูหนาวของต้นยุค 1940 ในยุโรปเหนือเป็นช่วงเวลาที่อากาศหนาวและมีหิมะมากที่สุดในรอบศตวรรษ ทหารที่รอดจากการสู้รบจำนวนมากต่างหนาวตายเพราะไม่มีการเตรียมรับมือมาอย่างดี ทหารเยอรมันต้องเชือดม้าที่พวกเขานำมาด้วยเพื่อประทังชีวิต แต่ฮิตเลอร์ยังให้ตรึงแนวรบไว้จนตัวตาย แม้นายพลเพาลุสจะพยายามขออนุญาตยอมจำนนอยู่หลายครั้ง

กองทัพโซเวียตที่มีกำลังใจมากขึ้นได้โจมตีที่ตั้งของฝ่ายอักษะหนักขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1943 หลังการต่อสู้ดำเนินมานาน 5 เดือน นายพลเพาลุสพร้อมทหารเยอรมันราว 90,000 นายก็ยอมพ่ายแพ้ต่อกองทัพแดง นายพลเพาลุสเข้ามอบตัว และภายหลังกลายเป็นบุคลากรให้กองทัพโซเวียตและเยอรมนีตะวันออกในเวลาต่อมา

จุดเปลี่ยนนี้เองที่ทำให้กองทัพแดงเริ่มรุกโต้นาซีเยอรมนีคืน ก่อนที่อีก 2 ปีต่อมา กองทัพแดงก็บุกทะลวงเข้าใจกลางเยอรมนีที่กรุงเบอร์ลินได้ในปี 1945 สงครามในยุโรปจึงยุติลง

Credit https://www.blockdit.com/articles/5e4b5484a70219155eec0051

แนะนำสารคดี Netflix ครับ Greatest Events of WWII in Colour
อธิบายไว้ดีมาก ภาพก็ดีมาก
เมืองสตาลินการ์ดสำคัญยังไง ความคิดของนายพลนาซีเป็นยังไง ความดูแคลนของกองทัพนาซีต่อโซเวียต
กองกำลังพลซุ่มยิงหญิงแห่งสตาลินการ์ด หน้าหนาวที่หฤโหดแห่งรัสเซีย

ขนาดเรื่อง Midway ยังทำให้ดูสนุกกว่าในหนังโรงซะอีก เข้าใจง่ายไม่งงกลางทางด้วย

ถ้าเยอรมนีไม่บ้าไปบุกสหภาพโซเวียต อาจจะชนะสงครามไปแล้วก็ได้ และยุโรปก็คงไม่เหมือนทุกวันนี้

เคยดู Enemy a the gates เหมือนจะเกี่ยวกับเรื่องนี้สนุกดี

สงครามนี้ขนาดมันใหญ่มากๆ สงครามหนึ่งเลย

อันนี้จริง ผมคิดว่าถ้าฮิตเลแร์ไม่สั่งบุกโซเวียตก็ชนะไปแล้ว แต่จุดพลิกผันของประวัติศาสตร์จริงๆคือการที่ฮิตเลอร์ลงมาจัดการยุทธศาสตร์การทหารเองนี่แหละ ทั้งๆที่พี่แกถนัดเรื่องการเจรจาทางเศรษฐศาสตร์มากกว่า ต่อให้ไม่สั่วบุกโซเวียตแต่ถ้าแกจัดการทหารเองก็มีแนวโน้มชัดเจนอยู่นะว่าเริ่มสั่นคลอนแล้ว

โซเวียต รัสเซีย เป็นประเทศที่บุกยากมากๆ หรือไม่สามารถที่จะตีประเทศนี้ได้เลย สาเหตุคือ อากาศหนาวเนี่ยแหละ ตอนนโปเลียนจะไปยึดก็เจออากาศหนาวทำให้พ่ายแพ้ไป ต้องบอกว่าเป็นประเทศที่ไม่มีใครบุกมายึดได้เลย สุดจริง

น่าจะเพราะความมั่นใจว่ากำลังอีกฝั่ง(ฝั่งตะวันตก)จะดันป้อมอังกฤษแตกได้แหละครับ คือถ้าทำได้จริงๆก็จะช่วยตัดความสามารถในการยกพลของอเมริกาที่จะบุกมายุโรป+ได้ศักยภาพการทำงานของกองทัพเรือเยอรมัน(ทั้งเรือรบและดำน้ำ)เองด้วย ถึงตอนนั้นก็ปลอดภัยจากฝั่งตะวันตกได้เลย ก็ได้มามุ่งฝั่งโซเวียตได้เต็มที่

แต่ปรากฎว่า ทำบ่สำเร็จ แตกพ่ายกันไป ก็ดีแล้วแหละ คงไม่มีใครอยากให้ฝ่ายอักษะชนะสงครามอยู่แล้วหนิ

จริงๆเยอรมันสมัยนั้นมีขีดความสามารถทำได้ครับแต่ต้องเตรียมตัวไปดีๆ ชุดทหารอุปกรณ์กันหนาว ฯลฯ เยอรมันช่วง Barbarossa ตอนนั้นเยอรมันเปิดแนวรบทางฝั่งตะวันตกไว้แล้วทำให้ต้องเสียกำลังไว้คอยดูแล แล้วกองทัพอากาศที่เป็นหัวหอกในการรบของเยอรมันสมัยนั้นไม่ได้เข้มแข็งเหมือนช่วงต้นสงครามเพราะไปศูนย์เสียที่ Battle of Britain เยอะ พอมาเปิดแนวรบตะวันออกมันเลยติดขัดไปหมด แล้วเยอรมันช่วง Barbarossa ไปแพ้ภัยตัวเองซะเยอะด้วยอย่าง สงครามสายฟ้าแลบมันมีประสิทธิภาพยึดพื้นที่ตัดสินแพ้ชนะได้ไวจริงมันเลยทำให้กองทัพเยอรมันรุดหน้าเข้าไปในแนวรบรัสเซียได้เร็วแต่ในทางกลับกันสายส่งกำลังบำรุงก็ยาวออกไปเรื่อยๆในพื้นที่กันดารของรัสเซียมันก็มีปัญหาต่างๆตามมา ไหนจะเรื่องฮิตเลอร์ที่แกชอบมาแทรกแทรงการทำงานของกองทัพอยู่เรื่อยโดยอาศัยตำแหน่งผู้นำสูงสุด สุดท้ายเลยพากันแพ้เละ

แนะนำสารคดี Netflix ครับ Greatest Events of WWII in Colour
อธิบายไว้ดีมาก ภาพก็ดีมาก
เมืองสตาลินการ์ดสำคัญยังไง ความคิดของนายพลนาซีเป็นยังไง ความดูแคลนของกองทัพนาซีต่อโซเวียต
กองกำลังพลซุ่มยิงหญิงแห่งสตาลินการ์ด หน้าหนาวที่หฤโหดแห่งรัสเซีย

ขนาดเรื่อง Midway ยังทำให้ดูสนุกกว่าในหนังโรงซะอีก เข้าใจง่ายไม่งงกลางทางด้วย

มีอีกปัจจัยนึงคือด้านตะวันออก

ก่อนเริ่มสงครามโลก ญี่ปุ่นเคยรบกับโซเวียตที่ฝั่งแมนจูกัวแล้วแพ้ในปี 1939 จนเกิดสนธิสัญญาไม่รุกรานในปี 1941 ซึ่งช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นยึดถือสนธิสัญญานี้แล้วไม่บุกโซเวียตจากแมนจูกัวทั้งๆที่เป็นพันธมิตรกับนาซีเยอรมัน ทำให้โซเวียตไม่ต้องเปิดสมรภูมิรบสองทาง

ตอนนั้นถ้าญี่ปุ่นบุกโซเวียตด้วย โซเวียตอาจจะมีเขวๆ ต้องแบ่งกำลังไปเสริมฝั่งตะวันออก

พึ่งดู schindler's list จบมา โคตรจะอินเลย แล้วรู้สึกโชคดีที่กองทัพแดงบุกไปถึงเบอร์ลินได้

ไม่งั้นป่านนี้ไม่รู้ว่าโลกเราจะเป็นไงบ้าง แม่งโคตรโหดร้ายทารุณเลย นาซี

ตอนนั้นผมว่าปฏิบัติการสิงโตทะเลมันยากเย็นเกินไปไม่ทันใจ นาซีต้องการทรัพยากรเพิ่ม อย่างแหล่งอาหารในยูเครนกับแหล่งน้ำมันในอาเซอร์ไบจาน เป็นต้น

ลุงฮิตไม่น่าห้าวเป้งเลย

ถ้ามีโอกาส แนะนำดู downfall ต่อเลยครับ โดนกองทัพแดงเข้าล้อม จนเป็นจุดจบของฮิตเลอร์

ขอบคุณที่แนะนำครับ ชอบเหมือนกันนะเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวถ้าเอาฟีลลิ่งตอนดู schindler's list โคตรจะดำดิ่งสะเทือนใจมาก

แต่ downfall นี่ก็สนุกไปอีกแบบ พอมีหนังประเภทนี้แนะนำอีกมั้ยครับ กำลังอินเลยช่วงนี้

ผมสามารถหาอ่านตั้งแต่ต้นจนจบสงครามได้ที่ไหนบ้างครับ