เบื้องหลังฉากจบของ The Shawshank Redemption
“ผมหวังว่าจะข้ามชายแดนไปได้”
“ผมหวังว่าจะได้ไปพบเพื่อนของผมและจับมือกับเขา”
“ผมหวังว่ามหาสมุทรแปซิฟิกจะน้ำเงินครามดังเช่นในฝัน”
“...ผมหวัง...”
นี่คือถ้อยคำสี่วรรคสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่อง
The Shawshank Redemption (1994) ซึ่งเปล่งออกมาผ่านตัวละคร เร้ด ระหว่างที่เขามุ่งหน้าไปยังจุดนัดหมายแห่งปริศนาเพื่อทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งสอนให้เขาเชื่อในความหวัง
และเมื่อเร้ดไปถึง ภาพที่ปรากฎก็ไม่ผิดเพี้ยนไปจากจินตนาการของเขาแม้แต่น้อย หาดทรายอันงดงาม ตัดกับท้องฟ้าน้ำทะเลสีน้ำเงินอ่อนๆ สภาพแวดล้อมช่างเงียบสงบ และที่ตรงนั้น แอนดี้กำลังรอเขาอยู่ เป็นอันเติมเต็มให้ภาพฝันสมบูรณ์ลงตัว ระหว่างที่เพื่อนทั้งสองก้าวเข้าหากันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม กล้องก็ค่อยๆ เคลื่อนออก เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ กับชายสองคนที่เป็นอิสระ หนังจบบริบูรณ์ ความอิ่มเอมเข้าจับจองพื้นที่ในใจผู้ชม The Shawshank Redemption ก้าวสู่สถานะภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมระดับสากล
อย่างไรก็ตาม ตอนจบแบบนี้ไม่ได้ปรากฎอยู่ในสคริปต์ดั้งเดิมของ แฟรงค์ แดราบอนท์ ซึ่งชนะใจคนมากมายจนต่างฝ่ายต่างสนับสนุนผู้กำกับมือใหม่เช่นเขาอย่างแข็งขัน แดราบอนท์เคยเขียนให้จบแบบยังมีทิ้งปมปลายเปิดกว่านี้
“ตอนจบแบบเดิมที่ผมเขียนไว้คือให้เร้ดนั่งรถบัสออกไปสู่อนาคตที่ตั้งหวังทว่าไม่แน่นอน เป็นการจบตามฉบับนิยาย” ผู้กำกับอธิบาย “แต่คนที่ (สตูดิโอ) แคสเซิลร็อกมองว่า หลังจากให้ผู้ชมทนดูเรื่องหนักๆ อยู่ตั้งสองชั่วโมงแบบนี้ เราก็ติดหนี้พวกเขาด้วยฉากจบสวยๆ แบบให้เพื่อนสองคนกลับมาเจอกัน”
แน่นอนว่าแดราบอนท์คล้อยตาม เขาเขียนบทสรุปให้หนังยาวเพิ่มอีกไม่ถึงหนึ่งนาทีดี และผลลัพธ์ก็คือการสร้างอิทธิพลต่อคนดูอย่างมหาศาล แต่คำถามคือ เหตุใดตอนจบเช่นนี้ถึงสำคัญและสัมฤทธิ์ผลอย่างดี ครั้งหนึ่ง ทิม ร็อบบินส์ ผู้รับบท แอนดี้ ดูเฟรนส์ เคยอธิบายว่า นั่นเพราะคนมากมายเห็นชีวิตของแอนดี้แล้วหวนนึกถึงชีวิตของพวกเขาเอง
“คนส่วนใหญ่รู้สึกว่ากำลังถูกจองจำ” ร็อบบินส์บรรยาย “อาจเพราะด้วยงานห่วยๆ มีความสัมพันธ์แย่ๆ แต่ไม่ว่าคุกทางใจของแต่ละคนคืออะไร Shawshank ได้สื่อสารกับคนเหล่านั้นว่ายังคงมีสถานที่หนึ่ง เป็นภาพหาดทรายแบบนี้ที่เราปรารถนาจะไปให้ถึง และต้องมีชั่วขณะหนึ่งที่เราเชื่อว่ามันเป็นไปได้ แค่ต้องอดทนอีกสักนิด”
หลังจากที่ต้องเห็นแอนดี้ถูกปรักปรำ ถูกทารุณ ถูกเอาเปรียบ ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ แถมยังต้องคลานผ่านท่ออาจมยาวสุดลูกตาเพื่อออกไปสู่อิสรภาพ การให้คำมั่นกับผู้ชมว่าการยึดเหนี่ยวนั้นจะไม่มีทางสูญเปล่าจึงเป็นเรื่องที่ถูกที่ควร โดยเฉพาะเมื่อได้พร่ำบอกกับพวกเขาถึงความสำคัญของความหวังมาตลอดเรื่องแบบนี้
“ฉากจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งส่วนใหญ่ถูกใส่เข้าไปเพื่อให้มันจบดีแค่นั้น ทั้งที่มันต่อไม่ติดกับเนื้อเรื่อง” ร็อบบินส์กล่าว “แต่กับเรื่องนี้ มันคือฉากจบโดยชอบธรรมต่อเรื่องราวที่เล่ามาก่อนนั้น พาให้คิดในใจ ‘ใช่ นี่แหละ มีหวัง’ ”
เพราะฉะนั้น การอดทนยึดมั่นจึงคู่ควรได้รับรางวัลตอบแทน หนังเรื่องนี้ได้ยืนยันหนักแน่นถึงใจความหลักตั้งแต่ต้นจนจบ ฉากปิดท้ายจึงมีแต่ทรงพลัง เป็นการได้ย้ำเตือนอีกสักครั้ง ว่าความหวังคือสิ่งดี
**แหล่งที่มา
https://www.indiewire.com/.../shawshank-secrets-revealed.../
https://www.youtube.com/embed/KbU0WPt-nYk
fb Vintage Motion