[EP.01] แจ็ค กรีลิช จะ “เลือก” ทางไหน
“ผมไม่เคยเห็นทีมไหนพึ่งพานักฟุตบอลเพียงคนเดียว มากเท่าทีมนี้อีกแล้ว”
ประโยคนี้จากพอล เมอร์สัน หลังเกมที่วิลล่าเปิดบ้านเฉือนวัตฟอร์ด2-1 ซึ่งแจ๊ค กรีลิช เล่นได้อย่างโดดเด่น แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของตัวรุกชาวอังกฤษวัย24ปีในฤดูกาลนี้ได้เป็นอย่างดี เขายิงไป7ประตู แอสซิสต์อีก6ครั้งในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นคนอังกฤษ รวมทั้งบุคลิกที่มีความเท่ หน้าตาหล่อเหลา และการใส่ถุงเท้าสั้นอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขายิ่งเป็นที่จับตามองว่าเขาจะเลือกไปไหนต่อ หลังจากที่วิลล่ามีโอกาสตกชั้นเป็นอย่างสูง ตัวเขาเองนั้นได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากทั้งอดีตผู้เล่น รวมถึงแฟนบอล เจมี่ คาราเกอร์ ตำนานกองหลังลิเวอร์พูลได้กล่าวถึงตัวเขาไว้ว่า “ทางที่จะอธิบายเกี่ยวกับตัวเขาได้ดีที่สุด คือเวลาที่เขาได้บอล มันเหมือนทั้งสนามจะหยุดนิ่ง คล้ายกับว่าทุกคนรอดูว่าเขาจะทำอะไรต่อ”
เขามีทั้งบุคลิกที่โดดเด่น ความเป็นสตาร์ ความสามารถที่ครบเครื่อง ความเป็นผู้นำ ดูเผินๆแล้วเขามีทุกอย่างครบสำหรับการจะย้ายไปอยู่ทีมใหญ่ๆ รวมถึงการก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับสตาร์ของทีมชาติอังกฤษ ที่เคยมีเวน รูนี่ย์,สตีเว่น เจอร์ราด หรือแม้แต่พอล แกสคอย แต่ทำไมจนถึงตอนนี้ เขาถึงยังไม่เคยลงสนามให้กับชาติอังกฤษชุดใหญ่ แล้วทำไมเขาถึงแทบไม่มีข่าวจริงจังกับทีมใหญ่ๆในลีคเลย ทั้งๆที่เขาควรจะสามารถ“เลือก”เส้นทางของตัวเองได้ แต่ทำไมในตอนนี้ ถึงดูเหมือนกับว่า เขาต้องรอให้เส้นทาง“เลือก”เขากัน
แบดบอยกลับใจ หรือคนกู่ไม่กลับ
ในฤดูกาล2014/15 ทิม เชอร์วูด ซึ่งกำลังคุมแอสตัน วิลล่า ในขณะนั้น ได้ทำการดันตัวรุกดาวรุ่งวัยเพียง19ปีคนหนึ่งขึ้นมาเป็นตัวจริงในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง และได้ช่วยให้วิลล่ารอดตกชั้นได้ นับตั้งแต่วันนั้น ผู้คนก็เริ่มจดจำชื่อของเด็กคนนั้นได้ ในฐานะดาวรุ่งที่มีแววจะเป็นยอดนักฟุตบอลในอนาคต แต่อะไรๆมันก็ไม่ได้ง่าย เมื่อฤดูกาลถัดมา หลังจากทิม เชอร์วูดโดนปลดจากตำแหน่ง เขาก็ได้ลงน้อยลงๆ จนกระทั่งทีมตกชั้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีพรีเมียร์ลีค ในขณะที่ตัวเขานั้นมีข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะการเมาหัวราน้ำ และภาพลักษณ์แบดบอย ผู้คนแทบจะจำเขาในฐานะดาวรุ่งพุ่งแรงไม่ได้ หากแต่จดจำเขาในฐานะนักฟุตบอลความประพฤติแย่แทน หลังจากนั้นชื่อเขาก็เลือนหายไป พร้อมๆกับวิลล่าที่ตกชั้นไปยังเดอะ แชมป์เปี้ยนชิพ
วิลล่าใช้เวลา3ปีในการกลับขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีค แจ็ค กรีลิช ที่แทบจะถูกลืมเลือนได้กลับมามีสปอร์ตไลท์ส่องเข้าหาอีกครั้ง หลังจากสวมปลอกแขนกัปตันทีม พาวิลล่าชนะดาร์บี้ในรอบเพลย์ออฟ และกลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีคได้สำเร็จ หลายๆคนเห็นเขาที่นิ่งกว่าเดิม ดูมีความเป็นผู้นำ และดูมีวุฒิภาวะมากขึ้น ยิ่งพอเขาสามารถระเบิดฟอร์มแบกวิลล่าในพรีเมียร์ลีค รวมถึงพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศลีกคัพ ยิ่งทำให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนใหม่แล้ว แต่กลายเป็นอีกครั้งที่เขาก่อปัญหา และทำให้ภาพลักษณ์ตัวเองเสื่อมเสีย หลังจากเขาแหกกฏล็อคดาวน์ในช่วงที่ไวรัสcovid-19ระบาดในอังกฤษเพื่อไปปาร์ตี้ มิหนำซ้ำยังขับรถชนข้างทาง แน่นอนว่าการที่เขาเคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาแล้ว ยิ่งทำให้ทีมใหญ่ๆต้องคิดหนัก ว่าการเซ็นสัญญากับเขานั้นมันคุ้มที่จะเสี่ยงพอหรือไม่ จอห์นนี่ กิลล์ อดีตกองกลางปีศาจแดงได้ออกมาใส้สัมภาษณ์ว่า สโมสรควรคิดดีๆถ้าจะเซ็นสัญญาแจ็ค กรีลิช นอกจากนี้ สื่อต่างๆที่เคยประโคมข่าวเกี่ยวกับกรีลิชที่จะย้ายทีม กลับเงียบขึ้นมาทันที ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ความสนใจในกองกลางพรสวรรค์สูงรายนี้เริ่มน้อยลงเสียแล้ว
ตำแหน่งการเล่น
อีกหนึ่งอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคในการย้ายไปทีมใหญ่ๆ หรือการยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติ ก็คือตำแหน่งการเล่น ตำแหน่งถนัดของเขาคือมิดฟิลตัวรุก และตัวรุกทางกราบซ้าย ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สองตำแหน่งนี้มีทั้งบรูโน่ เฟอร์นานเดส และมาคัสแรชฟอร์ดอยู่แล้ว ทีมอื่นๆก็ไม่ได้ดูให้ความสนใจแจ็ค กรีลิช อย่างจริงจัง ส่วนในทีมชาติ จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยได้ลงสนามให้ทีมชาติอังกฤษเลยสักเกม และดูเหมือนเซ้าท์เกตมักจะใช้รอส บาคลี่ และเดเล่ อัลลี่ ในตำแหน่งกลางรุกมากกว่าอีกด้วย พอบวกกับเรื่องพฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของเขา ยิ่งทำให้โอกาสที่เขาจะเติบโตขึ้นเป็นสตาร์ของทีมชาติยิ่งน้อยลงทุกที
ทางที่ต้องเลือก
ในวัย24ปี แน่นอนว่ามันเป็นวัยที่พ้นคำว่าดาวรุ่งไปแล้ว และถ้าพูดตามตรง กรีลิชได้เล่นในพรีเมียร์ลีคน้อยมาก ถ้าเทียบกับตัวที่อายุเท่ากันอย่างอัลลี่ หรือคนที่เราจะเห็นผู้คนทำการเปรียบเทียบกับกรีลิชอยู่บ่อยๆก็คือเจมส์ แมดดิสัน สองคนนี้อายุใกล้ๆกัน และได้เล่นพรีเมียร์ลีคในจำนวนพอๆกัน แต่แมดดิสันมีสถิติที่ดีกว่ามาก ในขณะที่กรีลิช ถ้าไม่นับฤดูกาลนี้ เขาทำได้แค่1ประตู 1แอสซิสต์จาก33เกม ในยุคปัจจุบันที่ทีมชาติอังกฤษมีตัวเลือกมากมายในแนวรุก ทำให้กรีลิชต้องลำบากมากขึ้นในการแย่งตัวจริงในทีมชาติ ซึ่งเอาจริงๆการย้ายไปทีมที่ใหญ่กว่าวิลล่าจะทำให้เขาได้เฉิดฉายมากกว่านี้ แต่ก็อย่างที่เขียนไปข้างต้น ทีมไหนล่ะที่ต้องการใช้กรีลิช? เพราะเกือบทุกทีมมีแนวรุก/ปีกดีๆกันเกือบหมด แต่ถึงอย่างนั้น กรีลิชก็ยังคงนิ่ง เขานิ่งมาตลอดฤดูกาล ทั้งๆที่เขามีข่าวกับทีมโน้นทีมนั้นมาทั้งปี แต่เวลามีนักข่าวมาสัมภาษณ์ เขาจะพูดเสมอว่า การช่วยให้วิลล่ารอดตกชั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และที่สำคัญ การที่มีข่าวกับทีมใหญ่ๆตลอดทั้งปี ถ้าเป็นนักฟุตบอลคนอื่นคงต้องมีหลุดโฟกัส ฟอร์มตก ไม่มีสมาธิหรือมีข่าวงอแงออกมาแล้ว แต่เรื่องเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับกรีลิชเลย ถึงแม้เขาอาจจะยังมีพฤติกรรมแย่ๆนอกสนามออกมาบ้าง แต่ในสนามเขามีความเป็นผู้นำ,เป็นตัวความหวังของทีม และก้มหน้าก้มตาทำผลงานในสนามได้ดีเรื่อยมา เพราะฉะนั้น สิ่งหนึ่งที่บอกได้เกี่ยวกับเขา คือเขามีความเป็นมืออาชีพมาก และทุ่มเทเพื่อฟุตบอลเป็นที่สุด
ไม่มีใครรู้หรอกว่าต่อจากนี้ เส้นทางของเขาจะเป็นยังไง
เขาจะย้ายไปกวาดแชมป์กับทีมใหญ่ หรือจะเป็นตำนานที่วิลล่าปาร์ค
เขาจะเป็นตัวหลักให้ทีมชาติ หรือจะแทบไม่ติดเลย
เขาจะเก่งขึ้นเรื่อยๆหรือเป็นเหมือนพลุที่ขึ้นมา แล้วก็ดับไป
ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครเลือกเส้นทางให้เขาได้
มีแค่เขาเท่านั้นที่ต้องเลือกเอง
Source :