รอดูรถบัสน้ามูฮะ

7 3 0

ข่าวนี้จะรู้เลยว่าใครอ่านไม่อ่าน

คิดว่าการเปลี่ยนตัวเยอะขึ้นทำให้ทีมเปลี่ยน tactic จากรูปแบหนึ่งไปอีกรูปแบบหนึ่งได้เลยนะครับ เป็นการวิวัฒนาการเกมฟุตบอล

ถ้าจะไม่ให้ใช้การสลับคนเพื่อถ่วงเวลา อาจจะให้โควต้า เปลี่ยนได้ 5 คน ระหว่างพักครึ่งให้เปลี่ยนแค่ 2 คน ถ้าไม่ใช้โควต้าก็แล้วแต่ทีม ส่วนในเวลาปกติเปลี่ยนได้ 3 คนเท่าเดิม

เกมฟุตบอลน่าจะมีอะไรใหม่ๆบ้างนะครับ เผื่อจะสร้างสีสันได้มากขึ้น

เปลี่ยนได้ 5 คนแต่3 ครั้งเท่าเดิมนะครับ

ถ้าจะเปลี่ยนครบ5 คน

ต้องเปลี่ยน 2คน 2ครั้ง และ1คน 1ครั้ง (อันนี้ยกตัวอย่าง)

ตอนแรกผมอ่านมึนอยู่แป๊ปหนึ่ง เปลียนได้ 5 คน แต่ยังเปลียนได้ 3 ครั้ง

ตามที่ท่านว่าเลยครับ ต้องเปลียน 2 คน ในครั้งเดียว 2 ครั้ง และ เปลียน 1 คน 1 ครั้ง รวมเปลียน 3 ครั้งเท่าเดิม

เป็นวิธีที่ดีมาก ดีกว่ากฎเก่าซะอีก ทำให้โค้ชเปลียนเทคติคได้เยอะขึ้น รูปแบบการเล่นเปลียนไปจากเดิมแน่ๆ น่าติดตาม

กฎเดิมผมว่าไม่เวิคเท่าไร เปลียนตัวเจ็บซะมากกว่าเปลียนเทคติค กฎใหม่นี้เปลียนเทคติคแบบหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย

สำหรับทีมใหญ่ ที่มีตัวสำรองพลิกเกม ยกเว้น แมนยู อย่าเปลียนตัวสำรองเลย ยิ่งเอา 14 15 ลง ผมบอกเลย ปิดทีวี!!!

ดีละ ลดปัญหาเสี่ยงนักเตะเจ็บ อาจจะเห็นแทคติคแปลกๆจากโค้ชด้วย

ดีเลย

พวกทีมใหญ่ๆ อาจจะเคยชินกับการมีเกมยุโรปให้เล่นกลางสัปดาห์บ่อยๆ

แต่บรรดาทีมกลางๆตารางหรือโซนล่างๆ อาจจะดูหนักไป และน่าจะกรอบแน่ๆ

การเปลี่ยนตัวได้เพิ่มขึ้นช่วยเซฟนักเตะแน่ๆ

ปล. หงส์แดงน่าจะเป็นโอกาสอันดีในการหมุนเปลี่ยนนักเตะสำรองให้ลงรับใช้ทีม ถึงเกณท์ได้สิทธิ์รับเหรียญง่ายขึ้นไปอีก

เด็กๆได้ลงถึง 5 นัดกันหลายคนแน่เบย เหรียญเต็มคอไปหมด อิอิ

แบบนี้ทีมเล็กตาย ทีมใหญ่หวาน

เปลี่ยนได้ 5 คน 3 ครั้ง แนวคิดแจ่มม

ตามเม้นบนเลยครับ เปลี่ยนได้3ครั้ง5คน
เช่น 2คน, 1คน, 2คน ทำนองนี้

มองอย่างเป็นกลาง
ผมว่าดีเเล้ว