BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 1300
ที่อยู่: สีแดงเป็นสีที่โปรดปราน !!!!!
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 21:45
“ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้

“ฟุตบอลโลกครั้งไหนคือครั้งที่อื้อฉาวที่สุด?”



คำถามนี้สำหรับนักดูบอลรุ่นเก๋าอาจจะเป็นคำถามที่ตอบยากพอสมควร เพราะตลอด 21 ครั้งของมหกรรมลูกหนังระดับโลกนี้ คงมีเหตุการณ์อื้อฉาวที่อยู่ในความทรงจำไม่น้อย แต่สำหรับนักดูบอลยุคมิลเลนเนียมเป็นต้นมา เชื่อว่าทุกคนคงมีคำตอบเดียวในใจเหมือนกัน

“ฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น”

ทั้งที่ในครั้งนั้นควรจะเป็นฟุตบอลโลกที่น่าภาคภูมิใจ เนื่องจากเป็นฟุตบอลโลกครั้งที่ทีมจากทวีปเอเชียเราทำผลงานได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ (ทีมชาติเกาหลีใต้คว้าอันดับ 4 ของการแข่งขันมาครอง) แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันมีความไม่ชอบมาพากลมากมายเกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนั้น ซึ่งต่อมาได้บานปลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง (เช่นการที่นักเตะเกาหลีใต้ทั้งหมดที่ค้าแข้งอยู่ในลีกอิตาลีจำเป็นต้องย้ายออกจากประเทศ)

“ไบรอน โมเรโน” คือหนึ่งในบุคคลที่เป็นตัวแปรสำคัญของเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนหน้าฟุตบอลโลกครั้งนี้เกิดขึ้น แทบจะไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขา แต่เมื่อการแข่งขันจบลง ด้วยสิ่งที่เขากระทำ ทำให้แฟนบอลทั้งโลกจดจำเขาได้เป็นอย่างดีในทางลบ

โมเรโนโดนคนเกือบทั้งโลกเกลียดจากการกระทำของตัวเองในฟุตบอลโลก 2002 แต่หลังจากนั้นคงมีน้อยคนที่จะรู้ว่าเขาโดนผลการกระทำของตัวเองเล่นงานไปเรื่อย ๆ จนชีวิตดิ่งสู่จุดตกต่ำจนยากจะกู่กลับ


เหตุการณ์วันนั้นที่ แตจอน เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม
วันที่ 18 มิถุนายน ปี 2002 เวลา 20.30

นี่คือช่วงเวลาที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย ศึกฟุตบอลโลก 2002 รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดสำคัญกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า ณ สนาม แตจอน เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม เป็นการพบกันระหว่างทีมชาติอิตาลี หนึ่งในมหาอำนาจลูกหนังของโลกที่ขนเหล่านักเตะซูเปอร์สตาร์ลงสนามคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น จานลุยจี บุฟฟอน, เปาโล มัลดินี่, ฟรานเชสโก ตอตตี, อเลสซานโดร เดล ปีเอโร และอีกมากมาย กับทีมชาติเกาหลีใต้เจ้าภาพการแข่งขันครั้งนั้น ที่ถึงแม้ดีกรีนักเตะจะเป็นรองแบบเทียบไม่ติด แต่ในรอบแบ่งกลุ่มพวกเขาก็โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ ด้วยการเอาชนะชาติยักษ์ใหญ่อย่างโปรตุเกสมาได้

การแข่งขันนัดนี้นอกจากการได้เล่นในบ้านแล้ว ทีมชาติเกาหลีใต้เป็นรองทุกหน้าเสื่อ แต่อย่างไรก็ตามกลับมีคน ๆ หนึ่งไม่คิดเช่นนั้น และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน จิโอวานนี ตราปัตโตนี กุนซือทีมอัซซูรี่ในขณะนั้น

“ผมรู้ว่าเรื่องร้าย ๆ กำลังจะเกิดขึ้นกับเราแน่ เพราะทีมชาติญี่ปุ่นอีกหนึ่งเจ้าภาพเพิ่งตกรอบไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว”

“ผมบอกกับ ปีเอโตร เกดิน ผู้ช่วยของผมว่านี่คือสัญญาณร้าย คอยดูให้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ขรัวเฒ่าเปิดเผยความรู้สึกในตอนนั้นหลังจากผ่านมาหลายปี

และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ทีมชาติอิตาลีต้องเจอกับความยากลำบากเกินกว่าที่คาดคิด ไม่ใช่เพราะพวกเขาเล่นผิดฟอร์ม หรือทีมชาติเกาหลีใต้เล่นได้ดี แต่เป็นเพราะการตัดสินที่ค้านสายตาหลายครั้งในเกมนั้นจากผู้ตัดสิน

ไบรอน โมเรโน ไม่ใช่ผู้ตัดสินชื่อดัง อายุ 33 ปี (ในเวลานั้น) แต่ก็เป็นความภาคภูมิใจของชาวเอกวาดอร์ ที่มีผู้ตัดสินมาทำหน้าที่ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย

แต่เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น แฟนบอลทั่วโลกก็เริ่มสนใจชื่อผู้ตัดสินคนนี้ขึ้นมาทันที เมื่อทีมชาติเกาหลีใต้ได้ลูกจุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 4 จากการที่ โซล คี-เฮือน โดน คริสเตียน ปานุชชี เข้าปะทะ ถึงแม้หลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้บรรยาย หรือผู้เล่นทีมอิตาลีเองจะมองว่าไม่เป็นการฟาวล์ที่ชัดเจน จนเกินเป็นการประท้วงยกใหญ่ แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงคำตัดสิน อย่างไรก็ตาม เทพีแห่งโชคชะตายังเข้าข้างทีมชาติอิตาลี เมื่อลูกยิงของ อัน จ็อง-ฮวัน ไม่ผ่านมือของ จันลุยจี บุฟฟอน ทำให้สกอร์ยังเสมอกันที่ 0-0



หลังจากนั้นนักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ก็เล่นรุนแรงใส่นักเตะทีมชาติอิตาลีแทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดเตะใส่ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เหยียบหน้า เปาโล มัลดินี่ ศอกใส่หน้า อาเลสซานโดร เดล ปีเอโร และเข้าปะทะ ฟรานเชสโก โคโค่ จนถึงขั้นเลือดตกยางออก อย่างไรก็ตามแทบไม่มีเสียงนกหวีดเป่าหยุดเกมดังออกจากปากโมเรโน่เลย ตรงกันข้ามกับทีมชาติอิตาลี ที่เข้าปะทะผู้เล่นทีมชาติเกาหลีใต้นิดหน่อยเสียงนกหวีดจะดังทันที

แต่แล้วเสียงเชียร์ในสนาม แดจอน เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม ที่ดังสนั่นมาตั้งแต่เริ่มเกมก็เงียบลงทันตาในนาทีที่ 18 เมื่อ คริสเตียน วิเอรี่ ทำประตูให้พลพรรคอัซซูรี่ขึ้นนำชาติเจ้าภาพไปก่อน และจบครึ่งแรกไปด้วยการที่ทีมชาติอิตาลีออกนำทีมชาติเกาหลีใต้ 1 ประตูต่อ 0

เข้าสู่ครึ่งหลัง รูปเกมไม่แตกต่างจากครึ่งแรก ทั้งสองทีมผลัดกันมีโอกาสทำประตู แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คืออุณหภูมิความเดือดของเกม เพราะทีมชาติเกาหลีใต้ก็ยังคงเน้นการเข้าปะทะรุนแรงใส่คู่ต่อสู้ ในนาทีที่ 51 คิม แทยอง คว้าเสื้อของ อเลสซันโดร เดล ปีเอโร เข้าอย่างจัง จังหวะนี้ผู้เล่นอิตาลีเห็นว่า คิม แทยอง ควรจะได้ใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามไป แต่ผู้ตัดสินโมเรโนกลับเพียงตักเตือนเขาเท่านั้น และจากคำตัดสินที่ดูเอื้ออำนวยให้เจ้าภาพ ท้ายที่สุด ก็เป็นเกาหลีใต้ที่ได้ประตูตีเสมอจนได้จาก โซล คี-เฮือน นาทีที่ 88 ต้องตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ



ในยุคนั้นการต่อเวลา ยังใช้กฎโกลเดนโกล ใครยิงได้ชนะทันที และเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษได้ไม่นาน เกาหลีใต้ ก็ครองความได้เปรียบยิ่งขึ้น เมื่อไบรอน โมเรโน่ ตัดสินใจแจกใบแดงให้กับ ฟรานเชสโก ตอตตี ในข้อหาพุ่งล้มในเขตโทษ แต่เมื่อย้อนดูภาพช้าปรากฏว่าจังหวะนี้เขาโดนกระแทกจริง ๆ และรางวัลที่ควรได้รับคือจุดโทษมากกว่า การตัดสินของโมเรโน่ จังหวะนี้ ทำให้บรรยากาศในสนามยิ่งตึงเครียดขึ้นไปอีก...แต่นี่ยังไม่ใช่ที่สุด อีก 5 นาทีต่อมา ทีมชาติอิตาลีก็ได้เฮ เมื่อ ดามีอาโน ตอมมาซี ทำประตูได้สำเร็จ เขาหลุดเดียวจากลูกจ่ายของวิเอรี่ แต่ก่อนที่จะได้ลั่นไก ธงล้ำหน้าจากผู้ตัดสินข้างสนามก็ยกขึ้น ดับฝันทีมชาติอิตาลีลงทันที ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เมื่อย้อนดูภาพช้าชัด ๆ ลูกนี้ไม่ล้ำหน้าชัดเจน



การตัดสินของไบรอน โมเรโน่ สร้างความได้เปรียบแก่เจ้าภาพครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้รูปเกมบิดเบี้ยวไป ซ้ำร้ายสำหรับชาวอิตาลี เพราะก่อนหมดเวลา 120 นาที อัน จ็อง-ฮวัน​ ก็โหม่งประตูชัย​ให้ทัพโสมแดงได้สำเร็จ​ หยุดเส้นทาง “อัซซูรี” ไว้แค่รอบ​ 16​ ทีมสุดท้าย



การแข่งขันจบลง เกาหลีใต้เจ้าภาพได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ พวกเขาไม่ได้สนใจหรอกว่าผู้คนทั่วโลกจะมองว่าผู้ตัดสินในเกมนั้นเอื้อประโยชน์ให้พวกเขาหรือไม่ เพราะพวกเขาได้สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาแล้ว แต่ผู้แพ้และผู้คนทั่วโลกไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เขารู้สึกว่าอิตาลีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการตัดสินของผู้ตัดสินโมเรโน่ ตลอดทั้งเกม



“เหตุผลเดียวที่เขามาที่นี่คือการพาทีมชาติเกาหลีใต้เข้ารอบ โมเรโนเป็นคนไร้ความสามารถอย่างสิ้นเชิง” คริสเตียน ปานุชชีกล่าวด้วยความฉุนเฉียว

“ด้วยความสัตย์จริง นี่คือการปล้นชัยชนะโดยสมบูรณ์แบบ” บรูโน่ ปิซซัว นักข่าวชื่อดังชาวอิตาลีให้ความเห็น

“เขาคือผู้ตัดสินที่แย่ที่สุดตลอดกาล” อีกหนึ่งความเห็นจาก La Gazzetta dello Sport สื่อกีฬาชื่อดังจัดหนักใส่โมเรโน่ หลังอิตาลีต้องตกรอบด้วยน้ำมือของเจ้าภาพ

ขณะที่ไบรอน โมเรโน ไม่คิดเช่นนั้น เขามองว่าเขามีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในเกมนี้

“การให้ใบเหลือง หวัง ซุน-ฮง ในการทำฟาวล์ จันลูกา ซัมบรอตตา แทนที่จะเป็นใบแดง คือ ความผิดพลาดเดียวของผม”



สำหรับชาวอิตาเลียนคงยากที่จะให้อภัย ไบรอน โมเรโน แต่หากมองในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่บางครั้งคนเราก็ผิดพลาดได้ มันน่าเห็นใจที่เขาต้องโดนคำด่า สาปแช่ง การขู่ฆ่ามากมาย หรือแม้กระทั่งการนำชื่อไปตั้งเป็นชื่อห้องน้ำในประเทศอิตาลี

…หลังจบฟุตบอลโลก 2002 เขากลับไปที่เอกวาดอร์ ผู้คนที่บ้านเกิดต่างรู้สึกเห็นอกเห็นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับโมเรโน่ และมองว่า เขาถูกกระทำ และโจมตีเกินกว่าเหตุมากเกินไป...เขาไม่ใช่ผู้ร้าย มันเป็นแค่ความผิดพลาดของมนุษย์คนหนึ่ง ในเหตุการณ์หนึ่ง

แต่หลังจากนั้นไม่นานแฟนบอลเอกวาดอร์ ก็เริ่มโกรธเกลียดเขาเหมือนที่แฟนทั่วโลกเป็นบ้างแล้ว…



นี่มันผู้ตัดสินจอมฉาว!
โมเรโน่ คือ ผู้ร้ายสำหรับชาวโลก หลังฟุตบอลโลก 2002 แต่ไม่ใช่ที่บ้านเกิด​ เขาคือผู้ตัดสินชาวเอกวาดอร์คนที่​ 3 เท่านั้นที่ได้รับเกียรติให้ทำการตัดสินในศึกฟุตบอลโลก​ เขาคือเกียรติยศของประเทศชาติ ดังนั้นเกมแรกที่เขากลับมาตัดสินฟุตบอลภายในประเทศบ้านเกิด ผู้ชมในสนามต่างพร้อมใจกันยืนขึ้น เพื่อรักษาเกียรติ และให้กำลังใจผู้ตัดสินรายนี้อย่างสุดซึ้งกินใจ



ระหว่างนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี ยื่นคำร้องถึงสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ให้สืบสวนสอบสวนการทำหน้าที่ของไบรอน โมเรโน่ ว่ามีส่วนได้-เสียกับเกาหลีใต้เข้าภาพหรือไม่ แต่ยังไม่ทันจะรับเรื่อง เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่า ในยุคนั้นก็รีบออกมาปฏิเสธทันควัน

“สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมระหว่าอิตาลีกับเกาหลีใต้เกิดจากความผิดพลาดของไลน์แมนที่มีความบกพร่องในการให้ความช่วยเหลือผู้ตัดสินหลัก” ส่วนหนึ่งจากคำแถลงการของฟีฟ่าโดยแบลตเตอร์

ไม่มีหลักฐานใดชี้ชัดว่าไบรอน โมเรโน่ รับสินบน หรือมีส่วนได้-เสียกับเกาหลีใต้ อย่างที่สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี หรือคนทั่วโลกคิด และนายใหญ่ฟีฟ่าก็ยืนกรานในการอยู่เคียงข้างการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินชาวเอกวาดอร์รายนี้ มันเหมือนเป็นการยกภูเขาออกจากอก มันเท่ากับเขาบริสุทธิ์ และยังสามารถเดินอย่างสง่าผ่าเผย ทำอาชีพผู้ผดุงความยุติธรรมในสนามได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ทุกอย่างกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ ไบรอน โมเรโน่ ทำหน้าที่ผู้ตัดสินต่อไป แต่เหตุการณ์อื้อฉาวจากการตัดสินของเขาดังไปทั่วโลกอีกครั้ง เพียงแค่ 2 เดือนหลังจากศึกฟุตบอลโลก 2002

มันเป็นเกมระหว่าง ลิกา เด กิโต กับบาร์เซโลน่า 2 ทีมยักษ์ใหญ่ของเอกวาดอร์ ที่ สนามเอสตาดิโอ โรดริโก ปาซ เดลกาโด ท่ามกลางแฟนบอลกว่าสี่หมื่นชีวิต ที่เข้ามาเป็นสักขีพยาน ซึ่งขณะที่บาร์เซโลนา ทีมเยือนนำเจ้าบ้านอยู่ 3 - 2 ในช่วงท้าย นาทีที่ 99 ของเกมโมเรโน่ นกหวีดหวานเป่าจุดโทษให้กับลิกา เด กิโต จากจังหวะการปะทะชุลมุนกันในกรอบเขตโทษ และเพชฌฆาตของฝั่งเจ้าบ้านก็ไม่พลาด สังหารเข้าไป ตีเสมอเป็น 3-3

เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 101 ผู้เล่นของบาร์เซโลน่าก็ผลักผู้เล่นฝ่ายเจ้าบ้านล้มลงในกรอบเขตโทษ หลังจากนั้นเสียงนกหวีดก็ดังขึ้นทันที เป็นอีกครั้งที่เจ้าบ้านได้ลูกจุดโทษ และพวกเขาก็ไม่พลาด สังหารประตูเข้าไปสำเร็จ ทำให้ ลิกา เด กิโต พลิกกลับมานำเป็น 4 ประตูต่อ 3 ก่อนเกมจะจบลงด้วยสกอร์ดังกล่าวท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของแฟนบอลทีมเยือนที่รู้สึกเหมือนโดนปล้นชัยชนะ​​ แต่สุดท้ายตำรวจก็ควบคุมเหตุการณ์​ไว้ได้​ไม่ให้บานปลายไปสู่เหตุรุนแรง

“ไบรอน โมเรโนน่าจะขาดคุณสมบัติในการทำหน้าที่ตัดสินเกมนี้ เนื่องจากเขากำลังจะลงสมัครเลือกตั้งสภาเมืองกีโต้ ผมเชื่อว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน โมเรโนต้องการสร้างคะแนนนิยมให้กับตัวเองด้วยการบันดาลชัยชนะให้ Liga de Quito” ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า จวกยับ พร้อมกับชี้ช่องให้เห็นว่าบางทีมันมีผลประโยชน์อะไรบางอย่าง ที่โมเรโน่ ได้นอกเหนือจากเงินทองในการทำหน้าที่ตัดสินที่น่ากังขานี้



สหพันธ์ฟุตบอลเอกวาดอร์ไม่รอช้าที่จะนำข้อร้องเรียนเข้าตรวจสอบ และพวกเขาก็พบว่ามันไม่ใช่คำกล่าวอ้างเลื่อนลอย เรื่องนี้มีมูลความจริง เพราะไบรอน โมเรโน มีชื่อเป็นหนึ่งในผู้ลงสมัครสภาเมืองกีโต้ตามคำกล่าวอ้าง จึงทำให้เชื่อได้ว่าเขามีแรงจูงใจมากพอที่จะทุจริตผลการแข่งขันเพื่อสร้างคะแนนความนิยมกับชาวเมืองกิโต้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลักฐานชัดว่าโมเรโนบันทึกเวลาการยิงประตู 2 ประตูสุดท้ายของทีม ลิกา เด กิโต ว่าเกิดขึ้นในนาทีที่ 88 และ 90 ทั้งที่ความจริงมันเกิดขึ้นในนาทีที่ 99 และ 101 สหพันธ์ฟุตบอลเอกวาดอร์ให้ความเห็นว่าการกระทำเช่นนี้ส่อให้เห็นเจตนาทุจริตอย่างชัดเจน จึงตัดสินใจแบนโมเรโนจากการทำหน้าที่ทันที 20 นัด ปฏิเสธการอุทธรณ์ทุกกรณี และยังกล่าวว่าถ้าพบความผิดปกติเพิ่มเติมจะทำการถอดถอนโมเรโนออกจากอาชีพผู้ตัดสินทันที

“ผมทดเวลาบาดเจ็บเกินเพราะผู้เล่นของบาร์เซโลน่าหยุดเล่น”

“มันคือความผิดพลาดทั่วไปของมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้ โทษครั้งนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับผม ผมรู้จิตสำนึกของตัวเองดีว่ากำลังทำอะไรอยู่” โมเรโนแสดงความคิดเห็นถึงบทลงโทษที่ได้รับ

การแบนโมเรโน ยาวนานถึง 20 นัด ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกมากมาย ลุกลามไปถึงฟีฟ่าที่โดนกดดันให้มีการสอบสวนการทำหน้าที่ของโมเรโนในฟุตบอลโลก 2002 อีกครั้ง

“จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ฟีฟ่าจะทำการสืบสวนการทำหน้าที่ของไบรอน โมเรโนอีกครั้ง อย่างเป็นธรรมและโปร่งใสที่สุด”

สุดท้ายฟีฟ่าก็มีบทลงโทษเบื้องต้นแก่ ไบรอน โมเรโน จากการที่เขาตัดสินให้ลูกยิงของ ดามีอาโน ตอมมาซี ไม่ได้ประตู แต่ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่มีการทุจริตล็อกผลการแข่งขันในเกมดังกล่าวใดๆ ทั้งสิ้น

หลังจากพ้นโทษแบนอันยาวนานกว่า 8 เดือน โมเรโนก็กลับมาทำหน้าที่ตัดสินอีกครั้ง แต่เพียงนัดแรก ในเกมระหว่างเดปอร์ติโบ กิโต เจอกับเดปอร์ติโบ กูเอนกา เขาก็จัดการแจกใบแดงไล่ผู้เล่นฝั่งเจ้าบ้านออกไปอีก​ 3 คน แบบน่ากังขา การกระทำนี้ส่งผลให้เขาโดนตัดสินโทษแบนเพิ่มอีกหนึ่งนัดทันที ก่อนที่ในเดือนต่อมา สหพันธ์ฟุตบอลเอกวาดอร์จะตัดสินใจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ถอดถอนเขาออกจากการเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งท้ายที่สุดมันทำให้โมเรโนตัดสินใจรีไทร์จากอาชีพผู้ตัดสินทันที เพราะเขารู้สึกว่าตัวเอง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสหพันธ์ฟุตบอลเอกวาดอร์



“ผมควรจะได้รับการจดจำที่ดีกว่านี้ เพราะผมคิดว่าผมทำงานของตัวเองได้ดี แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคงเป็นเรื่องยากที่ผมจะได้รับการยอมรับจากฟีฟ่าอีกครั้ง ดังนั้นการตัดสินใจรีไทร์คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”

“ผมยอมเดินแอ่นอกด้วยเกียรติยศออกทางประตูหน้า ผมยอมตายที่จะรักษาเกียรติตัวเองดีกว่าต้องยอมคุกเข่า” โมเรโนกล่าวถึงการตัดสินใจของตัวเอง

ไบรอน โมเรโน ลาขาดจากชีวิตผู้ตัดสินฟุตบอล แต่สำหรับเขาไม่มีอะไรที่ถนัดไปกว่าการอยู่ในเส้นทางลูกหนัง เขาหันไปเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลในช่องโทรทัศน์เล็กๆ ช่องหนึ่งในบ้านเกิด มีงานในวงการบันเทิงเล็กๆ น้อยๆ และชื่อของเขาก็ห่างหายไปจากชาวโลก จนกระทั่ง 7 ปีต่อมา...


การปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
วันที่ 20 กันยายน ปี 2010
ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา




บรรยากาศทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ แต่ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คน เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำท่าอากาศยานสังเกตเห็นความผิดปกติของชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่เดินทางมาจากประเทศเอกวาดอร์ เขาดูวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นร่างกายของเขาในช่วงท้องยังพองโตออกมาจนดูพิรุธ ดังนั้นก่อนที่จะผ่านด่านคนเข้าเมืองไป ชายคนดังกล่าวจึงโดนสกัดเพื่อตรวจค้น

เมื่อตรวจค้นอย่างละเอียด พบว่าตามร่างกายของชายคนดังกล่าวมีเฮโรอีนน้ำหนักกว่า 6 กิโลกรัมพันอยู่รอบตัว ทั้งบริเวณร่างกายท่อนบนและช่วงขา จึงทำการจับกุม ก่อนจะนำตัวไปสอบสวน จนทราบชื่อ เขาคือ ไบรอน โมเรโน ชาวเอกวาดอร์ อายุ 40 ปี เป็นอดีตผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล

ข่าวนี้ควรจะเป็นข่าวเล็กๆ เป็นที่พูดถึงแค่ในนิวยอร์ก เพราะการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสหรัฐอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องแปลก มีให้เห็นได้แทบทุกวัน แต่เนื่องจากตัวการความผิดในครั้งนี้คือชายที่ชื่อ ไบรอน โมเรโน ข่าวนี้จึงดังไกลไปถึงประเทศอิตาลี

“เฮโรอีนหกกิโลกรัมเหรอ ผมไม่แปลกใจเลย ผมว่าโมเรโนมีสิ่งนี้ตั้งแต่ปี 2002 แล้วล่ะ เพียงแต่มันไม่ได้ซ่อนอยู่ในกางเกงใน แต่มันอยู่ในระบบความคิดของเขา”

“คนในวงการฟุตบอลที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมันคือความอัปยศที่ยากจะรับได้” จานลุยจี บุฟฟอน ให้ความเห็นอย่างดุเดือดเมื่อทราบข่าวดังกล่าว



ไม่ใช่แค่บุฟฟ่อน แต่สื่อทั่วโลกต่างก็ประโคมข่าวนี้กันอย่างสนุก เพราะต้องยอมรับว่าถึงแม้ฟุตบอลโลก 2002 จะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่โมเรโนก็ไม่สามารถลบภาพการเป็นผู้ร้ายในสนามในค่ำคืนที่แตจอน เวิลด์ คัพ สเตเดี้ยม ออกไปได้ บางสื่อถึงกับโจมตีว่า การที่โมเรโนกลายเป็นคนรับจ้างขนส่งยาเสพติด นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนขี้โกงโดยนิสัยอยู่แล้ว และมันก็คงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในฟุตบอลโลกด้วย จนไมเคิล แพดเดิ้น ทนายของโมเรโน ต้องออกมาปกป้องลูกความตัวเอง

“ผู้คนพยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้เข้ากับเหตุการณ์เมื่อฟุตบอลโลก 2002 ผมต้องบอกว่ามันไม่เกี่ยวข้อง และเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง” แพดเดิ้น แถลงการณ์แบบขึงขัง


เบื้องหลัง คือ อะไร?
จากผู้ตัดสินในศึกฟุตบอลโลก สู่นักขนยาเสพติดข้ามชาติ อะไรทำให้ชีวิตคน ๆ หนึ่งมีเส้นทางชีวิตตกต่ำแบบนี้ได้?



“โมเรโนบอกว่าตั้งแต่จบศึกฟุตบอลโลก 2002 สภาพจิตใจของเขาก็ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ ยิ่งมาถูกตัดสินให้เลิกอาชีพผู้ตัดสินฟุตบอลทำให้เขายิ่งรับมือกับมันได้ยาก ถึงเขาจะเริ่มมีเงินมีทองพอสมควรจากการบทบาทหน้าที่ในหน้าจอโทรทัศน์ก็ตาม แต่เงินที่ได้มาก็หมดไปจากการใช้เกินตัวเพื่อหาความสุขให้กับตัวเอง ทั้งการพนันและซื้อสิ่งของต่าง ๆ ทำให้สุดท้ายเขาเริ่มมีหนี้สินล้นพ้นตัว จนต้องตัดสินใจเลือกทางเดินโง่ ๆ แบบนี้” ไมเคิล แพดเดิ้น อธิบาย

โมเรโนมีสิทธิ์จำโทษสูงสุดถึง 10 ปี แต่โชคยังดีที่ศาลรัฐนิวยอร์กตัดสินลงโทษจำคุกเขาเพียง 2 ปีครึ่งเท่านั้นจากการสารภาพความจริงทุกอย่างแต่โดยดี รวมทั้งสภาพการต่าง ๆ บ่งชี้ว่าเขาโดนบีบบังคับจริงๆ จึงตัดสินใจเช่นนี้

“ผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ จากก้นบึ้งของหัวใจ” โมเรโนกล่าวต่อหน้าผู้พิพากษารัฐนิวยอร์ก

“แฟนสาวของเขาแท้งลูก นอกจากนั้นเขายังมีหนี้สินท่วมหัวจากการวางแผนชีวิตผิดพลาด ใช้เงินเกินตัว จนต้องตัดสินใจทำแบบนี้ เขาเพียงแค่หวังว่าเงินที่ได้จากการรับจ้างในครั้งนี้ จะช่วยให้เขาจัดการหนี้สินที่มีได้”
“เขาละอายต่อสิ่งที่กระทำเป็นอย่างมาก” แพดเดิ้นทนายแถลงต่อศาลรัฐนิวยอร์ก



ชีวิตหลังกรงขังของโมเรโน แสดงให้เห็นว่าคำขอโทษของเขาไม่ใช่คำพูดลอย ๆ เขาสำนึกผิดต่อสิ่งที่กระทำลงไปจริง ๆ เพราะระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ โมเรโนจัดเป็นนักโทษชั้นดี เขาร่วมกิจกรรมอาสารีดผ้าให้กับนักโทษคนอื่น ๆ นอกจากนั้นเขายังมีส่วนช่วยในการจัดการแข่งขันฟุตบอลให้เหล่าผู้ต้องขังได้มีกิจกรรมการออกกำลังกาย ส่งผลให้เขาได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนด สรุปแล้วโมเรโนใช้ชีวิตอยู่หลังกำแพงเรือนจำเพียง 26 เดือนเท่านั้น หลังจากพ้นโทษ โมเรโนตัดสินใจเดินทางกลับประเทศเอกวาดอร์ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่แบบเงียบๆ…

แต่ผู้คนทั่วโลกจดจำเขาในภาพความเป็นผู้ตัดสินจอมวายร้าย, ภาพของชายที่เบื้องหลังเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นรับผลประโยชน์ทับซ้อน หรือกระทั่งคนขายยาเสพติด ไปแล้วแบบไม่อาจลบทิ้งได้ และมันเป็นสิ่งที่ไบรอน โมเรโน่ ต้องทำใจ เพราะเขาย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นจากความบริสุทธิ์ใจ หรือไม่ก็ตาม

ยาวมากแต่อยากให้อ่านนะคนับ
ปล.1 อันนี้จอร์จสงสัยครับ ทำไม FIFA ถึงทำไรกับเคสนี้ไมไ่ด้เลย พยายามเปิดใจดูแล้วแต่เกมส์กับอิตาลีมันเกินไปจริง ๆ


เครดิต Mainstand
Spoil
https://www.mainstand.co.th/catalog/1-Feature/1200-%E2%80%9C%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%99+%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%88%E2%80%9D+%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81+2002+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89
แหล่งอ้างอิง

https://www.goal.com/en/news/from-bandit-referee-to-drug-smuggler-what-happened-to-byron/19k8pz1j2pamu1etxnvqxy8v6j
http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/2295377.stm
http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/2255952.stm
https://www.standard.co.uk/sport/referee-fights-20-match-ban-6350014.html
https://www.theguardian.com/football/2002/sep/11/newsstory.sport2
https://www.theglobeandmail.com/sports/soccer/world-cup/the-tragic-tale-of-byron-moreno-the-worst-referee-ever/article19110587/
https://www.theguardian.com/football/2002/sep/13/newsstory.sport3
https://www.thestar.com/sports/soccer/2010/09/23/fifa_no_intention_to_investigate_arrested_former_referee_byron_moreno.html
https://www.youtube.com/embed/b7LilaMvzBw
https://nypost.com/2011/09/23/ex-soccer-ref-sentenced-to-30-months-for-smuggling-heroin-through-jfk/
https://www.theglobeandmail.com/sports/soccer/world-cup/the-tragic-tale-of-byron-moreno-the-worst-referee-ever/article19110587/  

อันนี้คริปเกี่ยวข้อง


ไฮไลท์ เต็มของเกมส์นั้น



อย่างน้อยๆเกาหลีต้องมีสักแดงนึงอ่ะ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: 4 แชมป์ยังไงให้โลกจำ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 5328
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 21:55
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
เวลาที่คนเรา ชี้หน้าใครโกง ไม่โกง ผิด ไม่ผิด ถ้าตัดสินแบบความเป็นกลางมองออกไม่ยาก

เคจนี้ แฟนเกาหลีบอกไม่โกง ได้ผลประโยชน์ เพราะนี้ฝั่งตรู พวกตรู ชาติตรู ซึ่งช่วงนั้นเป็นเจ้าภาพ สนามตรูเว้ยยยยย พวกตรูใหญ่สุด เฮโล เฮโล

แฟนอิตาลี่ บอก เอ็งโกง โกงชัดๆ (เสียประโยชน์) แล้วมันโกงจริงๆนี้หว้า
แฟนทั่วโลก ที่มองเป็นกลาง โกงเว้ยย ใครมองก็รู้


ต่อให้แฟนอิตาลี่ ไปคุยกับ แฟนเกาหลีในเวลานี้ ผมก็เชื่อว่าแฟนเกาหลีก็จะบอกไม่โกงโว้ย ไม่ผิดโว้ยย ไหนหลักฐานว่าพวกตรูโกง ชะลาลาล่าล๊า

พูดถึงแค่ในเคจนี้จริงๆ ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง

ส่วนตัวผมเข้าใจความรู้สึกแฟนอิตาลี่เมื่อไม่นานมานี้เองครับ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 3851
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 21:55
“ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้
คนเกาหลีเขาดูภูมิใจกับเกมนั้นมากด้วยนะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
Status: 【=◈︿◈=】
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 19820
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:00
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
เป็น 1 ใน 2 เกมฟุตบอลที่ทุเรศที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมาแล้วครับ


อีกเกมคือไทยกับประเทศแถวๆนี้ เล่นถ้วยอะไรกันไม่รู้ แล้วแข่งกันยิงเข้าประตูตัวเองให้เนียนที่สุด

ติ่งโล้นครับผม คลั่งโล้นนะ
ออฟไลน์
JCM
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2019
ตอบ: 3290
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:02
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
เห้อ ถ้าเป็นผมดูทีมชาติไทยละชนะด้วยการตัดสินแบบนี้ผมก็ว่าโกงนะ โคตรโกงเลยด้วย ไม่มีทางภูมิใจอะพูดเลย

ทำลายวงการฟุตบอลจัดๆ และนี่เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
mrv
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 1889
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:05
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
FIFA ไม่ทำแน่นอนครับ เพราะอยู่ภายใต้แบรนด์ตัวเอง ถ้ายอมรับ จ่ายค่าเสียหายบานแน่นอน
ส่วนใหญ่พวกองค์กร หรือเอกชนใหญ่ๆก็ตาม มักจะเป็นแบบนี้แหละครับ หลายๆอย่างมันค้ำคอจนความถูกต้องหายไป
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6920
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:06
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
ความอับอายของชาวเอเชีย ภาพลักษณ์เสือแห่งเอเชียของเกาหลีใต้หมดสิ้นไม่เหลือชิ้นดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 2839
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:08
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
คนเราย่อมต้องรับผลของการกระทำ มารู้สึผิดตอนสุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
Nb5
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Dec 2006
ตอบ: 5456
ที่อยู่: In My Mind O_o'
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:12
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
เกาหลีใต้เจ้าประจำ
โอลิมปิคเกม เอเชี่ยนเกม ฟุตบอลโลก ชนะแบบเป็นขี้ปากชาวโลกกังขาบันลือโลก มีประจำที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 39821
ที่อยู่: Liverpool In Your Area!
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:18
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
วิเคราะห์แบบปราศจาคอคติคือนัดนั้นมันก็โคตรโกงจริงๆครับ ผตส.เป่านกหวีดแบบนั้น

มันคือปล้นชัยกันแบบหน้าด้านๆเลย ไม่รู้แฟนบอลเกาหลีดีใจกันไปได้ไง ทั้งเกมส์เล่นสกปรก

จังหวะเสียไม่ยอม แต่พอจังหวะคาบลูกคาบดอกบอกว่าพวกตรูต้องได้ฟาล์ว/จุดโทษ โมเรโน่แกทำให้เกมส์นั้นพีคสุด

ตรงที่เลือกที่รักมักที่ชังเป็น 100 จังหวะ ตัดสินใจในจังหวะเป่าหยุดเกมส์ ให้ฟาล์ว/ไม่ฟาล์วได้แบบว่าจังไรสัสมากๆนัดนึงในชีวิตดูบอลของผมเลย

เกิดมาไม่เคยดูบอลแมทช์ไหนที่ผตส.เป่าได้อุบาทว์ลูกตาขนาดนั้นมาก่อน ขนาดไม่ใช่แฟนบอลอัซซูรี่ ยังเดือดแทนเลย
แก้ไขล่าสุดโดย Archawin5 เมื่อ Thu May 07, 2020 22:21, ทั้งหมด 1 ครั้ง
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2010
ตอบ: 10583
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:20
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
เกาหลีภูมิใจกับความโกงของตัวเอง พอมาเจอฟอร์มจริงๆหลังจากนั้น รับไม่ได้ปาลูกอมใส่นักเตะกันใหญ่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชั่วคราว
Status: ʕ•ᴥ•ʔノLFC.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 52600
ที่อยู่: ปีหน้าเรามาแน่ !!!!!!!!!!!! เข้าร่วม: 14 Feb 1993
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:23
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
เกาหลี เจอ อิตาลี > สเปน > เยอรมัน

หลังจากนั้น 3 ทีมนี้เป็นแชมป์โลก เรียงกันมาเลย


5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status: เพราะเจ็บปวด...จึงทำให้รู้ว่าเรายังมีชีวิตอยู่
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Mar 2020
ตอบ: 955
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:26
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
มันน่าภูมิใจตรงไหนเนี่ย ถ้าเป็นประเทศไทยผมคนนึงอ่ะที่โคตรอายอ่ะ แล้วก็ไม่กล้ามีหน้าไปคุยกับใครหรอกว่าได้ที่ 4 บอลโลก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Apr 2010
ตอบ: 604
ที่อยู่: ในใจเธอยังไงละจ๊ะ
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:49
[RE]“ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้
แล้ว ณ ตอนนี้อิตาลียังเคืองเกาหลีอยู่บ้างมั้ยครับ มีนักเตะเกาหลีเตะอยู่อิตาลีบ้างมั้ยครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 May 2009
ตอบ: 27834
ที่อยู่: 3rd of round table
โพสเมื่อ: Thu May 07, 2020 22:59
ถูกแบนแล้ว
[RE: “ไบรอน โมเรโน่” ผู้ตัดสินที่ถูกโลกตราหน้าว่าขี้โกงในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้]
★จอห์นミเล่นหนอน★ พิมพ์ว่า:
เกาหลี เจอ อิตาลี > สเปน > เยอรมัน

หลังจากนั้น 3 ทีมนี้เป็นแชมป์โลก เรียงกันมาเลย


 

จากนั้นไปเจอตุรกี
ว่าที่แชมป์ 2022
แก้ไขล่าสุดโดย Sir_Gawain เมื่อ Thu May 07, 2020 23:14, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel