เกรินก่อนนะครับว่าผมทำจัดฟ้องในบ.ไฟแนนขนาดเล็ก

กรณีแม้ไม่ผิดส.เช่าซื้อ คือค้างเงินค่างวดแต่ไม่เกิน 3 งวด บ.ไม่สามารถบอกเลิกส.ได้
ตามพรประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา
เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา

ทีนี้ต่อให้คืนรถก่อนครบสามงวด บ.ไฟแนนก็จะให้เซ็นต์ผู้เช่าซื้อ
เป็นฝ่ายบอกเลิกส. และยินยอมชำระค่าขาดตามส.เช่าซื้อ

แล้วบ.ก็จะนำรถไปขายฟ้องค่าขาดต่อในกรณีที่ขาดทุน

วิเคราะห์ฎีกา5239/2561
โดยเฉพาะท่อนที่บอกว่า แต่การที่จำเลยที่ 1 มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและไม่ปรากฏว่าขณะที่สัญญาเลิกกันจำเลยที่ 1 มีหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาจากจำเลยที่ 1 ได้[/[color=orange]color]
คำว่า ไม่ปรากฏว่าขณะที่สัญญาเลิกกันจำเลยที่ 1 มีหนี้ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด
แสดงว่าทนายนำสืบไม่ได้ว่าโจทก์คือบ. มีค่าขาดราคาเท่าจากการขาดทุนขายรถ
ซึ่งตามปกติยังไงบ.ก็ให้ข้อมูลตัวเลขขาดทุนกับศาลได้ชัดเจน กรณีฎีกานี้จึงเป็นที่สงสัยเรื่องการนำสืบ
อนึ่งผมหาฎีกานี้ในเว็บ http://deka.supremecourt.or.th/ ไม่ได้นะครับ จึงไม่สามารถอ่านชั้นต้นกับอุทธรณ์

ปกติที่จัดฟ้องไปถ้าเรียกมูลหนี้ส่วนที่ขาดตามสัญญาเช่าซื้อ ก็ได้น้อยบ้าง มากบ้าง แต่ถ้าชั้นต้นยก
บ.ไฟแนนซ์ก็อุทธรณ์หมดนะครับ แค่ศาลตัดสินให้น้อยยังอุทธรณ์เลย

ปล.ทุกวันนี้ผมยังจัดฟ้องเรียกมูลหนี้ส่วนที่ขาดตามสัญญาอยู่เลยครับ(ร่วมทั่งกรณีผ/ชคืนรถเองด้วย)ศาลก็ไม่ยกนะครับ  

 

จากประโยคนี้นะครับ

ทีนี้ต่อให้คืนรถก่อนครบสามงวด บ.ไฟแนนก็จะให้เซ็นต์ผู้เช่าซื้อ
เป็นฝ่ายบอกเลิกส. และยินยอมชำระค่าขาดตามส.เช่าซื้อ

ถ้าผู้เช่าไม่เซ็นแล้วยอมให้ฟ้องคิดว่าจะเป็นไปตามคำพิพากษาที่ผมยกมาไหมครับ

เพราะเหมือนมันจบตั้งแต่เซ็นแล้ว ผู้เช่ายินยอมที่จะจ่ายเองมากกว่า  

อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ เพราะจัดฟ้องในกรณีขาดใบส่งมอบรถคืนน้อยมาก ส่วนใหญ่ก็จะเซ็นต์กันหมด
ถ้าเป็นกรณีนี้บ.ก็จะให้นำสืบสภาพรถยนต์ตอนส่งมอบคืนครับ ว่าจะใช้ได้ปกติดี เรียบร้อยหรือเปล่า
ศาลก็จะให้น้อยมากๆถ้าสภาพรถในรูปที่ใช้นำสืบมันยังโอเค แต่ก็ยังให้นะครับ ถ้าบ.เห็นว่าให้น้อยมาก
บ.ก็จะอุทธรณ์ครับ

ฎ.ที่ให้มาไม่ผิดครับ แต่ผมไม่แนะนำให้บอกว่าคืนรถแล้วไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม(จะมีแค่กรณีขายรถแล้วได้กำไรอะครับที่ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเพิ่ม)
เพราะว่าลูกค้าจะต้องจ่ายเพิ่มแน่ๆ บ.จะไม่ยอมขาดทุนแม้แต่บาทเดียว ค่านำหมาย ค่าจ้างทนาย เป็นเงินทั้งนั้นครับ  

ขอสอถามในนี้เลยละกัน ถ้ายากได้รถมือสองที่เจ้าของผ่อนไม่ไหวเราต้องติดต่อเเละทำยังไงครับ

ส่วนตัวทำงานราชการไม่เจอผลกระทบอะไร เเต่เงินเดือนน้อย ไม่อยากได้มือ 1 เพราะดาวน์เเละผ่อนเเพงน่ะครับ  

อ่านแล้วพอเข้าใจ แต่ทำไมรู้สึกมันขัดกับสิ่งที่เคยอ่านในพันทิพย์ว่า ผ่อนต่อไม่ไหวแล้วจะคืนรถ คิดว่าจบแต่สุดท้ายไม่จบหว่า แบบพอไฟแนนซ์ยึดรถเสร็จเอาไปขายทอดตลาด ได้เท่าไหร่ก็มาหักกับมูลค่าหนี้ที่เหลือ ซึ่งจะเป็นยอดที่คนซื้อต้องจ่าย

ปล.แต่จำรายละเอียดในกระทู้นั้นไม่ได้ แต่คุ้นมากว่ามีหลายกรณีที่เป็นแบบนั้น