แหล่งข่าวเผยว่า Samsung เตรียมจะเปลี่ยนจากการเช่าคลาวด์ของ AWS (Amazon Web Services) มาเปิดให้บริการด้วยตัวเองแทนเพื่อลดต้นทุนการให้บริการ

ปัจจุบัน คลาวด์ของ Samsung นั้นราวๆ 60% ใช้บริการของ Amazon Web Services ขณะที่อีก 40% ที่เหลือเป็นของผู้ให้บริการรายอื่นๆ ปนๆ กันไป ซึ่งมีหน้าที่ให้บริการกับธุรกิจมือถือ และ Internet of Things เป็นหลัก

เบื้องต้น Samsung จะทำการทดสอบย้าย Cloud ไปอยู่ในดาต้าเซนเตอร์ของตัวเองก่อน เพื่อดูว่าจำเป็นต้องพึ่งพิงการให้บริการจาก AWS มากแค่ไหน และต้องมีความพร้อมมากแค่ไหนถึงจะสามารถย้ายออกได้โดยสมบูรณ์

SamMobile รายงานว่า Samsung จ่ายค่าบริการให้กับ AWS ราวๆ ปีละ $483 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยิ่งผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ตัวเลขนี้ก็พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้การตั้งคลาวด์เป็นของตัวเองจะช่วยควบคุมตัวเลขค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือความปลอดภัย การที่ Samsung จะตั้งคลาวด์ใช้งานเองจะทำให้มั่นใจได้ว่าระบบจะมีความปลอดภัย แพทช์และช่องโหว่ต่างๆ จะถูกตรวจสอบและแก้ไขโดยที่แฮคเกอร์ หรือผู้ประสงค์ร้ายไม่รู้ว่าช่องโหว่อยู่ตรงไหน และทำงานอย่างไร

ณ ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดนักว่า Samsung จะให้ทีมไหนเข้ามาดูแลการตั้งธุรกิจคลาวด์ เพื่อให้บริการภายใน คาดว่าอาจจะเป็น Joyent ผู้พัฒนาคลาวด์ที่ Samsung ซื้อมาตั้งแต่ปี 2016 เพื่อทดแทน AWS นั่นเอง

https://www.whatphone.net/news/samsung-cloud-services-initiative/

ตอนนี้อาจจะเรียกได้ว่า AWS is the “Internet” เลยก็ได้
น่ากลัวจริง ๆ การผูกขาดเนี่ย

จริงๆควรคิดได้ตั้งนานแล้ว ระดับซัมซุง ถ้ามีเป็นของตัวเองอะไรๆก็จะดีขึ้นในอนาคต

มีศักยภาพอยู่แล้วนี่นะ