[b][ ย้อนเวลาหามาเล่า Ep.113 “ฉลามกินคนแห่งรัฐนิวเจอร์ซีย์” ]
.
.
.
เชื่อว่าทุกคนคงเคยผ่านตาหนังแนว "ฉลามโหด" มากันบ้างโดยเฉพาะหนังเรื่อง Jaws ภาคแรกที่สร้างโดยพ่อมดแห่งโลกมายาอย่างสตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ในเรืองจะเล่าถึงเจ้าฉลามคลั่งที่ย้อมทะเลเป็นสีเลือดด้วยการไล่ฆ่าคน จนไม่มีมนุษย์คนใดกล้าที่จะลงน้ำอีกเลย

ซึ่งหลังจากนั้นก็มีหนังแนวฉลามสุดโหดออกมามากมายจนเกลื่อนท้องตลาด แต่กระนั้นท่านเชื่อไหมครับว่าไอเจ้าเรื่องฉลามสุดโหดไล่ฆ่าคนนี่ไม่ได้มีแค่ในหนังนะครับ เพราะในชีวิตจริงมันก็เคยเกิดเรื่องสุดสยองนี้มาแล้ว กับเหตุการณ์ Jersey Shore shark attacks of 1916’ หรือแปลเป็นไทยคือ ฉลามกินคนแห่งรัฐนิวเจอร์ซีย์ ส่วนเรื่องจะเป็นเช่นไรนั้น ตามอ่านกันได้เลยครับ
.
.
เรื่องราวสุดโหดนี้เริ่มต้นข้นในวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 1916 มันเป็นวันแรกที่เจ้าฉลามคลั่งทำการออกไล่ล่า โดยเหยื่อรายแรกของมันนั้นคือ ชาร์ล เอปติง แวนเซนต์ นักท่องเที่ยววัย 23 ปีจากเมืองฟิลาเดลเฟีย ณ เวลานั้นชาร์ลกำลังว่ายน้ำอย่างเพลิดเพลิน แต่อยู่ดีๆ เขาก็ได้ยินเสียงพี่ชายของเขาตะโกนเสียงดังออกมา ราวกับพยายามเรียกอะไรสักอย่าง ในใจของชาร์ลตอนนั้นคิดว่าพี่เขาคงเรียกหมา แต่... มันไม่ใช่ พี่ของเขาพยายามที่จะส่งเสียงเตือนถึงอันตรายที่กำลังคลืบคลานมาที่ตัวน้องชาวเขาต่างหาก

กร๊วบบบบ.... เจ้าฉลามพุ่งเข้าจู่โจมชาร์ลแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ในขณะที่เขากำลังว่ายน้ำอย่างเมามันส์

ฟันของมันงับเข้าไปที่ขาของชาร์ล ความแข็งแรงของฟันและขากรรไกรของเจ้าเพชรฆาตแห่งท้องทะเลนั้นแสนจะทรงอานุภาพ มันบดขยี้ขาของชาร์ลได้ราวกับเคี้ยวกระดูกอ่อน จนในที่สุดขาของชาร์ลก็ขาดออก ผู้คนที่พบเห็นเหตุการณ์ ต่างพยายามเข้าไปช่วยเหลือเพื่อยื้อชีวิตเด็กหนุ่มคนนี้ให้ได้ พวกเขาพาตัวชาร์ลไปที่โต๊ะของโรงแรมเพื่อรอที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล โต๊ะตัวนั้นถูกย้อมเป็นสีแดงฉานด้วยเลือดของชาร์ล
.
.
ความช่วยเหลือต่างๆพยายามเร่งรีบมาหาที่เจ้าหนุ่มน้อย
แต่กระนั้นมันก็ดูจะสายไปเสียแล้วชาร์ลส์มิอาจทนพิษบาดแผลไหว และเสียชีวิตในวลาต่อมาที่โรงพยาบาล

เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องสะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก ณ เวลานั้น มันหายไปนับจากการโจมตีหนุ่มฟิลลี่ราว 5 วัน และในที่สุดในวันที่ 6 กรกฎาคม ปีเดียวกันนั้นเองเจ้าอสูรแห่งท้องทะเลก็ปรากฎกายขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรืออย่างใด เหยื่อของมันคราวนี้ก็ชื่อ "ชาร์ล" เช่นกัน เพียงแต่เป็น
ชาร์ล บรูเดอร์ นักท่องเที่ยววัย 27 ปีจากสวิสเซอร์แลนด์

มันเริ่มต้นขึ้นในขณะที่เขากำลังว่ายน้ำออกไปจากฝั่งราว 120 เมตร เหมือนเดจาวูเจ้าฉลามโหดพุ่งเข้าโจมตีใส่คนชื่อชาร์ลอีกครั้ง พร้อมกับฝังเขี้ยวอันเเหลมคมไปที่ขา และ บริเวณพุง เลือดของชาร์ลแผ่พุ่งลงน้ำทะเลราวกับน้ำแตงโมที่ถูกคั้นสดๆ พร้อมด้วยเสียงกรีดร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวด

ผู้ที่เห็นเหตุการณ์พยายามส่งสัญญาณไปที่ไลฟ์การ์ดว่ามีคนถูกฉลามโจมตี โดยไลฟ์การ์ดในวันนั้นพยายามสุดชีวิตที่จะช่วยชีวิตชายผู้โชคร้ายคนดังกล่าวให้ได้ แต่มันก็สายไปอีกแล้ว เพราะคราวนี้ชาร์ล บรูเดอร์นั้นเสียชีวิตเพราะเสียเลือดมากตังแต่ก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นฝั่งเสียแล้ว

จากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญนี้ทางโรงแรม และ แขกที่เข้าพักพยายามจะหาวิธีที่จะบอกไปยังผู้เป็นมารดาของชาร์ล บรูเดอร์ถึงความโชคร้ายที่ลูกเธอได้รับ พร้อมกันนั้นยังช่วยกันเรี่ยไรเงินเพื่อช่วยเหลือทางครอบครัวของชาร์ลอีกด้วย
.
.
ณ เวลานี้ในทะเลของนิวเจอร์ซี่ได้มีคนที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับเจ้าฉลามคลั่งไปแล้วสองศพ แต่กระนั้นมันก็ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ เพราะในวันที่ 12 กรกฎาคม หรือ 6 วันนับตั้งแต่เหตุการณ์ที่สองนั้น ก็มีผู้เคราะห์ร้ายต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอีกครั้ง เพียงแต่โดนทีเดียวถึง 2 ราย

โดยเหยื่อรายที่สามและสี่นั้นคือเด็กชายวัย 11 ปี นามว่า
เลสเตอร์ สติลเวลล์ และ สแตนลีย์ ฟิชเชอร์
นักธุรกิจหนุ่มวัย 24 ปี โดยเรื่องมันเริ่มต้นในตอนที่กัปตันเรืออย่างโทมัส ค็อธเทล สังเกตุเห็นฉลามมาวนเวียนอยู่ในลำห้วย ณ เวลาประมาณ 2 โมง เขาพยายามประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ที่ชายฝั่งถึงเรื่องฉลาม แต่กลับไม่มีผู้ใดตอบกลับมา ซ้ำยังเมินเฉยต่อสิ่งที่เขากังวล จนในที่สุดกลุ่มของเลสเตอร์ก็มาถึงที่ทะเล พวกเจ้าหนูทั้งหลายก็เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานแถวๆห้วยโดยหารู้ไม่ว่าความตายกำลังจะมาเยือน
.
.
มีเด็กคนนึงพาหมาของเขาลงมาเล่นน้ำด้วย จากนั้นไม่นานเจ้าเด็กคนดังกล่าวเริ่มสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างกำลังคลืบคลานเข้ามา เขาพยายามเพ่งเล็งอย่างไร้เดียงสาก่อนจะชวนเพื่อนให้มองไปยังสิ่งที่กำลังใกล้เข้ามา

มันทั้งใหญ่ เร็ว และมีสีดำ และไม่นานครีบหลังก็ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากน้ำ อันเป็นสัญญาณว่ามันคือ "ฉลาม !!!!"

แต่กว่าที่เด็กๆจะทันตั้งตัวมันก็โผล่ขึ้นมาโจมตีเอาเสียแล้ว โดยคนที่โชคร้ายในคราวนี้คือหนูน้อยเลสเตอร์ที่พยายามจะหนี แต่โดนฉลามงับก่อนที่จะลากลงน้ำ

เด็กๆคนอื่นต่างพากันวิ่งหนีขึ้นฝั่งพร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือไปยังผู้คนที่พบเห็น จนในที่สุดมีพลเมืองดีรายหนึ่งชื่อว่า สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ นักธุรกิจหนุ่มวัย 24 ปี พยายามจะลงไปช่วยเหลือเจ้าหนูน้อยเลสเตอร์ เขาโดดลงน้ำด้วยความหวังที่จะช่วยชีวิต
.
.
เมื่อระบุที่ที่เลสเตอร์ตกลงไปได้แล้วเขาก็ตัดสินใจดำลงไปอย่างไม่เกรงกลัว แต่กระนั้นตัวฟิชเชอร์เองก็กลายเป็นเหยื่ออันแสนโอชาของเจ้าฉลามคลั่งอีกน เมื่อมันแหวกว่ายมาในวารีด้วยความเร็วสูง พุ่งกัดชายหนุ่มไปที่แขนขวาจนขาด

เขาพยายามที่จะหนีเข้าชายฝั่ง นอกจากจะช่วยเด็กไม่ได้แล้วยังเสียแขนขวาไปอีกด้วย ก่อนที่ถูกนำตัวส่งพยาบาลในเวลาต่อมา

กลับมาที่ท้องทะเล ถ้าท่านคิดว่าเหยื่อสองคนนี้คือสุดท้ายของวันนี้ละก็ท่านคิดผิดครับ เพราะเจ้าฉลามคลั่งตัวดังกล่าวยังโหยหาเลือดมาย้อมทะเลให้แดงฉาน เพราะ 30 นาทีต่อมานับจากเกิดการจู่โจมครั้งแรก

เจ้าฉลามก็มุ่งเป้าไปที่เหยื่อรายต่อไปนั่นก็คือ เด็กหนุ่มอายุ 14 ปี นามว่า โจเซฟ ดันน์ เหตุเกิดที่ ท่าเรือ Wyckoff ไม่ไกลจากจุดแรกที่มันโจมตีสองคนก่อนหน้านี้

เจ้าฉลามยังใช้วิธีโจมตีแบบสายฟ้าฟาด รวดเร็ว และ หนักแน่น คราวนี้มันกัดไปที่ขาของเจ้าหนูโจเซฟ ในขณะที่เขากำลังเล่นน้ำกับบพวกเพื่อนๆและพี่ชาย (มึงไม่รู้เหรอวะว่าก่อนหน้านี้ฉลามแม่งพึ่งกัดคน แถวๆที่พวกมึงอยู่ ปั๊ดโธ่ววววว)

เจ้าหนูร้องจ๊ากด้วยความเจ็บปวด แต่กระนั้นพี่ชายของเขาดึงเจ้าหนูขึ้นมาได้ทันก่อนจะถูกลากลงน้ำแบบเหยื่อคนก่อน
.
.
เจ้าหนูโจเซฟรอดตาย และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในระแวก และใช้เวลารักษาตัวราว 2 เดือนนับตั้งแต่เกิดเหตุ

ส่วนฟิชเชอร์นั้นเสียชีวิตี่โณงพยาบาลเพราะเสียเลือดมาก ส่วนในรายของเจ้าหนูเลสเตอร์นั้นถูกพบศพในสองวันให้หลังในสภาพลอยอืดเกยตื้นอยู่ที่ชายหาด
.
.
หลังจาเกิดเหตุสลดดังกล่าว เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากคนทั่วประเทศ สื่อต่างๆตีข่่วถึงความชุ่ยของเจ้าหน้าที่ชายฝั่งที่ไม่นใจคำเตือนของกัปตันเรือ และที่สำคัญมันทำให้เกิดกระแสการกลัวการลงไปเล่นน้ำในทะเล เพราะไม่อยากที่จะเผชิญชะตากรรมเฉกเช่น 5 คนก่อนหน้านั้น

โรงแรมต่างๆ มีการทำโปสการ์ดแจ้งเตือนถึงภัยร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในท้องทะเลอันแสนกว้างใหญ่ และจากเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลทำให้ชุมชนริมทะเลและรีสอร์ทในบริเวณที่เกิดเหตุเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ไม่ว่าการเอาตาข่ายมากัน หรือวิธีต่างๆ ที่สำคัญมีการลงขันล่าค่าหัวจากสื่อต่างๆ จนทำให้ค่าหัวของเจ้าฉลามตัวนี้มีมูลค่ากว่า 250,000 ดอลล่าห์สหรัฐสำหรับคนที่พิชิตมันได้
.
.
ซึ่งนักวิจัยทางทะเลต่างพากันประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าฉลามจะกล้าเข้ามาโจมตีมนูษย์อย่างอุกอาจเช่นนี้ นับตั้งแต่ได้ยินข่าวตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นฝีมือวาฬเพชฌฆาตหรือเต่าทะเลเสียอีก

จากนั้นไม่นานก็มีข่าวรายงานมาจากหลายที่ในสหรัฐว่ามีการพบฉลามในพื้นที่ต่างๆมากขึ้น อาทิ นิวยอร์ค , คอนเน็คติคัต , ฟลอริ้า , อลาบาม่า ยิ่งสร้างความผวาให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก

.
.
จนในท้ายที่สุดในวันที่ 14 กรกฎาคม ปีเดียวกันนั้นเอง
ชายคนหนึ่งนามว่า ไมเคิล ชไลส์เซอร์ ได้จับฉลามขาวที่ยาวกว่า 2.3 เมตร หนัก 147 กิโล ได้ในอ่าวราริแทน ซึ่งฉลามตัวดังกล่าวพยายามที่จะทำร้ายเขาโดยการทำให้เรือจม แต่กระนั้นตัวเขาก็สวมวิญญาณนักสู้ ใช้ไม้พายที่หักแทงสู้กับฉลามจนมันพ่ายแพ้และตายในที่สุด

แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเมื่อเขาเปิดกระเพาะของมันออกมากลับพบชิ้นส่วนมนุษย์ รูปร่างคล้ายหญิงสาวติดมาด้วย

ซึ่งชาวประมง และ กัปตันเรือต่างๆ ต่างลงความเห็นว่าฉลามตัวดังกล่าวคือฉลามกินคนที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญ

ตัวไชส์เซอร์นำเจ้าฉลามโหดขึ้นแท่นแขวนพร้อมให้บรรดาผู้สื่อข่าวถ่ายรูปกันอย่างหนำใจ

และหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ไม่มีเหตุการณ์ฉลามโจมตีในชายฝั่งนิวเจอร์ซีย์อีกเลย เปรียบดังเป็นการปิดตำนานฉลามกินคน ณ นิวเจอร์ซี่ก็ว่าได้
.
.
ท่านสามารถย้อนอ่านตอนเก่าๆได้ที่ลิงค์นี้ครับ

https://www.facebook.com/Fatmantalk/posts/2434897693222667
.
.
ท้ายนี้อย่าลืมกดถูกใจเพจพุงพลุ้ยคุยไปเรื่อยด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

#ห้ามคัดลอกบทความ #กรุณากดแชร์แทนการก๊อปวาง

โหดสัส รัสเซีย ไม้พายสู้ฉลาม

บ้านเค้ามีฉลาม บ้านเราก็มีจระเข้ น่ากลัวทั้งคู่เลย

สัตว์นักล่าดึกดำบรรพ์ ตัวใหญ่แถมโจมตีในน้ำอีก มนุษย์(ยุคก่อนๆอาวุธไม่ทันสมัย)จะเอาอะไรไปสู้

ข้อสังเกตมนุษย์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอุตสาหกรรมหารในวันนึงหลายสิบล้านชีวิต มนุษย์เรียกว่าอุตสาหกรรมอาหาร

แต่พอมนุษย์โดนสัตว์แดกบ้าง ดันเรียกว่าเจ้าสัตว์ผู้โหดร้ายอำมหิตซะงั้น ในโลกของห่วงโซ่อาหารมันก็เป็นแบบนี้แหละ

ตอนนี้ Sapiens ครองโลกและผู้ถือครองกฎแห่งการเป็นผู้ไล่ล่า พอโดนไล่ล่ากลับร้องเป็นแมวน้ำโดนบีบไข่เลย

อย่าเรื้อนผมนะ ผมแค่พูดถึงระบบ Food Chain กับ Human Awareness ในภาพรวมเฉยๆ

ชอบตรงแมวน้ำโดนบีบไข่

นึกว่ามีแต่ในหนัง ของจริงซะงั้น ใช้ไม้พายจิ้มฉลาม

ผมเกือบกดเรื้อนแล้วครับ ดีว่าท่านอาร์ชาวินขอไว้ก่อน

ไม้พายทำฉลามตายได้​ มันทำไงอยากรู้​ เทพจริงๆ

โปสเตอร์ มองไกลๆ
นึกว่าซองยาแก้ไอ