ในโลกยุคปัจจุบันที่ต่างให้สิทธิและเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกันได้แทรกซึมไปทั่วทั้งบริบท สังคม เศรษฐกิจ การเมือง หรือด้านอื่นๆ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต่างเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลายครั้งข้อจำกัดหรือเงื่อนไขทำให้กระบวนการดำเนินการในการพัฒนาต้องล่าช้าหรือหยุดชะงัก แต่สิ่งนั้นได้ถูกก้าวผ่านหรือถูกทำลายทิ้งไปแล้ว ในโลกฟุตบอลก็เช่นกันที่อดีตมีเพียงผู้ชายที่เป็นผู้กำหนดเรื่องราว ในยุคที่มนุษย์โฟกัสถึงเสรีภาพและความเท่าเทียมกัน ผู้หญิงเริ่มมีการแสดงตัวตนที่ชัดเจนมากขึ้น ผ่านการคัดสรรจากผลงานของกลุ่มสตรีผู้นั้น เช่น เวทีการเมือง อังเกลา แมร์เคิล ประธานาธิบดีหญิงของเยอรมัน หนึ่งในผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดยุโรปและกลุ่มเศรษฐกิจEU เป็นต้น



"Marina Granovskaia ผู้ทรงอิทธิพลเบอร์ต้นๆของบอร์ดบริหารเชลซีก็เป็นหนึ่งในนั้นด้านกีฬาและโลกธุรกิจ "

ต้องบอกเลยครับว่าผมค่อนข้างสนใจประวัติเธอพอสมควร ผมไม่ได้โฟกัสในโลกฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่ยังโฟกัสบริบทด้านต่างๆของเธอด้วย เพราะผมเชื่อมั่นว่ามันสามารถสะท้อนตัวตนได้พอสมควร ผมขออนุญาตเรียกเธอ ว่า "เจ๊มารีน่า" (ชื่อมันยาวและอ่านยากชิบหายตามภาษารัสเชี่ยน เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วเธอเป็นหนึ่งที่มีอำนาจในบอร์ดบริหารเชลซี ผลงานต่างๆที่ดีและแย่ก็ผสมปนเปกันไป แต่ผมอยากให้ทุกคนไปโฟกัสเรื่องราว และความคิด อุปนิสัย รวมถึงผลงาน แล้วถอดสรุปเป็นภาพในความคิดของแต่ละคนนะครับ ซึ่งการตีความของท่านก็สุดแล้วแต่ท่านจะวิเคราะห์ออกมาเลย



เจ๊มาริน่า เป็นมือสนิทคนสำคัญของเสี่ยหมีโรมัน เป็นฟันเฟืองอีกคนที่ช่วยสร้างอาณาจักรเชลซีให้มีชื่อเสียงในโลกกีฬา เสี่ยหมีเป็นคนฉลาดและคนฉลาดย่อมเลือกคนที่ฉลาดเช่นเดียวกับตนขึ้นมาช่วยบริหาร เจ๊มารีน่ามีเชื้อสายแคนาดา-รัสเซีย แต่เธอเลือกที่จะถือสัญชาติรัสเซีย เพราะเธอเกิดที่ประเทศรัสเซียในยุคของสหภาพโซเวียต เธอเติบโตในโลกสังคมนิยมที่มักจะอนุรักษ์ความคิดและจิตวิญญาณเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่กับเจ๊มาริน่า เจ๊มาริน่ากลับมีความคิดที่มองว่าโลกควรอยู่กับพัฒนาและสรรสร้าง
ดังนั้นเจ๊มาริน่าจึงมีความคิดส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างจะเป็นพวกหัวก้าวหน้า สิ่งที่สะท้อนบ่งบอกถึงความคิดก้าวหน้า คือเธอเคยเปรยพูดขึ้นว่า "อาชีพครูมันน่าสนใจ แต่ฉันอยากเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากกว่านั้น"

ในช่วงวัยเด็กเธอเรียนร้องเพลงและเต้นเหมือนเด็กๆทั่วไปตามปกติ หลังจากนั้นเธอเข้าสู่วัยรุ่นจึงได้เรียนมหาวิทยาลัยมอสโคว ในด้านอักษรศาสตร์ เธอมีความสามารถในภาษาเป็นอย่างมาก สามารถพูดได้ถึง6ภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน ภาษารัสเซีย ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี เป็นต้น ขณะเดียวกันเธอก็เรียนร้องเพลงและเต้น.ในวิชาภาคบังคับไปด้วย แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับกีฬาเลย



เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยมอสโควด้วยผลงานเกียรตินิยมทางด้านสาขาหลังจากกลุ่มสหภาพโซเวียตล่มสลายลง และงานที่แรกที่เธอได้ทำบริษัทซิบเนฟต์น้ำมันของเสี่ยหมี (ซึ่งตอนนั้นเสี่ยหมีมีบริษัททั้งน้ำมัน เหล็กกล้า และ ก๊าซธรรมชาติ) ภายหลังที่เสี่ยหมีย้ายมาอยู่ลอนดอนเมืองหลวงอังกฤษเธอก็ย้ายตามมาอยู่ด้วย แต่กระนั้นงานที่เธอทำก็ไม่ได้เกี่ยวกับฟุตบอล เธออดทนมาโดยตลอดเพราะระยะเริ่มแรกเธอทำหน้าที่ดูแลออฟฟิตและติดต่อประสานงานเท่านั้น นอกจากนี้เธอยังมีหน้าที่ติดต่อกับนักธุรกิจหรือบุคคลสำคัญระดับวีไปพี ทำให้เธอมีคอนเนคชั่นมากมายกับคนระดับวีไอพีพวกนี้ งานที่ได้รับมอบหมายจึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงทั้งในเรื่องธุรกิจและการวางแผน ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเธอเอง จึงทำให้เรื่องต่างๆ จึงไปเข้าหูบอสใหญ่อย่างโรมัน อบราโมวิช ยิ่งที่เธอทำงานมากเท่าไหร่ความสำเร็จอันมาจากความสามารถที่ถูกซ่อนเร้นของเธอก็ยิ่งฉายแสงมากเท่านั้น จนในที่สุดบอสใหญ่ก็ให้เธอเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในเรื่องธุรกิจต่างๆ ยิ่งนานเข้าก็ให้เธอรับฟังหรือเสนอแนะในเรื่องธุรกิจในโลกฟุตบอลด้วย
ซึ่งขณะนั้นเสี่ยหมีได้เทคโอเวอร์สโมสรเชลซีเป็นที่เรียบร้อย


ซึ่งหากนับระยะตั้งแต่เริ่มทำงานกับเสี่ยหมีก็สมัยปี1997 และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่ชัดเจนมากขึ้นในหลังปี2003 แต่ตัวตนของเจ๊มารีน่าก็ยังไม่เปิดเผยชื่อมากนัก หลังจากที่เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคประวัติศาสตร์ของทีมหนแรก เสี่ยหมีจึงได้ขอให้มารีน่าผู้ช่วยของเขาช่วยแสดงวิสัยทัศน์ มารีน่าได้แสดงความคิดเห็นว่า "ยุคแห่งความสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว ยุคต่อไปคือยุคของความสำเร็จที่มากกว่าที่เป็นอยู่และต้องคงทน" เมื่อเสี่ยหมีได้สดับฟังก็ถูกใจเพราะต้องกับคอนเซ็ปต์ที่ต้องการสร้างเชลซีให้แข็งแกร่งเป็นที่รู้จักในระดับโลก รวมถึงแผนงานการสร้างเชลซีให้ประสบความสำเร็จใน4ระยะ




เธอเริ่มมีตัวตนในโลกฟุตบอลมากขึ้นผสมผสานในโลกธุรกิจ ดังเช่นผลงานเธอซัพพอร์ตมูริญโญ่ระหว่าง2004-2007 และดึงมูริญโญ่กลับมาอีกครั้งภายหลังคุมมาดริดเสร็จสิ้น
หรือดรอกบาในช่วงหนึ่งคือคนที่ทุกคนอยากขายทิ้ง แต่เจ๊มารีน่าบอกว่า ควรต่อสัญญาเก็บดรอกบาไว้ เขายังมีประโยชน์มากกว่าผลเสีย การเก็บดรอกบานั้นสำคัญเพราะเขาคือผู้เล่นที่จะเป็นถึงยอดแข้งสร้างชื่อให้เชลซี เสี่ยหมีจึงต่อสัญญาดรอกบาไปอีก ด้วยความไว้วางใจเบื้องบน ดรอกบาจึงตอบแทนด้วยการพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์อีกครั้ง พร้อมกับดาวซัลโว และกระชากแชมป์UCLมาเป็นสมัยแรกประวัติศาสตร์ของสโมสร


นอกจากนี้เจ๊มารีน่ายังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในดีลช็อกโลกอีกมากมาย ซึ่งขอยกตัวอย่างอีก2 เคสเป็นอย่างน้อยคือ กระชากเฟอร์นันโด ตอเรส จากลิเวอร์พูลด้วยสถิติ50ล้านปอนด์ ขายรามิเรสไปลีคไชน่า 22 ล้านปอนด์ ขายออสก้าไปทีมเซียงไฮ่อีก60ล้านปอนด์





(จากรูปเจ๊มารีน่ากับผู้บริหารระดับสูงของทีมวิสส์เทสส์ มีสายคอนเนคชั่นกับทางทีมวิสเทสส์และทเวนเต้ จนนำไปสู่การตั้งประเด็นอันร้อนแรงในโลกฟุตบอลว่า เชลซีกำลังฟอกเงินหรือไม่? )



ในปี2013 ด้วยผลงานต่างๆของเธอมากมาย ทำให้เธอฉายแสงเต็มขั้นรูปแบบ เสี่ยหมีจึงให้เธอเป็นผู้บริหารทำงานคู่กับอเมนาโล่ ผู้ช่วยทางเทคนิค ทั้งสองช่วยกันทำงานตามหน้าที่ได้รับมอบหมาย เธอเริ่มใช้กลยุทธ์วิธีในด้านการเจรจาคอนเนคชั่น หนึ่งในผลงานคือการกว้านซื้อดาวรุ่งทั่วโลก และส่งไปยังสโมสรวิสเทสส์ที่อยู่ในฮอลแลนด์ฟูมฟัก เพื่อคัดสรรกลับมาเป้นยอดแข้ง หากดาวรุ่งรายใดมีความสามารถมาพอก็จะกลับมาเป็นนักเตะที่แคมป์ แต่หากไม่สามารถสร้างผลงานที่เข้าตา ก็คือ ขายเพื่อเอากำไร หรือปล่อยยืม จึงเป็นการตั้งคำถามว่าเหตุผลว่าเหตุใดดาวรุ่งของเชลซีถึงไม่ประสบความสำเร็จมากนัก และทำไมตัวเลขของเชลซีที่เคยที่ติดตัวแดง กลับมามีสถานการณ์ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเกิดการตั้งคำถามที่สั่นคลอนวงการฟุตบอลว่า เชลซีกำลังฟอกเงินผ่านนักเตะ



นอกจากนี้เธอยังมีเอี่ยวในการดึงนักเตะดังๆเข้ามาสู่รั้วในสแตมฟอร์ด บริจดิ์มากมายทั้ง วิลเลี่ยน ชัคตาร์โดนเนค เปโดรจากบาร์เซโลน่า เชสฟาเบรกัสจากบาร์เซโลน่า รวมถึงการบินไปเจรจาเอง นำเข้าดิเอโก้ คอสต้า ในราคา30กว่าล้านปอนด์ คว้าเอแดง อาซาร์ มาจากลีลล์ การดึงมิดฟิลด์อย่างกองเต้จากเลสเตอร์ เดวิดหลุยส์ จากปารีส
การคว้าตัวรอสบาร์คลี่ในราคาสุดถูก รวมถึงขายมาติชให้แมนยู ในกรณีเจ้าตัวอยากจะไป นอกจากนี้ยังนำโค้ชชื่อดังมาหลายคนแล้วประสบความสำเร็จเช่น มูริญโญ่ อัลเชลอตติ คอนเต้ และรวมถึงที่จะมาใหม่อย่าง ซาร์รี่



ตลอดระยะการทำงานของเธอทั้งการบริหารและซื้อ-ขาย เธอถูกจับตา เพราะไม่ใช่ว่าเธอซื้อขายเก่ง แต่สร้างอิมแพคให้คนทั้งโลกเห็นว่า ผู้หญิงก็สามารถเป็นผู้นำได้อย่างที่ประชาชนชาวอังกฤษบอกว่า

"West Ham United's Karren Brady may be the most high-profile woman in English football, but Granovskaia is the most powerful.

When it comes to the transfer market, she's Chelsea's Special One."

แต่เหรียญย่อมมีสองด้านหากกล่าวถึงด้านสว่างก็ต้องมีด้านมืด ซึ่งก็ถูกกล่าวขวัญเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะอันมาจากการทำงานของเธอและอุปนิสัยของเธอ เช่น เธอเป็นคนหัวก้าวหน้าแบบสุดโต่ง ยอมหักไม่ยอมงอ ผลงานต้องเป๊ะเป็นไปตามแนวทางสโมสรเหมือนกัน ใครที่ขวางการทำงานของเธอ มักถูกเธอถอนรากถอนโคน ซึ่งข่าวที่เมืองนอกซุบซิบภายในว่า การที่อเมนาโล่ถูกเชิญออกด้วยปัญหาด้านสุขภาพแล้ว ยังมีเรื่องคลื่นใต้น้ำของอีกฝ่ายด้วย ซึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นอีกอำนาจหนึ่งเจ๊มารีน่า หรืออีกเคสหนึ่งที่กล่าวคอนเต้ไปงัดกับบอร์ดบริหาร เรื่องการซื้อตัว



กับทางนักเตะที่เป็นเรื่องเล่าขวัญในพนักงานที่ทำงานในเชลซีว่า ช่วงที่จอร์นเทอร์รี่ เรียกร้องขอต่อสัญญาในระยะยาวช่วงปลายอาชีพในปี2014 แต่ทางสโมสรต้องการให้เพียง1ปีเท่านั้น
ในการประชุมค่อนข้างตึงเครียด เพราะยืดเยื้อมานาน จนในที่สุดเจ๊มารีน่ายื่นสัญญาและทุบโต๊ะด้วยอารมณ์โมโห ต่อหน้าตำนานเชลซีว่า “take it or f***ing leave it.” (ถ้าแปลเป็นไทยแบบชาวบ้านก็คือ จะเซ็นหรือไม่เซ็น ถ้าไม่เซ็นก็ไสหัวออกจากเชลซีไปซะ) ซึ่งไม่เคยมีใครหรือกล้าจะขึ้นเสียงกับตำนานเชลซีคนนี้เลย จนในที่สุดเทอร์รี่ก็ขอยอมแพ้หย่าศึก เซ็นทันที



เคยมีนักวิชาการวิเคราะห์เจ๊มารีน่าเหมือนกัน โดยดูรูปแบบการทำงาน อุปนิสัย ความเก่งกาจเฉพาะตัว ซึ่งจากที่อ่านๆมา สรุปว่า "เป็นคนหัวทันสมัย มั่นใจในความคิดและการกระทำ จริงจังในการทำงานค่อนข้างสูง สามารถที่จะแข็งกร้าวหรือผ่อนปรนได้"

นี่แหละครับ หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในบอร์ดบริหารเชลซี (รองจากเสี่ยหมี) หากมองลึกๆแล้วก็น่าสนใจไม่น้อยเลยว่า เธอและเสี่ยหมีจะพาเชลซีไปในทิศางไหน หวังว่าเราจะได้เห็นมุมมองของเธอเป็นเช่นไร สุดแท้แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แต่ในความคิดของผมเธอคือนางพญาที่โหดเหี้ยมแต่ก็ผสมกับความดุดัน มั่นใจ เพื่อไปถึงเป้าหมาย

ผลงานความสำเร็จของผู้ที่อยู่เบื้องหลังด้านโทรฟี่ตั้งแต่เสี่ยหมีและเจ๊มารีน่าเข้ามาสร้างอาณาจักร นับตั้งแต่ Era 2003-2018

แชมป์พรีเมียร์ 5 สมัย

FA Cup 5 สมัย

ลีคคัพ 5 สมัย

คอมมินิตี้ชิลด์ 2 สมัย

ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค 1 สมัย

ยูโรป้าลีค 1 สมัย





ปล. คาเรน แบรดลี่ที่ถูกกล่าวถึง นักธุรกิจที่ต้องการฮุบสโมสเวสแฮมต์ เป็นผู้หญฺิงที่ทรงอิทธิพลในโลกกีฬาอีกคนหนึ่งของเกาะอังกฤษ

ปล2. เธอเป็นนักเจรจามือฉมัง และเจ้าคิดเจ้าวางแผน คู่หูคู่บุญมันสมองกับเสี่ยหมีมาอย่างยาวนาน โปรเจ็คของสโมสรทุกอย่างจะต้องการพิจารณาจากเธอก่อนส่งไปที่เสี่ยหมี่พิจารณาอีกครั้ง

ปล3. มีข่าวแว่วๆ ผอ. กีฬาคนใหม่ มีบัลลัค นั่งเป็นตัวเต็งตำแหน่งนี้ ถูกสนับสนุนโดยเจ๊มารีน่า

ปล4. เธอเป็นที่ปรึกษาระดับชั้นนำของโลกมาแล้วนะครับ เช่น Gazprom บริษัทก๊าซธรรมชาติที่สำคัญของยุโรป