ไลฟ์โค้ช ฟังหูไว้หูดีกว่า หรืออยากเก่งนะ ไปคุยกับเถ้าแก่ที่รวยดีกว่า อันนั้นอะของจริง

ก่อนจะลงครอสไหน เราต้องตั้งเป้าหมายของเราเองให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปหาลงครอส ถ้าไปแบบไร้เป้าหมายเสียตังค์ฟรี

ถ้าต้องเลือกระหว่างสองคนนี้ คงเป็น ฌอน ละกัน, เคยฟัง ผู้กองเบนซ์แล้ว ผมรู้สึกว่าเหมือนพยายามทำตัวให้มั่น ทำดูเหนือกว่าคนอื่นมากเกินไปหน่อยน่ะครับ เลยไม่ค่อยอินเท่าไร

แต่ถ้าพูดจากใจ ผมคิดว่าไลฟ์โค้ชกลุ่มนี้ ใช้หลักธรรมะเป็นพื้นฐานไปผสมกับคำพูดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการให้สนใจ
กรณีอย่าง ฌอนก็จะเป็นสาย สุภาพ พูดทิ้งช่วงให้คิดบ้าง ใครที่ไม่ชอบเนิบๆก็จะข้ามไป
ส่วน ผู้กองก็จะออกแนวฮาร์ดนิดๆ ใช้คำและท่าทีการพูดที่ดูแรงนิดๆ ก็จะถูกใจคนบางกลุ่ม

ส่วนตัวยังคิดเสมอว่า 1 คลิป 1 วีดีโอของไลฟ์โค้ชไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับทุกคนได้นะ บางทีต่างกรรมต่างวาระ
แต่เชื่อว่าสิ่งดีๆที่คุณจะได้จากเขา คือ สติ สมาธิ ... จากนั้นแนวทางการแก้ปัญหาใดๆก็แล้วแต่ คุณต้องต่อยอดกันเอาเอง

ถ้าให้เชียร์จริงๆ ผมว่ากรณี น้าเน็ก ได้ประโยชน์และตรงจุดกว่า เพราะเรากำลังสนทนากับปลายสาย 1 คน ให้เขาเล่าเรื่องและเสนอแนวทางให้กับเรื่องนั้นๆ คนนั้นๆ ... ซึ่งมันดูตรงเป้าหมายมากกว่า เพียงแต่การเข้าถึงมันดูยากเอาเรื่องเลย

คนบางคนรู้อยู่แล้วจะทำยังไงให้ชีวิตดีขึ้นแต่พวกเค้ากลับไม่ทำ กลับเลือกที่จะฟังคนที่บอกว่าชีวิตคววรเป็นแบบไหน ต้องทำอะไร ทั้งๆที่ตัวเค้าเองก็รู้จักตัวเองดีกว่าๆใคร

ผมมองว่า

life coach มีประโยชน์ครับ

โดยเฉพาะบ้านเรา ที่คนมากมาย ต้องอาศัยการขัดเกลาสูง

ส่วนเรื่องใครดีกว่า แล้วแต่ จริตใครจริตมัน


ส่วนตัวผม ผมฟังผ่านๆ อันไหนแง่คิดดี ก็ฟัง
แต่ยังไง ผมมองว่า เนื้อแท้ของเรา ต้องมาจากความคิดเราเอง ไม่ต้องทำตามใคร

ฟังพอให้รู้สึกฮึกเหิม แล้วก็ลุกไปลงมือทำซะ
อย่าไปเสียเงินซื้อแพคเกจ หรืออะไรเลอะเทอะก็พอ

ฌอร์น นุ่นกว่า

เคยฟังพี่จีน Viewfinder กับพี่ต่อ เคยพูดในช่อง

ทำนองว่า พวกโค้ชชิ่งคุยกับแกว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี คนอยากได้กำลังใจ



*แต่คิดว่าเราคิดเองได้ในเรื่อง Positive Think อย่าไปซื้อคอสอะไรแบบนั้นเลย

ไม่สนทั้งคู่แหละครับ

ไลฟ์โค้ช ห่างไกลจากคำว่าเพื่อนสำหรับผมมาก เอาจริงๆ ชีวิตเราแค่ต้องการเพื่อนที่รับฟังปัญหาได้แค่นั้นแหละ

รู้จักฌอนจากน้าเน้กเนียแหละ เห็นน้าเคยบอกว่าเป็นแรงบรรดาลใจให้แกมาทำอย่าหาว่าน้าสอนทุกวันนี้ ผมว่านิสัยคงมีอะไรดีสักอย่างแหละ

ส่วนผู้กองนี่พูดน้ำไหลไฟดับไปหน่อย ฟังแล้วรำคาญเหมือนพวกน้ำเต็มแก้ว

ผมชอบดูน้าเน้กมากกว่า ไม่ได้ชอบอะไรที่แกสอนนะ แค่อยากรู้ว่าทุกวันนี้คนมันมีปัญหาชีวิตอะไรกัน ฟังแล้วรู้สึกเรานี่โชคดีขึ้นเยอะเลย

ผมฟังหมด ทั้งฌอณ ผู้กอง น้าแน็ค ฟังแล้วนำเอาประโยชน์และแนวคิด เอาแต่แก่น มาพัฒนาชีวิต เปิดใจแล้วคิดตามครับ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อเขาทุกเรื่องแต่อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว

มาเจอผู้กองเบนซ์ พิฌอนดูดีขึ้นมาทันทีอะ

เคยเจอและนั่งคุยกับผู้กองเบนซ์นะ เค้าก็เป็นแบบนั้นแหละ ไม่ได้แต่งเติมหรือสร้างภาพขึ้นมาเลย วิธีพูดดุดัน ฟังแล้วมีพลัง ถ้าตัดสินแค่คลิปสั้นๆ คือมันก็ตัดต่อเอาอะนะ เพราะการพูดแต่ละเรื่องมันมีอารมณ์เข้าไปด้วย เวลาคนฟังอารมณ์ดีๆชิลๆ เจอเข้าไปก็แอนตี้ครับเรื่องปกติ

Life coach อะดีครับ จริงๆเค้าก็คนเหมือนๆเรานะ แต่เค้ามีพลังงานบางอย่างที่สามารถดึงดูดและสะกิดจิตใต้สำนึกเราได้ครับ ซึ่งเราทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าต้องทำอะไร แต่ไม่ใช่ทุกคนไงครับที่มี energy เพียงพอในการทำสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว บางทีมันต้องมีหลักจับก่อน life coach เป็นหลักให้คนจับได้

ผมว่าเราทุกคนรู้ดีว่า เรารู้ว่าเราอะรู้อะไรบ้าง และเรารู้ว่าเราไม่รู้อะไรบ้าง สองอย่างนี้เราจัดการได้ถ้าตั้งใจ มุ่งมั่น แน่วแน่.. แต่ มีอย่างนึงที่เราทุกคนพลาด!! คือ เราไม่รู้..ว่าเราไม่รู้เรื่องอะไรบ้าง!! ข้อนี้จัดการยากเพราะเราไม่รู้ไงครับ จะไม่รู้ด้วย อีโก้ อีโง่ อะไรก็แล้วแต่ แต่ life coach ส่วนใหญ่ขุดสิ่งนี้จากใครหลายๆคนได้เป็นวงกว้างไงครับ เค้าถึงมีคนติดตามเยอะและเค้าก็เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อคนเหล่านี้พอสมควรเลย

ซึ่ง life coach เนี่ย เค้าลองทำ trial error มาเยอะมาก ศึกษาค้นคว้าจากตัวเองและคนรอบข้างตลอดเวลา เรียนรู้จากหนังสือ ผู้คน สถานที่ ไม่ใช่อยู่ๆจะมาเป็นได้ มันต้องมีเรื่องราวก่อนไง ซึ่งมันมากกว่าที่เราๆส่วนใหญ่จะเข้าใจ แล้วเค้าก็ถ่ายทอดออกมา

สุดท้ายจะด้วย life coach แบบใด อยากให้ฟังเปิดใจฟัง เอาแก่นมาใช้ เพราะ character เป็นเพียงแค่วิธีารสื่อสารเฉยๆ แต่เนื้อหาที่ถ่ายทอด มันสำคัญมากกว่า

พวกหนังสือขายดีที่ขึ้นโชว์อันดับบนหิ้งส่วนใหญ่ก็พวกแนวสอน ๆ ขีวิตพวกนี้นะ แปลกใจเหมือนกัน

แต่ก็เรื่องของเค้า แทนที่จะไปจับผิดคนอื่น ทำตัวเองให้ดีก็พอ

น้ำเสียงอย่างเดียว เลือกผู้กองนะ ฉะฉานดี แต่มันหลายอย่างมากเลยนะ 2 คนนี้ต่างกันคนละแนว คนละทาง คนละเรื่องเลย