ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 9364
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Feb 10, 2020 05:13
Top Comment [RE: 'น้าคอน'ปลุกผี!! 'งู' คืนชีพโดน 2-0 รัว 'มิลาน' ครึ่งหลังแซง 4-2 ขึ้นฝูง]
ครบรสดาร์บี้แมตช์จริงๆ เกมมันอึดอัด กดดัน และอัดอั้นมากๆ อาการหลังเป่านกหวัีด มันชัดแบบสุดๆ
มิลานของปิโอลี่ กับแผนที่เริ่มลงตัว คือ แผนที่คล้ายๆ 4-4-2 ทีมของเขาเล่นได้อย่างวูบวาบ รวดเร็ว เปี่ยมพลังงาน
ถ้าเกมนั้นๆ เปิดแลก + และมิลานสามารถจับจังหวะเกมได้แล้วละก็ มิลานจะเล่นน่าได้ลุ้นมากๆ
แล้วก็เป็นเช่นนั้น
10 นาทีแรกเป็นของมิลาน ดูดีกว่าแบบชัดเจน
หลังจากนั้นแผ่วลงไปหน่อย แต่ก็ยังมีหมัดสวนกลับมาเป็นระยะๆ บางช่วงก็โถมเกมได้ดี สามารถสร้างจังหวะสำคัญ/จังหวะอันตรายๆได้เยอะ จนขึ้นนำอย่างสวยงามในครึ่งแรก 2-0
ฝั่งอินเตอร์
โค้ชเลือกถูกที่ไม่ใช้อีริคเซนเป็น 11 ตัวจริง เพราะถ้าดูจากเกมที่แล้ว จะเห็นได้ว่าอิริคเซนยังจับจังหวะเกมไม่ได้ มิลานที่คึกคัก ดุดัน แบบนี้ น่าจะทำให้อิริคเซนเล่นลำบากยิ่งขึ้น
แต่เกมครึ่งแรกของอินเตอร์ ก็เนือยเกินไป เงียบเกินไป สวนทางกับมิลานที่คึกคักกว่ามาก
ลูกแรกที่เสีย ดูง่ายไปหน่อย ที่โกดินแพ้โหม่งแบบง่ายๆ แต่อาจต้องอนุโลมให้หน่อยว่าซลาตันเทคตัวได้ดีจริงๆ
ส่วนลูกที่ 2 ขอไปเม้นต่างหาก เพราะเป็นลูกกรณีศึกษา
พอเริ่มครึ่งหลังเท่านั้น
สิ่งที่เป็นจุดแข็งของคอนเต้ ก็ถูกงัดเอามาใช้อีกครั้ง คือ ไม่ว่าครึ่งแรกจะเป็นอย่างไร ครึ่งหลังทีมจะเล่นดีขึ้นไม่มากก็น้อยเกือบตลอด (แฟนเชลซีน่าจะพอจำความรู้สึกนั้นได้)
น่าจะโดนบ่น โดนบิ้ว มาหนักมาก ตั้งแต่เดินกลับมาที่อุโมงค์ ภาษากายของผู้เล่นดูมาคุ ดูดุดันแบบแปลกๆ
จากนั้น เรื่องน่าแปลกใจก็เกิดขึ้น 1-2 / 2-2 จนมาเป็น 3-2
แต่ละลูกแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในครึ่งแรก เพราะเกมเนือยเกินไป เปลี่ยนจังหวะเกมนน้อยเกินไป และขาดความกระตือรือล้นมากเกินไป
เหมือนกับว่าโดนกระตุ้นให้ดุดัน ให้พยายามมากขึ้น จนมีการเคลื่อนที่อย่างแม่นยำและรวดเร็วแบบนั้น วิ่งไล่ดุดันขึ้น หาช่องบ่อยมากขึ้น
ตรงนี้เหมือนเป็นทีเด็ดของคอนเต้อย่างนึงคือ ไม่รู้เหมือนกันว่าในแต่ละเกม ตอนพักครึ่งเขาไปทำอะไรมา จนมักที่จะบิ้วผู้เล่นได้ หลายครั้งที่เล่นดีขึ้นเหมือนเป็นคนละคน ืทำให้เหมือนเป็นการเปลี่ยนตัวในบางตำแหน่ง
(การที่โดนนำ 0-2 โค้ชบางคนอาจเปลี่ยนตัวและเปลี่ยนแผนไปเลย แต่คอนเต้มักจะแก้ด้วยการปรับตอนพักครึ่ง รวมถึงบิ้วผู้เล่นก่อน อย่างน้อยก็เล่ยจนซักนาทีที่ 60-65 ถ้าทีมยังทำอะไรไม่ได้ ถึงจะเปลี่ยนแผนจริงๆจังๆ)
แต่เรื่องนี้ ที่อินเตอร์ยังมาๆหายๆ เพราะทีมยังไม่นิ่ง ถ้าเป็นที่ยูเว่หรือเชลซี (โดยเฉพาะปีแรก) จะเห็นชัดเจนกว่า
พอนำ 3-2 การเปลี่ยนตัวก็เกิดขึ้น เปลี่ยนอิริคเซ่นแทนซานเชส
เป็นการเปลี่ยนกลางรุกแทนกองหน้า ดูเหมือนจะเล่นเกมรับมากขึ้น
แต่ถ้าดูในรายละเอียด มันกลับยังเป็นระบบเดิม ไม่ใช่เป็น 5-4-1
เพียงแต่ว่า ลูกากูไม่ต้องลงมาล้วงบอล ไม่ต้องลงมาพักบอลแบบช่วงก่อนหน้านั้นอีีกแล้ว ให้อิริคเซนทำหน้าที่นั้นแทน ซึ่งเขาก็ทำได้ดีจริงๆ จังหวะเกมเนียนขึ้นมาก
การเปลี่ยนตัว ตัวที่ 2 ก็ถือว่าโค้ชเลือกได้แม่นยำ เพราะคันเดรว่า วันนี้เล่นไม่ค่อยดี นอกจากแอสซิสแล้ว ก็เงียบเกินไป แถมตัวที่เปลียนลงมาอย่างโมเสส ดันมาแอสซิสได้ซะอีก เกมรับฝั่งขวาก็ดูดีขึ้นด้วย
--
รายบุคคล
- ปาเดลลี่ : เปิดบอลสู้ฮันดาโนวิชไม่ได้ + ลูกกลางอากาศก็นิ่งน้อยกว่า
- สคริเนียร์ : มีส่วนในการเสียลูก 2 แต่ที่เหลือดีเยีย่ม
- โกดิน : น่าแปลกใจตรงที่ว่า จุดที่พิึ่งพาได้มากที่สุดของเขาคือเกมรุก เขาดึงจังหวะสวยๆ เปิดบอลดีๆได้หลายครั้ง ส่วนเกมรับ ยังไม่แน่นเป๊ะแบบที่หวังกันไว้ ซึงนี่เป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังก่อนเขาย้ายมา
- ยัง : ไม่มีความผิดพลาดเลยมั้ง แล้วตัดสินใจดีเกือบตลอด นี่เขาจะกลายวิงแบ๊ค คนที่ไว้ใจได้ที่สุดไปซะแล้วมั้ง เพราะคันเดรว่า เจอเกมบางรูปแบบก็จะเล่นไม่ออก
เขาเล่นเหมือนกับว่าเคยเล่นในอิตาลีมา 2-3 ปีแล้ว
- โบรโซวิช : ครึ่งแรก มีความผิดพลาดพอสมควร ครึ่งหลังเปลี่ยนไปเลย
- บาเรลล่า : เกมแบบนี้ ถ้าให้เล่นรุกเยอะๆ ถ้าหวังให้สร้างจังหวะสำคัญๆ เขาอาจจะยังของไม่ถึงนะ แต่เรื่องความมุ่งมั่น ทุ่มเท ความดุดัน ต้องให้เขาจริงๆ โดยเฉพาะครึ่งหลัง
- เวซิโน่ : เขาคือตัวพิเศษจริงๆ โดยการเติมเข้าไปในเขตโทษแบบนั้น หรือความกล้าในเล่นกมรุก + ร่างกาย + ส่วนสูง นี่ทำให้เขามีมิติการเล่นที่หลากหลาย (เกมรับก็ช่วยได้มาก)
คนที่ดีกว่าเขา อาจจะมีไม่กี่คน เช่น ซาวิชของลาซิโอ ปอกบาของแมนยู ซึ่งราคาอาจจะสูงเกินไป ฉะนั้น อย่าเพิ่งขายเขาไปเลย ยังพึ่งพาเขาได้อีกเยอะ
- อเล็กซิส : นอกจากลูกแอสซิสแล้ว ยังถือว่าน่าผิดหวังไปซักหน่อย สำหรับค่าเหนื่อยที่สูงเป็นลำดับต้นๆของทีม
- ลูกากู : ค่อนข้างดี อาจจะเงียบๆในบางช่วง แต่สาเหตุหลักคือบอลมันมาไม่ถึงเขา และพอเขาได้บอลทีไร ก็มักจะกดดันคู่แข่งได้ดี
และสุดท้าย
- เดอ ไฟจ์ : ว่าที่ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสร มีบทบาทในจังหวะสำคัญอยู่หลายครั้ง + สกัดแบบยากมากไป 2 รอบ + ทำได้ 1 ประตู แล้วที่เหลือคือเล่นได้เนียนกริบเกือบทุกรอบ ฟอร์มสุดยอดมากๆ สม่ำเสมอจริงๆ
ปล. น่าจะเป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่าที่ประธานสโมสร สตีเวน ออกอาการดีใจขนาดนั้น
ปล.2 เหตุผลนึงที่คอนเต้อยากได้วิดัลมาตลอด เพราะเรื่องจิตใจนี่แหละ ซึ่งนัดนี้ มันแทบจะชัดเจนว่า ความต่างของอินเตอร์ระหว่างครึ่งแรกกับครึ่งหลังคืออะไร
แก้ไขล่าสุดโดย Contingency เมื่อ Mon Feb 10, 2020 14:26, ทั้งหมด 1 ครั้ง