ผมกลับโคตรชอบการเล่าแบบนี้เลยการที่มันค่อยๆเล่าเรื่องสลับไปมาแล้วค่อยๆมาบรรจบกันเริ่มจากแกรัลท์กับเยนนิเฟอร์ก่อนแล้วไปจบที่ฉากในป่าตอนสุดท้ายของแกรัลท์กับซิริ การเล่าแบบนี้มันทำให้สามารถเล่าเรื่องแบบ Timeskip ไปยาวๆระหว่างที่ตัดไปเล่าเรื่องของคนอื่นได้ อย่าลืมว่าเรื่องของเยนนิเฟอร์ตอนแรกสุดนี่เกิดก่อนเรื่องของซิริเป็นร้อยปีนะ ไอ้คนขายเนื้อแห่งบลาวิแคนนั่นก็เกิดก่อนยี่สิบกว่าปีเหมือนกัน

เพราะความเป็นมาของสามตัวละครนี้ที่ซีรีส์อยากเล่ามัน*แทบ*ไม่คาบเกี่ยวกันเลยทำให้มันเล่าเรื่องสลับไปมาแบบนี้ได้ เยนนิเฟอร์กับแกรัลท์กว่าจะเชื่อมถึงกันก็ตอนคำสาปของจินน์ส่วนแกรัลท์กับซิรินี่จุดเชื่อมหลักๆก็ตอน Law of Surprise ที่ได้จากการช่วยแก้คำสาปของดูนีย์กับตอนสงครามยึดซิทรา  

ส่วนเรื่องไทม์ไลน์มันมีการเฉลยอยู่ต่อเนื่องเรื่อยๆนะว่าอันไหนก่อนหลัง ที่เห็นชัดๆก็
1)สงครามที่นิล์ฟการ์ดยึดซินทรา ที่ทำให้เห็นเมาซ์แซ็คยังไม่โดนจับ ราชินียังไม่ตาย กษัตริย์ยังไม่ตาย
2)ตอนงานเลี้ยงที่เยนนิเฟอร์แปลงโฉมมาครั้งแรก เจ้าหญิงที่โดนคำสาปให้เป็น Stiga ในเส้นเรื่องของแกรัลท์ยังเป็นเด็กอยู่โดยมีเจ้าชายตอนเด็กยืนอยู่ด้วยกัน