[RE: อายุ 33-35 ปี ฐานเงินเดือน]
ผักกาด พิมพ์ว่า:
Ku_Inw พิมพ์ว่า:
33 แสนกลางๆ(ไม่รวมโบนัส สวัสดิการปลีกย่อย) สำหรับผมถือว่ากลางๆในกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกัน คนที่รับราชการผมไม่ว่าเค้าน้อยกว่านะ เพราะเค้ามาคนล่ะสายกัน เสี่ยงน้อยแต่มั่นคงและงานไม่ได้ต้องเครียดอะไรมาก ก็ถือว่าแลกฐานเงินเดือนกับความมั่นคงและสวัสดิการไป ไม่เอามาคิดค่ากลาง ส่วนสายออฟฟิตเหมือนๆกันผมก็ไม่มากไม่น้อย เป็นระดับที่คนวัยนี้ควรได้ในสังคมของผม คนที่ถือว่าประสบความสำเร็จ 2 แสนกว่าก็มี ส่วนที่ outstanding จริงๆก็ย้ายไปทำงานอเมริกาคนนั้นน่าจะเกินครึ่งล้านถ้าเทียบเป็นเงินไทย แต่คงไม่อยากเอาตัวไปเปรียบกับกลุ่มนั้น เอาเป็นว่าด้วยอายุแบบนี้เงินเดือนเท่านี้ ระดับความเครียดและความรับผิดชอบของงาน ผมโอเคกับฐานนี้ของตัวเอง และคงโอเคไปอีกพักนึง 35 แล้วค่อยหาทางขยับขยายอีกที
ผมว่าข้าราชการงานค่อนข้างหนักและเครียดพอสมควรครับสมัยนี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ส่วนสวัสดิการก็แย่ลงมาก ยิ่งคนจบใหม่ๆ ยิ่งแทบไม่ได้ใช้สวัสดิการ ตัวคนเดียวไม่เบิกค่าเรียนลูก ไม่ป่วย บรรจุครั้งแรกเบิกค่าเช่าบ้านไม่ได้ ไม่มีโบนัส ถ้าบรรจุเร็วๆหน่อยสัก 25 พอ 33 เงินเดือนก็ช่วงไม่เกิน 25k ช่างอนาจใจจริงข้าราชการไทย เป็นแบบนี้ไงถึงให้ทุนเด็กไปเรียนนอกพอจบมาใช้ทุนหมดเขาก็ชิ่งเพราะอยู่เอกชนได้เยอะกว่ามากๆ
ควรปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการไทยใหม่ได้แล้ว จะได้ดึงคนเก่งๆมาทำงานให้รัฐได้มากกว่านี้ ผมเป็นคนนึงในงานรัฐระดับกระทรวงใหญ่ทำงานด้านงานแผนระดับประเทศ เงินเดือนตอนนี้แค่ 21k เองครับ เพื่อนร่วมงานก็เก่งหลายคนจบนอก(รอใช้ทุนหมด) ระดับหัวหน้าก็เก่งระดับนึง แต่คงสู้ทีมฝั่งเอกชนไม่ได้หรอกครับ ถามว่าถ้าผมจะไปอยู่ฝั่งเอกชนได้ใหม คิดว่าคงทำได้เหมือนกัน แต่ทำงานรัฐมันก็มีความสุข ได้ช่วยประเทศ(ถึงแม้จะเบื่อนโยบายทางการเมืองมากกกก)แต่ผมว่าความต่างของเงินระหว่างราชการกับเอกชนมันเยอะไปหน่อย
ผมก็ทำงานหลวง ผมเห็นด้วยกับการปรับโครงสร้าง งด. รัฐ จูงใจ คนเก่งมาทำงาน แต่..ก็ต้อง downsizing องค์กรด้วย ไม่ให้มันใหญ่ขนาดนี้ ไม่งั้นรัฐก็จ่ายไม่ไหว
ส่วนตัวผมว่าระบบ career path ของรัฐแย่มาก ทั้งๆ ที่คนเก่งเดินชนกันให้วุ่น พอนานๆ เข้า ก็สู้คนดิ้นรนฝั่งเอกชนไม่ได้
แต่ทำงานหลวงแล้วผมภูมิใจนะ ผมรู้สึกว่าชีวิตมีค่ามากกว่าเงินแหะ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker