น่าจะไม่เป็นนะ แต่เราไม่ได้อยู่ระดับสูงใกล้เคียงกับเกจิหลายๆท่านก็บอกยากจริงๆว่าแต่ละท่านเป็นยังไงบ้าง

ส่วนตัว นับถือมากนะ คิดว่าอริยะบุคคลแน่นอน
ประสบการณ์ส่วนตัว ป้าผม ป่วยเนื้องอกในสมอง ไปบวชชีพรามหณ์กับท่าน ท่านบอกว่าปีนี้แหละปีถึงฆาต ท่านจะช่วย ต่ออายุแล้วต่อได้ด้วย แต่ก็มีบอกว่าถ้าปี 2546 จะถึงฆาตอีก ถ้าตอนนั้นท่านอยู่ ท่านจะต่อชะตาให้อีก สรุป ท่านมรณภาพก่อนป้าผม และป้าผมจากคนแข็งแรงมากมาย ก็เสียด้วยเนื้องอกในสมอง และที่สำคัญ หมอบอกว่าไม่มีทางที่เนื้องอกในสมอง เกิดขึ้นในเวลาแค่ 1-2 เดือนจะทำให้แกนสมองมันเอียงขนาดนี้ มันต้องป่วยนานมากแล้ว

ผมขอ อธิบายตามที่ผมเข้าใจนะครับ อรหัน อยู่ที่ใจ จะรู้ได้เฉพาะตน และคนที่มี จิตใจในระดับเดียวกันหรือ สูงกว่า ฉะนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรู้ว่าท่านเป็น หรือไม่เป็น ดูที่การปฏิบัติตนของท่าน ว่าทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมหรือไม่ และจุดประสงค์ปลายทาง
ที่ท่านสอน ส่วนตัวผม ปาฏิหาร คือของเล่น ล่อเด็กให้มาศึกษาและปฏิบัติ พระธรรม กรรมฐาน มนุษย์ ถ้าไม่มีของมาล่อ ไม่มีใครอยากละกิเลศ ละความสนุก มาปฏิบัติธรรมหรอกคับ

อยากเอาลิ้งกระทู้เมื่อวานมาแปะ 555 อ่ะแปะ http://www.soccersuck.com/boards/topic/1837528/
แต่ผมก็นับถือนะ อะไรที่คิดว่าดี ทำให้คนรอบตัวสบายใจผมทำหมดอ่ะ

ขอให้เขียนหนังสือสอนคนเข้าทางธรรมหน่อยดิ จึงจะเริ่มเชื่อว่าอรหันต์

อรหันต์ ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง แต่มานั่งพูดเรื่องอิทธิปาฏิหารย์ นี่ไม่ใช่แล้วครับ

คำถามนี้ผมเคยโดนมากับตัว คือ วันนึงเพื่อนฝรั่งมาเที่ยวที่ไทย แล้วผมต้องไปร่วมงานศพคนรู็จักพอดี เค้าก็อยากไปดูพิธีกรรมที่ไทย ผมเลยพาไปด้วย สักพักพอถึงช่วงที่พระเริ่มสวดกุศลาธรรมา บลาๆ ยาวๆ ฝรั่งเค้าก็ถามผมเลยว่า นี่ๆ ที่คุณพูดตามนี่มันแปลว่าไรเหรอ ผมนี่อึ้งเหมือนกัน เพราะเราถูกสอนมาว่า สวดๆไปเถอะ ท่องให้มันถูกตอนสมัยเรียนวิชาพระพุทธศาสนา แต่ถ้าถามว่าแปลว่าอะไร จะมีสักกี่คนที่รู็ว่ามันแปลว่าอะไรบ้าง

ถ้าใครศึกษาพระไตรปิฏกจะรู้ทันทีครับว่า หลวงปู่ฤาษีลิงดำ ไม่ใช่พระอรหันต์แน่นอน
และหนีไม่พ้นนรกด้วยซ้ำ ที่เห็นชัดๆก็ทำเดรัชฉานวิชา (ดูดวง ของขลัง ๆลๆ)
แล้วเรื่องเห็นพระพุทธเจ้านี่ ไม่มีทางเลย เพราะไม่มีทางเห็นผู้ที่นิพพานไปแล้วได้เลย

ตัวอย่างนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่า ยังมีคนที่เข้าใจพุทธศาสนาผิดเยอะมาก
ดังที่พระพุทธเจ้าเคยกล่าวไว้ว่า ผู้ที่ตายแล้วไม่ไปเกิดในนรกนั้น เท่ากับเศษดินที่ปลายเล็บ เมื่อเทียบกับดินทั้งปฐภี

ถ้าเรายังไม่รู้ด้วยตัวเอง ขอแนะนำว่า อย่าไปกล่าวตู่หรือพูดไปในทางลบเลย อยู่เฉยๆยังจะดีกว่าอีก ไฟมีคุณมหันต์แต่ก็มีโทษอนันต์ ไม่อยากให้เวลาละจากภพนี้ไปแล้วไฟจะลวกปากเอาสิครับ

ไม่ต้องมองที่อื่นใด
เอาแค่การเบื่อหน่ายคลายกำหนัด
ละกิเลสอย่างหมดจด
มีใครเคยเห็นมั้ยครับ
แล้วเชื่อมั้ยว่าสมณะที่บรรลุอรหันต์มีจริง

ลองถามใจตัวเองกับเรื่องนี้ก่อน

การเหาะเหินเดินอากาศ
การมีหูทิพย์ตาทิพย์ การกำหนดรู้ใจผู้อื่น
และการเห็นอนาคต ยังไม่น่าอัศจรรย์เท่า
การเป็นผู้หมดจดจากตัณหาอุปาทาน
ไม่ถูกกิเลสครอบงำใดๆ

มาเตือนสติครับ

ด่าถูกได้แค่เท่าทุนไม่ได้อะไรเลย

ด่าผิดตำหนิผิดขาดทุนยับเยิน

สงสัยได้เต็มที่เลยครับ สงสัยแล้วอย่าลืมลองทำตามที่ท่านสอนด้วยนะเพื่อพิสูจน์

ระวังอย่างเดียวเรื่องการตำหนิหรือปรามาสในใจไว้กันพลาดครับ
เพราะเราไม่รู้ครับว่าท่านสำเร็จถึงจุดไหนแล้ว มีทางเดียวที่จะรู้คือปฏิบัติไปถึงจุดเดียวกับท่าน
คนจิตใจระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงจะมองกันออกครับ

คุณอย่าเพิ่งด่วนตัดสินหากเรายังไม่รู้เห็นจริงหรือรู้เพียงท่องตำราครับ
อันตรายมากๆ

วิชชาที่ทำให้เป็นอริยะ หายไปตั้งแต่ พ.ศ. 500 แล้ว
นั่นคือหลัง พ.ศ. 500 จะไม่มีแม้แต่พระโสดาบันด้วยซ้ำ

ส่วนหลวงปู่ ตอนนี้คงเป็นเทวดาอยู่มั้ง

เห็นด้วยมากๆครับ
ไม่คุ้มเลย
คนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ก็ลำบากหน่อย

ขอบคุณที่เตือนสติครับ ผมไม่ควรตำหนิผู้อื่น

ขออนุญาติแชร์ความเห็นผมจากที่ได้ศึกษาบวชเรียนมาบ้างนะครับ หลักๆแล้วพระ หลวงปู่หลวงพ่อที่ดังๆในบ้านเรา ผมจะแบ่งเป็น 2 สายครับ
1. สายพาเข้านิพพาน - สายนี้ท่านจะพาปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธองค์แตกต่างกันไปตามที่แต่ละท่านถนัด เพื่อมุ่งเน้นให้คนเข้านิพพาน คือ ออกจากวัฏฏะ ไม่กลับมาเกิดอีก ปฏิบัติตามมรรคมีองค์ 8 หรือบางท่านก็พาฝึกสติปัฐฐาน 4 หรือสายหลวงปู่มั่น ก็คือ เน้นปฏิบัติ พาเข้านิพพาน
2. สายพระโพธิสัตว์ - สายนี้ท่านจะเน้นสร้างบารมีเพื่อที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าสักวันหนึ่งข้างหน้า เน้นช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก เน้นสร้างพระ สร้างวัดวาอารามเพื่อสืบทอดพุทธศาสนา เกจิ ปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่างๆเพื่อนำเงินที่ฆราวาสทำบุญไปสร้างประโยชน์ เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ พระที่ปฏิบัติมาถึงจุดหนึ่งท่านจะรู้ตัวเองว่า ท่านคือ สายไหน ทำบุญทำกรรมอะไรมา เกิดตายมาแล้วกี่ชาติ อย่างหลวงปู่มั่น หรือหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำเนี่ย อ้างอิงตามคำที่ท่านบอกเป็น สายพระโพธิสัตว์มาก่อน อย่างหลวงปู่มั่นท่านว่าท่านบำเพ็ญสายโพธิสัตว์มาจนเบื่อหน่ายมากๆแล้ว ท่านจึงละ ขอออกจากพุทธภูมิเพื่อเข้านิพพานครับ