สำหรับคนชั่วที่มีความคิดเรื่องนี้อยู่ ผมว่ามีส่วนมากเลยครับ ไม่ได้บอกว่าจะแต่งตัวแบบไหนคุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปข่มขืนใคร แต่พูดถึงคนชั่วที่มีความคิดแบบนี้ครับ แน่นอนว่าแต่งตัวมิดชิดแค่ไหนมันก็ทำได้ แต่ถ้ายิ่งแต่งตัวโป๊ และอยู่ในที่อโคจร ผมว่ายิ่งกระตุ้นพวกมันได้เลย

แล้วข้างล่างนี่คืออะไร?









หลายสิบคอมเมนท์ที่ผ่านมา คุณพยายามเหลือเกินที่จะทำให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายผิดให้ได้

วรรค (1) เปิดมาบรรทัดแรกคุณก็ blame เหยื่อด้วยการบอกว่าผู้หญิงผิดเองที่แต่งตัวโป๊จนผู้ชายเกิดอารมณ์

ถามจริง? ผู้ชายควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วดันโบ้ยให้เป็นความผิดผู้หญิงเนี่ยนะ?

และในวรรค (1) ที่คุณบอกว่าผู้หญิงผิดเอง เพราะการแต่งตัวโป๊ทำให้ผู้ชายคิดว่าง่ายนี่แย่นะ

ทุกวันนี้เรา judge ผู้หญิงที่แต่งตัวโป๊ว่าง่ายเหรอครับ?

ผู้หญิงที่ง่ายก็สมควรแล้วที่จะถูกข่มขืนเหรอ?

หรือความจริงเธอจะง่ายหรือไม่ง่ายก็ช่าง แต่ถ้า Rapist มองเธอแล้วรู้สึกว่าง่ายมันก็ถือว่าเป็นความผิดเธอเหรอ?



วรรค (2) นี่ยิ่งบ้าบอไปกันใหญ่

ต่อให้เขาแต่งตัวระวังคุณก็ยังไม่พอใจ และโยนความผิดไปให้ผู้หญิงที่ดันมาทำผู้ชายเกิดอารมณ์อยู่ดี

งั้นถ้าผู้หญิงคนนึงมีหน้าอกโตจนทำให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ งั้นเธอก็คงมีทางเลือกแค่ต้องอยู่ในบ้านอย่างเดียวสินะครับ?

เพราะถ้าเธอเดินออกมาแล้วถูกข่มขืนมันก็จะเป็นความผิดจากหน้าอกโตๆ ของเธอที่ดันไปทำให้ผู้ชา่ยเกิดอารมณ์?

งั้นเหยื่อข่มขืนทุกคนในโลกนี้ก็ผิดเองสินะครับที่ดันเกิดมาเป็นผู้หญิงแล้วไปทำให้ Rapist เกิดอารมณ์?

นี่แสดงว่าแค่เกิดมาเป็นผู้หญิงก็ผิดแล้วใช่มั้ยครับ?

ตรรกะอะไรของคุณ เขาอยู่ของเขาดีๆ แล้วผู้ชายดันมาเกิดอารมณ์เอง แต่กลับกลายเป็นผู้หญิงผิด?

แล้วตกลงผู้หญิงต้องทำยังไงครับ? กรีดหน้าให้เละ? ตัดนมทิ้ง? ต้องตายก่อน? Rapist ถึงจะไม่เกิดอารมณ์?



วรรค (3) เห็นถามย้ำหลายครั้ง เพราะงั้นผมจะตอบให้ชัดๆ

การข่มขืนทุกครั้ง ความผิดอยู่ที่ผู้กระทำ 100% ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

ต่อให้การแต่งตัวโป๊จะเพิ่มโอกาสการถูกข่มขืนแบบที่คุณเชื่อ (ซึ่งไม่จริง แต่เดี๋ยวค่อยว่ากัน) มันก็ยังเป็นความผิดของ Rapist 100% อยู่ดี

ผู้ชายถือสิทธิ์อะไรมาบอกให้ผู้หญิงต้องแต่งตัวแบบนั้นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ผู้หญิงไม่มีหน้าที่ต้องมาแต่งตัวให้จู๋ผู้ชายไม่โด่

ความรับผิดชอบที่จะไม่ข่มขืนมันอยู่ที่ตัวผู้กระทำต่างหาก ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็ควรไปตัดจู๋ตัวเองทิ้ง

ไม่ใช่มาสั่งให้ผู้หญิงต้องแต่งตัวแบบนั้นแบบนี้ แล้วขู่ว่าถ้าใครไม่ทำแล้วโดนข่มขืนก็ถือว่าผิดเอง

วิธีคิดแบบนี้มันเป็นวิธีคิดแบบชายเป็นใหญ่และ Toxic


ส่วนเรื่องการแต่งตัวมีผลกับการข่มขืนหรือไม่ มันมีงานวิจัยมากมายที่บอกว่ามันไม่เกี่ยวกัน (ซึ่งผมแปลกใจว่าทำไมคุณถึงเลือกจะมาถาม "ความเห็น" จากคนในนี้ แทนที่จะเข้า Google เพื่อหา Fact)

https://www.independent.co.uk/voices/modest-clothing-mayim-bialik-harvey-weinstein-sexual-harassment-muslim-women-a8004501.html

https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/0887302X9601400407?journalCode=ctra


และอีกมากมาย ผมเชื่อว่าคุณหาเองได้ (และเม้นก่อนๆ หน้าเขาก็มีให้ข้อมูลมากันบ้างแล้วน่ะ แต่คุณพร้อมจะรับ แล้วทำลายความเชื่อเดิมๆ ของตัวเองรึเปล่าล่ะ?)

หรือคุณจะคิดเบื้องต้นดูเอาเองก่อนเลยก็ได้ว่า ถ้าการแต่งตัวโป๊มันจะไปเพิ่มโอกาสในการโดนข่มขืนจริง

ถ้าอย่างงั้นเหยื่อส่วนใหญ่ก็น่าจะต้องเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวโป๊ (เพราะมันไปเพิ่มความเสี่ยงให้เขาเป็นเหยื่อมากกว่า)

คุณก็ไปเช็คข้อมูลเอาละกัน ว่าเหยื่อส่วนใหญ่คือคนที่แต่งตัวโป๊รึเปล่า


และผมย้ำอีกครั้ง ต่อให้คุณจะไปขวานหา 1% ของ Rapist ที่ข่มขืนผู้หญิงเพราะการแต่งตัวมาได้

หรือต่อให้คุณอยู่ในโลกคู่ขนานที่ Rapist ข่มขืนคนจากการแต่งตัว

ยังไงความผิดก็ยังอยู่ที่ Rapist 100% แบบไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น



และสุดท้าย

เตือน = พูดก่อนเหตุการณ์จะเกิด เพื่อไม่ให้เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น
เช่น คุณโดนแคชเชียร์โกงตังค์ทอน เลยมาบอกเพื่อนให้ระวัง

ติ = พูดหลังเหตุการณ์ เพื่อชี้ว่าเหยื่อทำผิด
เช่น เพื่อนคุณโดนข่มขืน คุณเลยบอกเพื่อนว่า ก็เธอแต่งตัวโป๊ผู้ชายมันก็มีอารมณ์สิ ช่วยไม่ได้หรอก


จะเตือนก็ทำไปเหอะ แต่ตินี่มีแต่จะทำให้เหยื่อรู้สึกแย่กว่าเดิม

ถูก rape ทางกายไปรอบแล้ว ยังต้องมาโดนสังคม rape ซ้ำอีก

ใช้ชีวิตต่อไปก็ลำบาก เพราะโดนตราหน้าไปแล้วว่า "ง่าย" หรือ "ทำตัวเอง"

คนเดียวที่จะได้ประโยชน์จากการติคือ Rapist น่ะ

รู้อย่างงี้แล้วคุณจะพยายาม "ติ" ไปเพื่ออะไรครับ?

1. สังคมแย่ๆและธรรมชาติของคนบังคับยาก ทั้งคนบ้า คนติดยา คนโรคจิตที่ไม่ยอมรักษา ถึงแย่และผิดแต่ต้องยอมรับว่ามีอยู่จริงใช่ไหมครับ ถ้าไม่ระวังโอกาสโดนก็มากขึ้นใช่ไหมครับ

ไม่เคยบอกว่าผญผิดเองแล้วคนร้ายไม่ผิดครับ ในสังคมคนไทยผมเชื่อว่าถ้าไม่รู้จักกันก็ยังมีคนมองว่าคนแต่งตัวโป๊ง่ายกว่าคนแต่งตัวเรียบร้อย ถ้าคนร้ายมองว่าง่ายกว่าโอกาสโดนก็มากขึ้น ถึงไม่ดีแต่ยังเป็นความจริงใช่ไหมครับ

2. ผมบอกเสมอว่าพูดเรื่องโอกาสและความเสี่ยงครับไม่ใช่วิธีตัดให้เป็น 0
ไม่ว่าผญหน้าอกใหญ่หรือเล็กแต่งตัวโป๊ โอกาสจะทำให้เกิดอารมณ์เกิดความตื่นเต้นก็เยอะขึ้นใช่ไหมครับ

3. เรื่องของกม. มันผิดที่คนร้าย 100% ไม่มีข้ออ้างให้ลดโทษได้อยู่แล้วครับ

เราไม่มีสิทธิกำหนดเรื่องการแต่งตัว แต่ปัจจุบันก็ยังมีผู้ปกครองที่สั่งให้ลูกหลานผู้หญิงแต่งตัวให้มิดชิดก่อนออกจากบ้านด้วยความเป็นห่วง หรือผญต้องแอบออกไปเองใช่ไหมครับ หรือว่าเขาควรปล่อยไปเลยไม่ควรยุ่ง

4. ผมมาถามความเห็นเพราะผมก็ไม่รู้แต่เชื่อว่าคนคิดต่างกัน และมีแค่ 12% ที่มองว่าการแต่งตัวไม่มีส่วนเลย ซึ่งลิงค์ข้อมูลที่หาใน google ได้ไม่ได้มีเหตุผลแบบนั้นโดยเฉพาะกับคนไทยที่ไม่ชินเหมือนฝรั่งครับ ผลลัพก็ออกมาต่างกันอย่างที่เห็น แสดงว่าถึงจะไม่ถูกต้องแต่ก็ยังมีคนเชื่อว่าการแต่งตัวมีส่วนกับการข่มขืนอยู่ใช่ไหมครับ

5.ผมบอกตลอดครับว่าโอกาสโดนมีอยู่แล้วและไม่เกี่ยวกับเรื่องสิทธิหรือกม. เพราะฉะนั้นไม่เกี่ยวว่าเหยื่อส่วนใหญ่แต่งตัวเป็นยังไง แต่คนที่แต่งตัวโป๊แล้วโดนข่มขืนมันก็มีใช่ไหมครับไม่ว่าเหตุผลคืออะไร และในการพิสูจน์อาจทำให้เชื่อยากขึ้นด้วยรึปล่าวว่าไม่ได้เป็นการยินยอมแม้จะเสี้ยวเดียว

6. ผมคิดว่าการติก็มาคู่กับเตือนรึปล่าวครับ ทำเพื่อให้คนนั้นระวังตัวมากขึ้นครับ เช่น กรณีดุเตือนหรือติผญที่กำลังจะออกจากบ้านให้แต่งตัวระวังกว่านี้ หรือกรณีที่เกือบจะถูกข่มขืนแต่รอดมาได้ก็ดุและติเพื่อให้ระวังอยากแต่งตัวแบบนี้ ไปที่นี่เวลานี้กับคนแบบนี้อีก

เห็นด้วยครับว่าถ้าโดนไปแล้วก็ไม่ควรซ้ำเติม แต่เราควรจะบอกลูกหลายของเราให้ระวังกว่านี้และดูไว้เป็นตัวอย่างได้ใช่ไหมครับ


ขอบคุณมากครับที่มาช่วยแสดงความคิดเห็น

คุยอะไรกันยาวๆขี้เกียจอ่าน เข้ามาเบรคใจเย็นๆรักกันๆ