BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status: Must keep going
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 963
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:30
เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี
เรื่องเล่า....

จะขอเล่าเรื่อง ของเด็กเกาหลี 2 พี่น้อง( พี่สาว กับ น้องชาย ) ที่เกิดมา ในตระกูลคนยากจน แบบสุดๆ แต่พี่น้องสองคนนี้ กลับกลายเป็น ผู้สร้างประวัติศาสตร์ ให้กับประเทศเกาหลี เขาชื่อ ลี เบียงชอล ครับ อาจยาวหน่อย
แต่มีเรื่องให้แง่คิดหลายอย่าง

สวัสดี ฉันเกิด ในหมู่บ้านบนภูเขา ที่ห่างไกลผู้คน
แต่ละวัน พ่อแม่ของฉัน ต้องพรวนดินในไร่ ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ

ฉันมีน้องชาย อยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี
วันหนึ่ง ฉันขโมยเงินของพ่อ เพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้า ที่เพื่อนๆ ของฉันมีกัน จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง
พ่อให้ฉันกับน้อง คุกเข่าหันหน้า เข้าหากำแพง
โดยที่ในมือพ่อ มีก้านไม่ไผ่ อยู่หนึ่งก้าน

'ใครขโมยเงินไป' พ่อตวาด ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉัน ก็เช่นกัน พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า
" ก็ได้ ในเมื่อไม่มี คนรับสารภาพ ก็ต้องโดนลงโทษ ทั้งคู่นั่นล่ะ " พ่อชูก้านไม้ไผ่ ในมือขึ้น

ทันใดนั้น น้องชายของฉัน ก็ลุกขึ้นคว้า ข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า
" ผมขโมยเองครับ "

ก้านไม้ไผ่ก้านนั้น ได้กระหน่ำลง บนหลังของน้อง ของฉันอย่างต่อเนื่อง
พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉัน ไม่หยุด จนพ่อหอบ ด้วยความเหนื่อย พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ และด่าว่า น้องชายของฉัน
" ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ ต่อไปแกจะทำชั่ว อะไรอีก แกน่าจะโดนตีให้ตาย หัวขโมย "

คืนนั้น ฉันกับแม่ กอดน้องชายของฉันไว้. หลังของน้อง มีแผลเต็มไปหมด
แต่เขาไม่ได้ ร้องไห้แม้แต่น้อย
กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก น้องเอามือเล็กๆ ของเขา มาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า
" พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะ มันผ่านไปแล้ว " แต่ถึงยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้ที่ไม่มีความกล้า จะบอกความจริงกับพ่อ

หลายปีผ่านไป
แต่เหมือนกับว่า เหตุการณ์มันเพิ่งเกิด เมื่อวานนี้เอง
ฉันไม่อาจลืมคำพูด ของน้องชาย ตอนที่เขาปกป้องฉัน ได้เลย ตอนนั้น น้องของฉันอายุ 8 ปี ส่วนฉันอายุ 11ปี...

เมื่อตอนที่ น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน
ม.ปลาย ว่า เขาสอบได้ ในขณะที่ฉันใกล้จบ ม.ปลาย
ก็ได้รับการตอบรับ จากมหาวิทยาลัย ของจังหวัดเช่นกัน

คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่ อยู่ที่สวนหลังบ้าน ฉันแอบได้ยิน พ่อพูดว่า

" ลูกเราทั้งคู่เรียนดีมากนะ "
แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตา อยู่ข้างๆ พ่อ และพูดขึ้นว่า

" แล้วเราจะส่งเสีย ลูกทั้งคู่ได้อย่างไร ในเมื่อเรา ก็ไม่ค่อยมีเงิน "

ทันใดนั้น น้องชายของฉัน ได้เดินเข้าไปหาพ่อแล้วพูดว่า

" ผมไม่ต้องการ เรียนต่อผมอ่านหนังสือ มามากพอแล้ว "

พ่อเหวี่ยงมือ ตบลงที่แก้ม ของน้องของฉัน ฉาดใหญ่

" ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้
ต่อให้พ่อ ต้องไปเป็นขอทาน ข้างถนน พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่ เรียนจนจบให้ได้ "

คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไป ตามบ้านต่างๆทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน

ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า ต้องให้น้อง ได้เรียนต่อ ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่อาจหลุดพ้น ชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ไม่อาจ ล้มเลิกความคิด อยากจะเรียนต่อไปได้

ใครจะรู้ได้ .......
วันต่อมา ในตอนเช้ามืด
น้องชายของฉัน ได้ออกจากบ้านไป พร้อมทั้งเสื้อผ้า ติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น และถั่ว เพียงเล็กน้อย เพื่อประทังความหิว ก่อนไป เขาได้ทิ้งข้อความ ไว้ใต้หมอนของฉัน ขณะฉันกำลังหลับ

' พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ....ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่'

ฉันนั่งอยู่บนเตียง อ่านข้อความ ของน้องชาย ด้วยน้ำตานองหน้า .......ฉันร้องไห้ จนเสียงแหบแห้งไป ตอนนั้น น้องของฉันอายุ 17 ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี .....

ด้วยเงินที่พ่อ ยืมมาจากคนในหมู่บ้าน รวมกับเงิน ที่น้องชายของฉัน ได้รับเป็นค่าจ้าง มาจากการทำงาน เป็นกรรมกรแบกหาม ที่ไซต์ก่อสร้างท่าเรือ ......
ฉันจึงสามารถ เข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ จนถึงปี 3

วันหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสือ อยู่ในห้องพัก
เพื่อนร่วมห้องของฉัน ได้เข้ามาบอกว่า

'มีชาวบ้าน มาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ'

ทำไมชาวบ้าน ถึงมาหาฉันล่ะ ???

ฉันเดินออกไป แล้วมองเห็นน้องชาย ของฉันยืนอยู่
ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูน และทราย จากงานก่อสร้าง ฉันถามเขาว่า

'ทำไมไม่บอก เพื่อนพี่ไปว่า เป็นน้องชายพี่ล่ะ'

น้องชายของฉัน ตอบยิ้มๆ ว่า

'ก็ดูผมสิ สกปรกมอมแมม ออกอย่างนี้...ขืนบอกว่า เป็นน้องพี่ เพื่อนๆ ก็ได้หัวเราะเยาะพี่ กันพอดี'

ฉันค่อยๆ เอื้ อมมืออันสั่นเทา ไปปัดฝุ่นให้น้อง
และพยายามพูด แต่ด้วยเสียงเครือๆ ในลำคอ

' พี่ไม่สนใจว่า ใครจะพูดยังไง
เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดู เป็นอย่างไรก็ตาม'

จากนั้น น้องของฉัน ได้ล้วงบางอย่างออกมา จากกระเป๋ากางเกง
เป็นกิ๊บหนีบผม รูปผีเสื้อ เขาติดกิ๊บให้ฉัน แล้วพูดว่า

'ผมเห็นสาวๆ ในเมือง เค้าติดกัน ผมเลยอยากให้ พี่ติดบ้าง'

ฉันหมดเรี่ยวแรง ลงในทันใด ดึงน้องชาย เข้ามาสวมกอด และร้องไห้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นเวลานาน
ตอนนั้น น้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี

วันที่ฉัน พาแฟนหนุ่มของฉัน มาที่บ้านเป็นครั้งแรก
ฉันสังเกตเห็นว่า หน้าต่างบ้าน ที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อม เรียบร้อยแล้ว

เมื่อเข้าไปในบ้าน ก็เห็นว่า บ้านสะอาดขึ้นมาก
หลังจากที่แฟนของฉัน กลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า

'แม่ไม่ต้องเสียเงิน เพื่อทำความสะอาดบ้าน กับซ่อมกระจก เพียงเพราะหนู จะพาแฟน มาที่บ้านหรอกนะคะ'

แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า

' แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก
วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็ว เพื่อกลับมา ทำความสะอาดบ้าน ลูกยังไม่เห็น มือน้องหรอกเหรอ น้องโดนกระจกบาด ตอนกำลังเปลี่ยน กระจกบานใหม่น่ะ'

ฉันรีบเข้าไปหาน้อง ที่ห้องนอนของเขา ฉันรู้สึกเหมือน ถูกเข็มนับร้อยเล่ม ทิ่มลงกลางใจ เมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ ฉันจับมือน้องเอาไว้ อย่างเบามือที่สุด
'เจ็บมากไหม'
ฉันถาม

'ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ
มีหินตกมาใส่เท้าผม เต็มไปหมด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผม คิดเลิกทำงานหรอกนะ และ...'

น้องชายของฉัน ยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด เพราะฉันหันหน้าหนีเขาน้ำตาไหล อาบหน้าของฉัน อีกครั้ง

'เพราะพี่ เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ' ตอนนั้น น้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี...

หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงาน และย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง

หลายครั้ง ที่สามีของฉัน ชักชวนให้พ่อแม่ของฉัน ย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง ด้วยกัน...

แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ ท่านบอกว่า ท่านเคยย้าย ออกจากหมู่บ้าน ครั้งหนึ่ง แต่เมื่อออกไปแล้ว ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี
จึงได้ย้ายกลับเข้ามา ใช้ชีวิตในหมู่บ้าน ตามเดิม

น้องชายของฉัน ก็ไม่เห็นด้วย กับการที่จะให้เขา และพ่อแม่ย้ายออกไป ...เขาบอกกับฉันว่า

'พี่คอยอยู่ดูแล พ่อและแม่ของสามีพี่ ทางนั้นเถอะ ผมจะดูแลพ่อและแม่ ทางนี้เอง'

สามีฉัน ได้ขึ้นเป็นประธาน ของบริษัทของ ครอบครัว
เราทั้งคู่ อยากให้น้องชายของฉัน เข้ามารับตำแหน่ง ผู้จัดการบริษัท แต่น้องชายของฉัน ก็ไม่รับตำแหน่งนี้
เขาขอเข้าทำงาน ในตำแหน่ง พนักงานธรรมดา

วันหนึ่ง น้องชายของฉัน ต้องปีนบันได ขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล และตกลงมา เพราะโดนไฟดูดเขาถูกรีบหาม ส่งโรงพยาบาล

ฉันและสามี รีบไปเยี่ยมเขา ที่โรงพยาบาล น้องชายของฉัน ขาหัก ต้องเข้าเฝือกที่ขา
... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า

' ทำไมถึงไม่ยอม รับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!!
ถ้าเป็นผู้จัดการ ก็จะได้ไม่ต้อง มาทำงานเสี่ยงๆ อย่างนี้ ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึง ไม่ยอมฟังพี่บ้าง'

คำตอบจากปาก น้องของฉัน รวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด ยังยืนยัน ความคิดเดิมของเขา

'พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขย เพิ่งจะได้เป็นประธาน
ส่วนผม มันการศึกษาต่ำ ถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ
คงจะมีเสียง นินทาว่าร้าย เต็มไปหมด'

น้ำตาปริ่มดวงตาของฉัน รวมทั้งสามีของฉันด้วย .....ฉันบอกกับน้องว่า

'แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อ ก็เพราะพี่...'

'ทำไมต้องพูด ถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ด้วยล่ะครับ'
น้องชายของฉัน จับมือฉันไว้
ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี...

เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี เขาได้แต่งงาน กับผู้หญิงในที่ทำงานเดียวกัน
ในงานแต่งงาน ประธานในงาน ได้ถามน้องชายของฉัน ว่า

' ใครคือคนที่คุณ รักที่สุดในชีวิตนี้'

น้องชายของฉัน ตอบอย่างไม่ลังเล

" พี่สาวของผมครับ " .....

และเขาก็เล่าเรื่องราว ที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้

'ตอนผมอยู่ โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีก หมู่บ้านหนึ่ง. เราสองคนพี่น้อง ต้องใช้เวลาถึง 2 ชม.
เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน วันหนึ่ง หิมะตกหนัก ผมทำถุงมือหาย ไปข้างหนึ่ง พี่สาวผม จึงได้ให้ถุงมือของเธอ ข้างหนึ่ง และเธอ ก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียว เดินเป็นระยะทางไกล เมื่อเรากลับถึงบ้าน มือเธอบวมแดง เพราะอากาศหนาว
เธอไม่สามารถ จับช้อนทานข้าวได้ ด้วยซ้ำ .......นับจากวันนั้น
ผมสาบานกับตัวเองว่า ตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแล พี่สาวของผมให้ดี และจะทำดีกับเธอ'

เสียงปรบมือ ดังกึกก้องไปทั่ว สายตาทุกคู่ ของแขกเหรื่อ หันมาจับจ้องที่ฉัน
คำพูดจากปากฉัน ออกมาอย่าง ยากลำบาก .......

'ในโลกใบนี้ คนเดียวที่ฉัน รู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ'

ในวาระ ที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ น้ำตาได้รินไหล ออกมาจากสองตาของฉัน อีกครั้ง...

จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วัน ในชีวิตของคุณและเขา. คุณอาจจะคิดว่า สิ่งที่คุณทำให้ใครสักคน เป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่สำหรับคนคนนั้น อาจจะมีความหมายมาก อย่างคาดไม่ถึง .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน หรือแม้คนที่ คุณไม่รู้จัก ก็ตาม

.....จบบริบูรณ์....

ปล. ปัจจุบัน ผู้เป็นพี่สาวอายุ 86 ปี ดำรงตำแหน่งเป็น ผู้บริหารใหญ่บริษัทฮุนได และบริษัทในเครือ กว่า 20 บริษัท

น้องชาย อายุ 83 ปี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ที่มีชื่อ เป็นภาษาเกาหลีว่า

" ซัมซุง "


 
13
1
หากโดน 39 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
เพื่อวันข้างหน้าและเพื่อคนที่อยู่ข้างหลัง



ออนไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: ไม่ได้มากมายเลย !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 44373
ที่อยู่: เกาะแคนดี้
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:44
Top Comment [RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยครับ

ซาบซึ้ง ??

เปล่าแม่มแต่งเรื่องมาหลอกกุ ของจริงผู้ก่อตั้งซัมซุงไม่ได้จน

แถมได้ไปเรียนต่อมหาลัยอยู่ที่ญี่ปุ่น




http://hoamprize.samsungfoundation.org/eng/main/main.asp
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 17683
ที่อยู่: Anfeild
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:55
Top Comment [RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
เรื่องเล่าจาก ไทยแลนด์ สู่ โคเรีย ของผมครับ ก๊อบมาจากในเน็ต

อ้างอิงจาก:
เขาทราย แกแล็คซี่ (อังกฤษ: Khaosai Galaxy) เป็นอดีตนักมวยแชมเปี้ยนโลกชาวไทย รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์) ของ สมาคมมวยโลก (WBA) เป็นแชมป์โลกคนที่ 9 ของไทย มีชื่อจริงว่า สุระ แสนคำ ได้รับฉายาว่า "ซ้ายทะลวงไส้" นอกจากนี้แล้ว เขาทรายยังมีพี่ชายฝาแฝด ซึ่งเป็น อดีตแชมป์โลกเช่นเดียวกันคือ เขาค้อ แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวท WBA โดยมีระยะเวลาที่เป็นแชมป์โลกคู่กัน ซึ่งทำให้นับเป็นแชมป์โลกคู่แฝดรายแรกของโลกอีกด้วย

หลังครองตำแหน่งเขาทรายสามารถป้องกันตำแหน่งได้ถึง 19 ครั้งติดต่อกัน นับเป็นสถิติโลกสูงสุด ในรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวทถึงปัจจุบัน และเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 3 ในการป้องกันแชมป์โลกทุกรุ่นในขณะนั้น มีสถิติป้องกันตำแหน่งโดยชนะน็อค 16 ครั้ง ชนะคะแนนเพียง 3 ครั้ง และได้ประกาศแขวนนวมในฐานะ แชมป์โลกผู้ไม่เคยแพ้ใคร ตลอดระยะเวลาที่ครองตำแหน่ง 2,628 วัน หรือ 7 ปี 2 เดือน 30 วัน

ในปี พ.ศ. 2542 เขาทรายได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ "World Boxing Hall of Fame" จากสมาคมมวยโลก โดยได้รับการบรรจุชื่อในหอเกียรติยศนักมวยโลก ณ เมืองคานาสโตต้า รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยสถิติการชก 50 ครั้ง ชนะ 49 ครั้ง โดยชนะน็อคถึง 43 ครั้ง คิดเป็นสถิติชนะด้วยการน็อคเอ้าท์ถึง ร้อยละ 87.75 และเคยแพ้คะแนนเพียงครั้งเดียว การชนะน็อคถึง 43 ครั้ง ยังนับเป็นสถิติโลกสูงสุด ในรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (ซูเปอร์ฟลายเวท) จนถึงปัจจุบันอีกด้วย

จะมีใครสักกี่คนในประเทศไทยที่จะรู้ความจริงว่าเขาคนนี้ เขาทราย แกแล็คซี่ สุดยอดมวยแชมป์เปี้ยนโลกชาวไทยมีพี่น้องฝาแฝด 3 คน ความจริงข้อนี้แม้แต่เขาทรายเองก็ยังไม่เคยเปิดเผยให้ใครทราบ

เดิมทีเราเข้าใจว่า เขาทรายแกแล็คซี่มีพี่น้องฝาแฝดสองคนคือ เขาทราย กับ เขาค้อ แต่แท้ที่จริงบแล้วพบว่าน้องคนสุดท้องของเขาทรายถูกนำไปเลี้ยงที่เกาหลีตั้งแต่ยังเล็กๆ จนสุดท้ายน้องคนเล็กอดทนรอไม่ไหวจึงตั้งโต๊ะแถลงข่าวและประกาศต่อสาธารณชนให้ได้รู้ทั่วกันว่าตัวเขาคือน้องของเขาทราย แกแล็คซี่ แชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ของชาวไทย

เขามีชื่อว่า "ซัมซุง แกแล็คซี่ "  


ไอสาด
10
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: 21.30 - 04.00
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Nov 2006
ตอบ: 11444
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:41
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: ไม่ได้มากมายเลย !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 44373
ที่อยู่: เกาะแคนดี้
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:44
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยครับ

ซาบซึ้ง ??

เปล่าแม่มแต่งเรื่องมาหลอกกุ ของจริงผู้ก่อตั้งซัมซุงไม่ได้จน

แถมได้ไปเรียนต่อมหาลัยอยู่ที่ญี่ปุ่น




http://hoamprize.samsungfoundation.org/eng/main/main.asp
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Feb 2009
ตอบ: 10602
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:45
ถูกแบนแล้ว
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
บทความซึ้งมากครับ ขอบคุณ จขกทครับ

Spoil
ไม่ได้ตั้งใจจะขัดนะครับ แต่มันอาจเป็นเรื่องแต่งหรือเปล่า

เข้าไปหาข้อมูล Lee Byung-chul ตายไปแล้วครับเมื่อ 1987 อายุ 77 ปี

มาจากครอบครัวบ้านรวย เรียนมหาลัย แต่เรียนไม่จบ
https://en.wikipedia.org/wiki/Lee_Byung-chul  
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ตำนาน Hall OF Frame
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 12554
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:51
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
เรื่องของเกาหลี แต่คนไทยแต่ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
อย่าตามกูกูหลง
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 17683
ที่อยู่: Anfeild
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:55
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
เรื่องเล่าจาก ไทยแลนด์ สู่ โคเรีย ของผมครับ ก๊อบมาจากในเน็ต

อ้างอิงจาก:
เขาทราย แกแล็คซี่ (อังกฤษ: Khaosai Galaxy) เป็นอดีตนักมวยแชมเปี้ยนโลกชาวไทย รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์) ของ สมาคมมวยโลก (WBA) เป็นแชมป์โลกคนที่ 9 ของไทย มีชื่อจริงว่า สุระ แสนคำ ได้รับฉายาว่า "ซ้ายทะลวงไส้" นอกจากนี้แล้ว เขาทรายยังมีพี่ชายฝาแฝด ซึ่งเป็น อดีตแชมป์โลกเช่นเดียวกันคือ เขาค้อ แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวท WBA โดยมีระยะเวลาที่เป็นแชมป์โลกคู่กัน ซึ่งทำให้นับเป็นแชมป์โลกคู่แฝดรายแรกของโลกอีกด้วย

หลังครองตำแหน่งเขาทรายสามารถป้องกันตำแหน่งได้ถึง 19 ครั้งติดต่อกัน นับเป็นสถิติโลกสูงสุด ในรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวทถึงปัจจุบัน และเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 3 ในการป้องกันแชมป์โลกทุกรุ่นในขณะนั้น มีสถิติป้องกันตำแหน่งโดยชนะน็อค 16 ครั้ง ชนะคะแนนเพียง 3 ครั้ง และได้ประกาศแขวนนวมในฐานะ แชมป์โลกผู้ไม่เคยแพ้ใคร ตลอดระยะเวลาที่ครองตำแหน่ง 2,628 วัน หรือ 7 ปี 2 เดือน 30 วัน

ในปี พ.ศ. 2542 เขาทรายได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ "World Boxing Hall of Fame" จากสมาคมมวยโลก โดยได้รับการบรรจุชื่อในหอเกียรติยศนักมวยโลก ณ เมืองคานาสโตต้า รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยสถิติการชก 50 ครั้ง ชนะ 49 ครั้ง โดยชนะน็อคถึง 43 ครั้ง คิดเป็นสถิติชนะด้วยการน็อคเอ้าท์ถึง ร้อยละ 87.75 และเคยแพ้คะแนนเพียงครั้งเดียว การชนะน็อคถึง 43 ครั้ง ยังนับเป็นสถิติโลกสูงสุด ในรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (ซูเปอร์ฟลายเวท) จนถึงปัจจุบันอีกด้วย

จะมีใครสักกี่คนในประเทศไทยที่จะรู้ความจริงว่าเขาคนนี้ เขาทราย แกแล็คซี่ สุดยอดมวยแชมป์เปี้ยนโลกชาวไทยมีพี่น้องฝาแฝด 3 คน ความจริงข้อนี้แม้แต่เขาทรายเองก็ยังไม่เคยเปิดเผยให้ใครทราบ

เดิมทีเราเข้าใจว่า เขาทรายแกแล็คซี่มีพี่น้องฝาแฝดสองคนคือ เขาทราย กับ เขาค้อ แต่แท้ที่จริงบแล้วพบว่าน้องคนสุดท้องของเขาทรายถูกนำไปเลี้ยงที่เกาหลีตั้งแต่ยังเล็กๆ จนสุดท้ายน้องคนเล็กอดทนรอไม่ไหวจึงตั้งโต๊ะแถลงข่าวและประกาศต่อสาธารณชนให้ได้รู้ทั่วกันว่าตัวเขาคือน้องของเขาทราย แกแล็คซี่ แชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ของชาวไทย

เขามีชื่อว่า "ซัมซุง แกแล็คซี่ "  


ไอสาด
10
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: I've missed you, John.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 2105
ที่อยู่: Pop rock , Soul blues
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:55
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
ถ้าตามนี้จริง พ่อค่อนข้างจะก้าวร้าวเลยนะ ตีเด็กขนาดนั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 40122
ที่อยู่: Liverpool In Your Area!
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 10:57
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
An appreciative fake story ever
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status: Must keep going
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 963
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 11:10
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยครับ

ซาบซึ้ง ??

เปล่าแม่มแต่งเรื่องมาหลอกกุ ของจริงผู้ก่อตั้งซัมซุงไม่ได้จน

แถมได้ไปเรียนต่อมหาลัยอยู่ที่ญี่ปุ่น




http://hoamprize.samsungfoundation.org/eng/main/main.asp  


อ่านเอาสนุก ซึ้งๆ กับข้อคิด แล้วกันนะครับ

ขอบคุณท่านด้วยที่ช่วยให้ข้อมูลเรื่องจริง

(ผมบอกก่อนแล้วนะว่าเรื่องเล่า เห็นเรื่องราวอ่านเพลินซึ้งดี มีข้อคิด เลยเอามาฝากกันครับ)
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เพื่อวันข้างหน้าและเพื่อคนที่อยู่ข้างหลัง



ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status: Must keep going
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 963
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 11:14
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
fallinz พิมพ์ว่า:
บทความซึ้งมากครับ ขอบคุณ จขกทครับ

Spoil
ไม่ได้ตั้งใจจะขัดนะครับ แต่มันอาจเป็นเรื่องแต่งหรือเปล่า

เข้าไปหาข้อมูล Lee Byung-chul ตายไปแล้วครับเมื่อ 1987 อายุ 77 ปี

มาจากครอบครัวบ้านรวย เรียนมหาลัย แต่เรียนไม่จบ
https://en.wikipedia.org/wiki/Lee_Byung-chul  
 


ต้องขอโทษด้วยครับ
ไม่ได้ตั้งใจมาหลอกลวงใดๆ
ขอให้อ่าน เป็นเรื่องเล่าสนุก ซึ้ง มีข้อคิด

ต้องขอบคุณท่าสำหรับข้อมูลด้านความจริงนะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เพื่อวันข้างหน้าและเพื่อคนที่อยู่ข้างหลัง



ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jun 2007
ตอบ: 45917
ที่อยู่: บ้านนอก
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 12:06
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
ชอบตรงแต่งได้ซึ้งดีครับ ชอบความรักที่มีต่อคนในครอบครัว ซึ่งนับวันมันจะจางลงทุกที บ้านผมก็เช่นกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jun 2009
ตอบ: 723
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 12:12
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
ผมอ่านแล้วไม่ซึ้งนะ รู้สึกถึง ความเห็นแก่ตัวของพี่สาวมากกว่า

น้องส่งได้ดี แต่พี่สาวก็ยังไม่ได้ตอบแทนไรที่บ้านมาก คนน้องเสียเวลาชีวิตให้กับพี่สาวเยอะไป โดยไม่มองตัวเอง

เป็นเรื่องแต่งที่ไม่เนียนเลย อคติด้วยแหละเพราะมันไม่จริง
แก้ไขล่าสุดโดย เมี้ยวหง่าว เมื่อ Sun Aug 11, 2019 12:13, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 705
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 12:32
[RE: เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี]
ความจริงต้องจบด้วย ในงานแต่งงาน

ฉันอายุ 33 น้องชายจะอายุเท่าไหร?

มันก็ห่างกัน 3 ปี ตลอดปะ ย้ำมาตลอดเรื่องเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
011
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2009
ตอบ: 7752
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 12:38
[RE]เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี
Fake Story 555
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Nov 2007
ตอบ: 22302
ที่อยู่: กันไป...เพราะคำว่ารัก...และเป็นคนดี
โพสเมื่อ: Sun Aug 11, 2019 20:26
เรื่องเล่า.... จากประเทศเกาหลี
แต่งเรื่อง โคตรจะไม่เนียน

เด็ก 8 ขวบ โดนหวดขนาดนั้น ไม่ร้อง
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel