REPOST Ben Yedder "โรมาริโอ้บอลเบอร์ 3"
Ben Yedder โตมาด้วยการเริ่มเล่นฟุตซอลกับเพื่อนวัยเด็กอย่าง Riyad Mahrez
เขาเข้าสู่วงการบอลเบอร์ 3 ที่ Gymnase Allende Neruda ใน Garges-les-Gonesse ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 9 ไมล์ทางตอนเหนือของใจกลางกรุงปารีส
ซึ่งตัวเขานั้นมีทักษะฟุตซอลที่สมบูรณ์แบบ
หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บขาขวา เขาหงุดหงิดมาก แต่แทนที่จะพักให้หายดี กลับเอาเวลานี้มาฝึกเท้าซ้ายให้คล่อง จึงไม่แปลกใจที่เยดแดร์จะเล่นได้ดีทั้งสองเท้า (ดูคลิปประกอบ)
และเมื่อใดที่เขาถูกเปลี่ยนตัวออก เขาจะปรับปรุง ทำความเข้าใจกับเกม เพื่อลบจุดด้อยของเขาตอนลงในสนาม
ผู้จัดการทั่วไปของทีมฟุตซอลแรกในชีวิตของเบน เยดเดอร์เล่าว่า
“เขาถูกเปลี่ยนตัวออก เพื่อมาดูเพื่อนๆ เล่นอยู่ข้างสนาม และในครึ่งหลังเขาได้ลงสนามอีกครั้ง และซัดไป 4 ประตู”
และนี่อาจเป็นเหตุผลที่โค้ชหลายคนมักส่งเขามาเล่นในครึ่งหลัง
---------------------------------------------------------------
เยดแดร์เริ่มต้นฟุตบอลอาชีพตอนอายุ 17 โดยเล่นให้ UJA Alfortville ในลีกสี่ของฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ UJA Ben Yedder ก็ถูกเรียกติดทีมชาติ (ฟุตซอล) ฝรั่งเศสและทำได้หนึ่งประตู
แต่ด้วยเทคนิคการเลี้ยงและความคล่องแคล่วที่ได้รับมาจากฟุตซอล ทำให้เขาได้รับโอกาสจากตูลูส แต่เพียงแค่ฤดูกาลแรกเขาก็ซัดไปถึง 14 ประตู ความร้อนแรกยังไม่หยุดเพราะจากนั้นอีก 3 ฤดูกาลก็ซัดไปเฉลี่ยปีละ 15 ลูก
จากเด็กที่มีแต่คนดูถูกสู่วัยรุ่นร้อนแรง โดยมีเหล่าซุปตาร์ในทีมตูลูสอย่าง Moussa Sissoko, Etienne Capoue และ Serge Aurier เป็นต้นแบบ เขาก็มุ่งหน้าสู่ทีมที่ใหญ่กว่าอย่างเซบีญ่าในที่สุด
---------------------------------------------------------------
โดยแมตช์ที่ทำให้คนทั้งโลกจดจำเขาได้ นั่นคือรอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปียนลีกที่เขาซัดสองประตูใส่ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทั่วไปเล่าต่อว่า
“ประตูแรกที่ยิงใส่แมนยูก็เป็นเรื่องปกติของฟุตซอล จับ แตะ แล้วก็ยิง ในพื้นที่แคบๆ เขายังคงใช้ทักษะของฟุตซอล”
“เมื่อคุณส่งโรมาริโอ้ลงไปในกรอบเขตโทษ เขาจะไม่ขยับตัวเยอะแยะ เขาก็โป้งปิดบัญชีได้ [color=red]ซึ่งเบนเยดเดอร์ก็คือโรมาริโอ้ของพวกเรา เขาไม่เคยหยุดตะบัน เขาเป็นเหมือนปืนไรเฟิล” [/color]
เบนเยดเดอร์ยังจำประตูนั้นได้ จากการผ่านบอลของซาราเบียให้ผมซัดประตูขึ้นนำ
“[color=red]มันเป็นสัญชาตญาณ ผมไม่ได้คิดอะไรเลย” [/color]