ผมยังเรียนไม่จบนะครับ แต่ก็ใกล้แล้ว ผมก็เลยมีคำถามและเครียดหาทางออกอยู่หลายครั้ง คือผมจะทำยังไงดี ถ้าผมจบออกมาแล้วเงินเดือน 15000 ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ

ปล.ผมมีอีกคำถามคือถ้าผมเอาแม่มาอยู่ด้วย ซึ่งตอนนี้ท่านอยู่ ตจว และใกล้จะเกษียณแล้วด้วย แต่ท่านก็มีธุรกิจของตัวเองที่จะทำหลังเกษียณอยู่นะครับ ซึ่งให้ท่านมาอยู่ด้วยแล้วให้แม่ผ่อนคอนโดให้มันจะน่าเกลียดมั้ยครับ

ผมทำงานปีแรกที่ กทม เมื่อ 5 ปีก่อน เงินเดือนเกือบๆ สามหมื่น

ตอนนั้นต้องส่งเงินให้ที่บ้าน ส่งน้องเรียนสองคน เช่าหออยู่ เดินทางรถไฟฟ้า

ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าลำบาก เพราะตอนเรียนใช้เงินเดือนละ 6-7 พัน

พอทำงานหักรายจ่ายทั้งหมดก็เหลือใช้ประมาน 6-7 พันเหมือนกัน

ช่วงแรกคงต้องเน้นเท่าที่จำเป็นก่อนครับ ไม่จ่ายเกินตัว กิเลสนี่เก็บไว้ก่อนเลยครับ

หลังๆ มาน้องเรียนจบละ ผมถึงกู้ซื้อคอนโดมือสองอยู่ เก็บเงินออมต่อเดือนไว้ส่วนนึง

ที่เหลือผมซื้อของที่อยากได้หมดอ่ะ 555 แบบเก็บกด ของลงของเล่น กล้อง คอม เครื่องเกม

แต่ตอนนี้ก็เริ่มตั้งใจเก็บเงินอีกรอบ เพราะอีกไม่นานก็น่าจะต้องคิดเรื่องแต่งงานแล้วครับ

พิมมาซะยาว สาระสำคัญอยู่ที่ ตั้งสติระงับกิเลสให้ได้ครับ คิดว่าจำเป็นรึยังครับ อันนี้ของผมนะ

เพิ่มเติม ช่วงนี้คอนโดทำเลดีๆ แพงมาก ยังไม่ต้องรีบหรอกครับ ช่วงวัยจบใหม่เริ่มทำงาน ให้เน้นตั้งใจเก็บประสบการณ์เยอะๆ

เอาไว้ไปโม้ตอนสัมภาษณ์งานที่ใหม่ ให้มีโอกาสเข้ามาเพิ่มขึ้น มีโอกาสเจรจาต่อรอง

ตอนนี้ผมย้ายมา 3 บริษัทละ ช่วงนี้ยังมีแรงครับ หาโอกาสให้ตัวเองเรื่อยๆ

แก่ไปค่อยหา บ.ดีๆ อยู่ยาวๆ

ผมทำงานปีแรกที่ กทม เมื่อ 5 ปีก่อน เงินเดือนเกือบๆ สามหมื่น

ตอนนั้นต้องส่งเงินให้ที่บ้าน ส่งน้องเรียนสองคน เช่าหออยู่ เดินทางรถไฟฟ้า

ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าลำบาก เพราะตอนเรียนใช้เงินเดือนละ 6-7 พัน

พอทำงานหักรายจ่ายทั้งหมดก็เหลือใช้ประมาน 6-7 พันเหมือนกัน

ช่วงแรกคงต้องเน้นเท่าที่จำเป็นก่อนครับ ไม่จ่ายเกินตัว กิเลสนี่เก็บไว้ก่อนเลยครับ

หลังๆ มาน้องเรียนจบละ ผมถึงกู้ซื้อคอนโดมือสองอยู่ เก็บเงินออมต่อเดือนไว้ส่วนนึง

ที่เหลือผมซื้อของที่อยากได้หมดอ่ะ 555 แบบเก็บกด ของลงของเล่น กล้อง คอม เครื่องเกม

แต่ตอนนี้ก็เริ่มตั้งใจเก็บเงินอีกรอบ เพราะอีกไม่นานก็น่าจะต้องคิดเรื่องแต่งงานแล้วครับ

พิมมาซะยาว สาระสำคัญอยู่ที่ ตั้งสติระงับกิเลสให้ได้ครับ คิดว่าจำเป็นรึยังครับ อันนี้ของผมนะ

เพิ่มเติม ช่วงนี้คอนโดทำเลดีๆ แพงมาก ยังไม่ต้องรีบหรอกครับ ช่วงวัยจบใหม่เริ่มทำงาน ให้เน้นตั้งใจเก็บประสบการณ์เยอะๆ

เอาไว้ไปโม้ตอนสัมภาษณ์งานที่ใหม่ ให้มีโอกาสเข้ามาเพิ่มขึ้น มีโอกาสเจรจาต่อรอง

ตอนนี้ผมย้ายมา 3 บริษัทละ ช่วงนี้ยังมีแรงครับ หาโอกาสให้ตัวเองเรื่อยๆ

แก่ไปค่อยหา บ.ดีๆ อยู่ยาวๆ

อย่าเพิ่งไปกังวลมากมายครับ

ในกรุงเทพลองดูย่านที่ทำงานดู ถ้าท่านทำงานย่านรถไฟฟ้าผ่านทางเลือกในการหาที่พักก็เยอะครับ

พยายามหาที่พักให้สะดวกกับที่ทำงาน ถ้าที่ทำงานอยู่ในเมืองก็หาที่พักรอบนอกที่มีรถประจำทางวิ่งผ่าน ดีที่สุดคือแค่สายเดียว แย่สุดไม่ควรต่อเกิน 3 สายเพราะจะเหนื่อยเดินทาง

ถ้าท่านทำงานแถวๆประตูน้ำ เซนทรัลเวิลด์ ปทุมวัน ท่านไปหาห้องเช่าแถวๆ The Mall บางกะปิถูกๆยังมีครับ เดือนละ 4xxx - 5xxx ห้องดีอยู่ครับไม่ได้เป็นห้องแออัดสภาพเน่าๆ ผมเคยอยู่ช่วงนึงโอเคเลย การเดินทางสะดวก ขึ้นเรือไปทำงานครับ 30 นาทีถึงเซนทรัลเวิล จาก เดอะมอลบางกะปิ(ลาดพร้าว 136)

ผมไม่แนะนำให้เพิ่มภาระให้แม่นะครับ ไม่ควรไปเดือดร้อนแม่ครับเพราะท่านเกษียณควรให้ท่านเอาเงินก้อนนี้เก็บไว้ใช้ยามเจ็บป่วยฉุกเฉินครับ ไม่ควรไปตัดเงินบางส่วนของแม่มาเพื่อเอามาเป็นตัวซื้อคอนโด นึกถึง Worst case วันที่ส่งไม่ไหวด้วยนะครับ

ห้องเช่าธรรมดาก็ไม่น่าเกลียด รอวันตั้งตัวได้มีเงินเดือนดีๆค่อยคิดผ่อนคอนโดครับ

ถ้าเป็นน้องผมหรือคนรู้จักผมคงพูดตรงๆว่า อย่าเพิ่งห้าว!

แต่สำหรับท่านผมคงบอกว่า ใจเย็นๆครับอย่ารีบ

ผมทำงานครั้งแรกก็แบบนี้ ไม่มีบ้านไม่มีรถ

ผมเลือกหางานแถวที่รถไฟฟ้าผ่าน และก็เช่าหออยู่ (แต่อยู่ใกล้ที่ทำงานนะ เอาแบบเดินมาทำงานได้อะ) แล้วก็อยู่ตรงนั้นจนซื้อบ้านเลยครับ

เพื่อนผม สตาร์ทเงินเดือน 18 K ทำ 3 ปี สูงสุด 22 K ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีไรเลย

แต่โฮมซิกส์ขึ้นมาเลยกลับมาสุราษฏร์ เงินเดือน 17 K ตอนนี้ใกล้ 19 K ไม่รวมโบ

สรุป ขับซิตี้ปี 2016 กลับมาบ้านในปี 2018 ง่ายๆคือดาวน์รถคันนึง

3 ปีที่มันทำ กทม เงินเก็บประมาณ 3-4 แสน ก่อนกลับสุราษฏร์

แนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้ออะไร ใช้ชีวิตให้สนุก อย่าเพิ่งพาแม่มาอยู่ด้วย

ทำงานปีแรกมีโอกาสย้ายสูงมาก ทำตัวให้พริ้วไว้ก่อน ย้ายไปไหนก็เช่าหอ

พองานเข้าที่ เงินเข้าที่ ของที่เหลือมันจะตามมาเองครับ

มันจะเหมือนฟิลตอนเรียนมหาลัยอะครับ เอาตัวคุณเองให้รอด
เลือกสิ่งที่สะดวก ประหยัด สำหรับตัวเราเอง ที่พักใกล้ที่ทำงาน เอาแบบธรรมดาก่อนอย่างข้างบนก่อน ค่อยไปคอนโดหรือบ้านเดี่ยว

จะต่างกับตอนเรียนมหาลัยตรงที่ว่า คุณทำงานมีเงินเดือน บริหารเงินเอง
คำตอบจะบริหารยังไง มันก็แล้วแต่ความสามารถคน แนะนำ สิ่งไหนที่ประหยัดได้ก็ประหยัด
อย่าพยามไปรบกวนพ่อแม่ ถ้าจำเป็นต้องรบกวนก็รบกวนท่านซะแล้วขอผ่อนคืนอะไรก็ว่าไป

ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ = ต้องหาที่พักใกล้ที่ทำงาน และเดินทางสะดวก

ปล. สู้ๆครับ

1. จบออกมาไม่มีบ้าน ไม่มีรถ มันเรื่องปกติหรือเปล่าครับ ไม่ได้จะกวนอะไรนะครับ ผมก็ตอนจบมาไม่มีอะไรเลย อยู่หอพักธรรมดา (เน้นใกล้ที่ทำงาน) พอมีจังหวะย้ายงานได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น พอที่จะผ่อนรถ หรือ คอนโด ท่านค่อยคิดที่จะมีตอนนั้นก็ยังไม่สาย อายุก็ยังน้อยเพิ่งจบมามีเวลาอีกบานเลยครับ

2. เรื่องที่จะให้แม่มาอยู่ด้วย ท่านต้องลองนึกสภาพคนอยู่บ้านมาตลอดแล้วให้มาอยู่คอนโด จะโอเคมั้ย ซึ่งจากที่ผมประสบเจอมาหลายคน ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากอยู่ที่เป็นบ้านมากกว่า อีกอย่างถามว่าน่าเกลียดมั้ย ถ้าแม่ท่านไม่เดือดร้อนอะไร แล้วคิดว่าอยากมาอยู่กับลูกก็ไม่น่าเกลียดหรอก แต่ถ้าเป็นผม (ความคิดผมนะ) ผมไม่ให้แม่มาอยู่ด้วยแน่นอนเพราะรู้สึกว่าไหนๆ เราก็เรียนจบแล้วลองอยู่ด้วยตัวเองไม่ต้องให้แม่ช่วยลองดู อีกอย่างเผื่อท่านอยากพาเพื่อน หรือพาสาว มาอยู่ด้วยก็จะได้สะดวก 555 ข้อนี้สำคัญ

+1 เพื่อนผม หลังจาก 4 เดือนแรกมันซื้อ ลูกเวฟ 125 มือ 2 มาคันนึง ก่อนกลับสุราษฏร์ ก็ขายมอไซค์ไป

ปล. มันขับมอไซค์ไปทำงานทุกวันเลยครับ เมื่อก่อนนั่งรถเมย์ ต่อ 2 ที

เรียนจบอย่าพึ่งไปมีบ้านหรือรถเลยครับ
วางแผนเพื่ออนาคตได้ แต่จะมีสิ่งเหล่านี้กับเงินเดือน 15,000 ชีวิตจะลำบากครับ
สมัยนี้มีไม่ได้ยากนะของพวกนี้ แต่มีแล้วลำบากก็ใจเย็นๆ ไว้ก่อนครับ

แนะนำเลยคือสนุกกับชีวิตไปก่อน เก็บเงินส่วนนึง เที่ยวส่วนนึง
ทำไปสักปีนึง ค่อยวางแผนครับ มันจะได้เห็นเป็นภาพ

คนจบใหม่ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ นี่คือเรื่องปกติมากครับ
คนบางคนจบมาไม่มีอะไรมากกว่าคุณอีกนะผมว่า เชื่อผมสิ!

เงินเดือน 15,000 ใช้แปปเดียวก็หมดครับ
อย่าพึ่งไปหวังจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถเลย แค่เงินดาวน์ยังเก็บยากเลย

ทำงานหาประสบการณ์ หาความสุข รู้จักใช้รู้จักเก็บไปสักปีสองปีครับ
ค่อยๆ ว่างแผนว่าไปทีละขั้นตอนดีกว่า
สู้ต่อไปครับ!

ยังไงดีล่ะ ผมเพิ่งบรรจุเป็นข้าราชการ ใน กทม. นี้แหละ

เงินเดือนก็อย่างที่ท่านบอกนั้นแหละ บอกได้คำเดียวว่า อย่าใช้จ่ายกับอะไรที่ไม่จำเป็นครับ (ก็ต้องทนล่ะน่ะ อยากเข้ามาเป็นเอง ฮาาาาา )

ถ้าเอาส่วนตัวน่ะ ท่านรอให้ได้งานก่อน และลองดูว่าการเดินทางไปยังไง รถไฟฟ้าให้ดูท้าย ๆ เลย เพราะมันจะเปลืองมาก ๆ ยกตัวอย่าง พี่ที่ทำงานเก่าผม เขาเดินทางกับรถไฟฟ้าไป-กลับ วันละ 90 บาท หรือถ้าคิดแบบไป-กลับสถานีเดียว มันก็ 30 บาทล่ะน่ะ(ขอคิดจากแอร์พอร์ตลิ้งค์เพราะที่ทำงานเก่าผมวิ่งเข้าสุวรรณภูมิ) มันไม่ใช่น้อย ๆ เลยน่ะ ถ้าเทียบกับเงินเดือนที่เข้ามา

ถ้ามีรถเมล์ สองแถว รถตู้ และรถไฟ(รฟท.เนี้ยแหละ เช้า ๆ มันมีขบวนวิ่งเข้าเมืองอยู่) ก็ให้เลือกพวกนี้ไว้ก่อน มันเซฟเงินเราได้เยอะน่ะ เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้า

อยากให้เพิ่มทางเลือกคือเรื่องมอไซต์ครับ ปัจจุบันผมก็ใช้วิธีนี้ ค่าน้ำมันมอไซต์ตกสัปดาห์ละ 70 บาทเอง แถมไปไหนมาไหนก็สะดวก ถ้าจะไปไกล ๆ หน่อยก็ค่อยขึ้นรถตู้ รถไฟ รถไฟฟ้าเอา

ส่วนเรื่องหอ ถ้าท่านไม่มีความจำเป็นเรื่องแอร์ ท่านก็หาเช่าห้องที่เป็นพัดลม บางที่ห้องแอร์กับห้องพัดลมราคาโคตรต่างเลยย

ส่วนเรื่องแม่อย่าเพิ่งคิดเลยครับ เพราะท่านก็บอกเองว่าแม่ท่านมีแผนที่จะทำอะไรหลังเกษียณแล้ว ปล่อยให้ท่านทำในสิ่งที่ท่านอยากทำไปก่อนครับ แต่ถ้าเรามองแล้วว่า ไม่มีใครดูแลท่าน ท่านเป็นห่วงเขา ค่อยคิดเรื่องที่จะเอามาอยู่ด้วยครับ

ปล. 15000 นี้ยังสามารถเก็บเงินได้น่ะ ถ้าท่านวางแผนชีวิตดี ๆ (มีวินัยให้มาก ๆ แต่ก็อย่าเคร่งครัดมากเกินไปด้วย)

น่าเกลียดมากครับ ท่านเรียนจบแล้วหางานทำ อย่าทำตัวให้เป็นภาระให้แม่อีกเลย

ควรยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ได้งานที่ไหน หาห้องเช่าแถวที่ทำงานครับ

บ้านหรือคอนโดใน กทม. ราคาแพงเกิน ทำงานเก็บเงิน ไม่ต้องให้แม่ลำบากต้องมาช่วยดูและตัวคุณอีก ควรจะพอได้แล้วครับ โตแล้ว

และทำงานไป ศึกษาธุระกิจของแม่ ว่าท่านทำยังไง พอท่านทำไม่ไหว คุณไปทำต่อได้ครับ สุดท้ายแล้ว อยู่ ตจว. บ้านเกิดเราดีที่สุด

อย่ากังวลไปเลยครับค่อยๆสร้างตัวทีละน้อยๆ ความคิดที่อยากให้แม่มาอยู่ด้วย ถ้าท่านอยู่ ตจว. คนเดียวไม่มีคนดูแล ก็น่าจะนำท่านมาอยู่ด้วยส่วนให้ท่านผ่อนคอนโดนั้นอาจจะเป็นช่วงแรกๆ พอเราเริ่มทำงานมีเงินพอเหลือใช้แล้ว ค่อยผ่อนต่อแทนท่าน ส่วนเรื่องรถถ้าที่ทำงานท่านมีรถเมล์ รถไฟฟ้าผ่าน หรือระบบขนส่งผ่านก็ยังไม่แนะนำหรอกครับ เพราะซื้อไปแล้วใน กทม รถติด แต่ถ้าคิดว่าเงินพอใช้ก็ซื้อได้

อย่างผมอยู่กทมตั้งแต่เกิดนี่ก็ 29 ปีแล้วอยู่บ้านเช่ามาตลอดกับครอบครัวพึ่งมาซื้อบ้านตอนทำงานได้ 2 ปี (อายุ 24)เพราะเริ่มตั้งตัวได้ ส่วนรถยังไม่เคยมีสักคัน แต่ก็กำลังจะซ์้อเพราะคิดว่ามันเริ่มจำเป็นแล้วใช้พาครอบครัวไปไหนก็ได้ จะสะดวกหน่อย

สุดท้ายแล้วก็วางแผนดีๆครับ ให้เงินต่อเดือนเหลือใช้เยอะๆหน่อย จะได้ไม่ต้องเครียดตอนสิ้นเดือน

ผมก็อยู่หอ+มอไซค์1คันจน 29 นะ

เลือกหอให้สะดวกต่อการเดินทางที่สุด ช่วยประหยัดได้เยอะมาก
ไม่จำเป็นจะต้องเลือกหอถูก ถ้าค่าหอ 6-7 พัน แต่ค่าเดินทาง
เฉลี่ยวันละ 50 ก็ดีกว่าหอถูกแต่ค่าเดินทางวันละเป็น 100

ส่วนเรื่องแม่ถ้าเขาไม่มีแพลนก้อย่าเอาเข้ามาทรมานใน กทม เลย