[RE: เผื่อใครท้อกับการเรียนมหาลัย อ่านของผมดูครับ]
46คือรัก พิมพ์ว่า:
คือตั้งมู้ให้กำลังใจก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่การสรุปแบบเหมารวมนี่โลกคุณกว้างแค่ไหนกัน
ขออนุญาตเล่าเรื่องพี่สายผมคนนึงนะ ผมเรียนวิศวะฯสาขาหนึ่งในมหาวิทยาลัยรัฐระดับกลางๆ 80% เรียนเป็นภาษาไทยเนี่ยแหละ (แต่บทเรียน ข้อมูล text ทุกอย่างรวมทั้งข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ)
พี่สายผมคนนี้เรียนจบ 6 ปีเนื่องจากติดวิชาเดิมซ้ำๆ พอเรียนจบแล้วเค้าก็ต่อโทที่เดิม และเป็นมือ 1 ของภาควิชาด้านการซิมูเลชั่น แม้แต่อาจารย์ก็อยากให้ต่อเอกเพื่อมาเป็นอาจารย์เมื่อเรียนจบ
รุ่นพี่ผมคนนี้เรียนไม่จบใน 4 ปี ไม่ใช่เพราะเค้าเกเร กระจอก หรืออะไรแบบที่คุณว่าเลยครับ แต่สาขาที่ผมเรียน มันมีสัดส่วนของวิชาประยุคต์ด้านฟิสิคอล-เคมิคอล, ฟิสิคอล-แมทเทอเมติคอล เป็นส่วนมาก และมีซิมูเลชั่นเป็นส่วนเสริมปิดท้าย
ซึ่งเค้าไม่ถนัดในส่วนของฟิสิคอล-เคมิคอลเลย ทำให้เค้าวนเวียนอยู่กับตรงนี้นานมาก ทั้งๆที่เรื่องซิมเค้าโคตรเทพอย่างที่บอกไป
และภาควิชาผมไม่มีคำว่าปล่อย หรือแม้แต่ลดระดับความเข้มข้นของข้อสอบเพื่อส่งให้ใครจบ
เพราะงั้นการเรียนไม่จบด้วยเหตุผลทางด้านการเรียนจริงๆมันก็มีอยู่ครับ ไม่จำเป็นต้องเกเร ไม่ตั้งใจเรียน
ผมไม่อยากเปรียบเทียบมหาลัยฯนะ แต่ยิ่งระดับม.สูงขึ้นไปชีวิตมันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกครับ สาขาทางวิทย์ฯมักนิยมตัดอิงเกณฑ์ ถ้าเพื่อนคุณเก่งมากๆ เกรดคุณก็มีสิทธิ์ได้น้อยกว่าเพื่อนต่างมหาลัยแม้คุณจะเก่งกว่าก็ตาม
ผมมีเพื่อนที่ไม่ได้เก่งกว่าพวกผมเลย แต่สอบติดสาขาเดียวกันนี้ที่จุฬาฯ ชีวิตเค้าก็แทบแย่เหมือนกัน ทั้งๆที่ถ้าลดระดับมหาลัยฯลงมาหน่อยเค้าคงจะสบายขึ้นแล้ว
อันที่จริงถ้าจะให้ยกตัวอย่างมันมีอีกหลายกรณีนะ แต่เท่านี้ก็คงพอจะเห็นภาพ เพราะงั้นผมว่าเรื่องนี้อย่าด่วนสรุปเลยครับ
เเต่ละคณะมันก็ความยากไม่เหมือนอยู่เเล้ว
ยังไงมันก็ไม่เกินกว่าความพยายามของเราหรอกครับ
มีคนรู้จักเรียนพยาบาล เขาเรียนเป็นไทย เเต่ตำราเป็นอิงหมดก็มีครับ
พวกเรียนไม่จบ บางครั้งมันมีอะไรที่ละเอียดกว่าที่ผมบอกอีกเยอะครับ
ไม่ได้จำเป็นต้องจบ4ปีหรอกครับ บางคนยอมเรียนเกินเพื่อให้ได้เกรดดีๆก็มี
บางคนเรียนไม่ไหวก็ไม่ยอมไปดรอป สุดท้ายก็ติดF ได้Dดึงเกรดลงก็เยอะแยะครับ
ของผมสอบ70-80% เข้าเรียน+โปรเจค 20-30%เอง
แบบของคุณน่าจะหมายถึงอิงกลุ่มมากกว่าป่ะ หรืออิงเกณฑ์
ของผมส่วนใหญ่อิงเกณฑ์ อิงกลุ่มไม่ค่อยมี