"ทอม" อิศรา กิจนิตย์ชีว์ หรือ "ทอม ROOM39" เผยเป็นนักร้องอิสระ ก่อนแยกวงผ่านไตร่ตรองและคุยกับเพื่อนร่วมวง "รูม39"แล้ว ยันไร้ปัญหา "มน" ชุติมน วิจิตรทฤษฎี และ "แว่นใหญ่" โอฬาร ชูใจ สมาชิกที่เหลือของวง "Room 39"

กระทบจิตใจแฟนคลับไปตามๆ กัน หลังทางค่าย "เลิฟอีสฯ" ต้นสังกัดของวง "รูม39 (Room 39)" ได้ออกมาประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า "มน" ชุติมน วิจิตรทฤษฎี และ "แว่นใหญ่" โอฬาร ชูใจ สมาชิกที่เหลือของวง "Room 39" ยังคงสถานะศิลปินของ "LOVEiS Ent." อยู่ ในขณะที่ "ทอม" อิศรา กิจนิตย์ชีว์ ไม่ต่อสัญญา

ซึ่งที่ผ่านมาหนุ่มทอมเก็บตัวไม่ออกมาตอบคำถามในเรื่องนี้ จนกระทั่งล่าสุดผู้สื่อข่าว "บันเทิง คมชัดลึก" ได้เจอหนุ่มทอมในงานคอนเสิร์ตการกุศล Boutique On The Beach Charity Concert ณ โรงเเรม ถาวร บีช รีสอรท์ จังหวัดภูเก็ต ได้ถามเรื่องแยกวงได้ความว่า

"จริงๆ แล้วตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้มาเริ่มทำงานเพลง หลังจากที่ออกมาจาก รูม39 แต่พี่ๆ ทั้ง2 คนก็ยังทำค่ายกันต่อที่ชื่อ โฮลี่ ฟอกซ์ (Holy Fox) ของเลิฟอีส ก็มีทั้งผลงานของตัวเองด้วย และเขียนเพลงให้ศิลปินคนอื่นๆ ตรงนั้นด้วยแต่ผมไม่ได้ทำตรงนั้นด้วยก็เลยออกมา ถามว่าพอได้ทำคนเดียวยากไหม เอาจริงๆ แล้วผมยังไม่เคยลองทำ พอมาถึงตรงนี้ก็ต้องรอดูว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้าง การได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งที่ดี ก็ได้ออกมาจากเซฟโซนบ้าง"

กลัวไหมกับการมายืนคนเดียว

"ก็กลัวที่เรามาตรงนี้แล้วต้องมาทำคนเดียว หรือทำออกมาแล้วจะเป็นอย่างไรบ้างน้อ แต่เราไม่ได้เร่งตัวเองเราก็รู้สึกว่าเราทำไปเรื่อยๆ ได้ อย่างงานพรีเซ็นเตอร์ก็จะมีเพลงใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง เป็นเพลงที่ทอมกับพี่ๆ เป็นเพลงที่ทอมแต่งขึ้นมาใหม่อยู่แล้ว แต่เพลงที่เป็นซิงเกิ้ลของตัวเองเลย ก็ยังไม่มี ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงที่ผูกกับแบรนด์ต่างๆ โน่นนี่นั่น แฟนเพลงเสียดาย ผมก็เสียดาย เพราะเพลงที่ปล่อยออกมาทุกคนก็ยังจำความเป็นรูม 39 อยู่ ภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร ก็ปล่อยให้มันเป็นไปมากกว่า ผมเชื่อว่าเวลามันจะทำให้ทุกอย่างโอเค กับเพื่อนๆ"

มีโอกาสได้พูดคุยกันกับ "มน-แว่นใหญ่" บ้างไหม

"จริงๆ เราก็คุยกันบ้างอยู่แล้ว บางทีเราก็ยังร่วมงานกันได้ ถ้าต้องร่วมงานกัน ผมคิดว่าผมให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากกว่าเรื่องของวง บางทีอย่าไปนั่งโฟกัสว่ามีวงหรือไม่มีวง ไม่ทำงานร่วมกันแล้ว ไม่เป็นเพื่อนหรอ บางทีคนเราทำงานในออฟฟิศก็ไม่สามารถทำงานในออฟฟิศเดียวไปได้ตลอดทั้งชีวิตหรอก บางทีก็ต้องเปลี่ยนบ้าง เราไตร่ตรองแล้วว่าจะอยู่ตรงนี้มากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ผ่านการคุยกันแล้ว การที่เราออกไม่ได้หมายความว่าเพื่อนเราต้องออกไปด้วยนะ ถ้าเขาแฮปปี้ที่จะทำตรงนี้"

เมื่อถามต่อว่าหลายคนเป็นห่วงว่าจะยังใช้เพลงของวงรูม 39 ได้หรือเปล่า ซึ่งนักร้องหนุ่มกล่าวว่า

" มีคนถามเยอะแต่จริงๆ เป็นงานที่เราทำด้วยกันมากกว่า เราคุยกันตั้งแต่ที่แรกแล้ว ทำด้วยกันก็คือทำด้วยกัน เรื่องนี้เราคุยกันได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะเพลงหรือทุกๆอย่างเป็นผลงานของทั้งสามคนอยู่แล้ว ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือผมจะเอาไปใช้ประโยชน์คนเดียว หรือผมจะไม่ใช้แล้วเขาสองคนมีสิทธิ์ใช้ เราไม่มานั่งคุยตรงนั้นให้เป็นปัญหา ตรงนั้นเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวเอง"

ขั้นต่อไปจะเป็นยังไง มีสังกัดหรือเป็นศิลปินอิสระ

"ตอนนี้ผมอิสระ ซึ่งก็แฮปปี้นะ ได้ทำอะไรตามไทม์ไลน์ที่วางให้ตัวเอง รู้สึกว่าค่อยๆไป ตรงไหนทำได้ดีเราก็จะรู้ตัวเอง อันไหนที่เป็นตัวเราก็จะได้รู้ว่านี่คือตัวเรา รวมถึงได้ทำอะไรใหม่ๆด้วย คือบางทีถ้าเราไม่ออกมาจากคอมฟอร์ตโซนก็จะเหมือนเดิม จะเป็นทอมแบบเดิม บางทีเราก็ไม่ได้เป็นทอมที่เปลี่ยนไปหรอก แต่คือวันที่ผ่านไปทุกวัน ทำให้เราโตขึ้น เจออะไรใหม่ๆมากๆขึ้น ตอนนี้ก็เป็นโอเค พอไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมหรอก จะบอกให้เหมือนเดิมก็คงไม่เหมือนเดิม เป็นอีกแบบหนึ่งมากกว่า ตอนนี้ก็ทำงานคนเดียวก็ได้ลองนั่น ลองนี่ไปเรื่อยๆตามไทม์ไลน์ค่อยๆไป ออสโปรเจ็คใหม่น่าจะเรื่อยๆ ดูตามกำลังตัวเอง คอมเมนต์จากแฟนคลับถึงตัวเราเกี่ยวกับเรื่องที่เราแยกตัวออกมา ก็มีอยากเห็นทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกันอีกอะไรแบบนี้"

เมื่อถูกถามถึงเหตุการณ์วันนี้มาร่วมคอนเสิร์ต คือเป็นพี่ๆ ที่รู้จักที่สนิทกันอยู่แล้วชักชวนมา เป็นงานดีๆ ที่ใครๆก็อยากมาอยู่แล้ว ถ้าว่าง บรรยากาสก็เป็นกันเองอารมณ์เหมือนดนตรีในสวน ในริมหาด ก็ร้องกันไป (เห็นว่าป่วย) ก็ป่วย ก็หาหมอเรียบร้อยแล้ว เป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่ถึงขั้นต้องแอดมิด แรกๆมีไข้ แต่ทานยาแล้วก็หาย ด้วยความที่เราหักโหมงานเกินไปและพักผ่อนน้อยด้วยก็เลยทำให้ภูมิต่ำเราสามารถรับเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ซึ่งทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองด้วยช่วงนี้ ช่วงนี้ดูผอมลงนิดหนึ่ง ก็เป็นช่วงไม่สบายนี่แหละและเป็นคู่กับภรรยาด้วยเป็นคู่กัน แต่ไม่ได้ลดงาน ก็มีงานเรื่อยๆ ก็มีงานพรีเซ็นเตอร์ที่ผมทำอยู่ และมีรายการนอนบ้านเพื่อน ที่ทำกับพี่ตู่ ภพธร และพี่ว่าน ธนกฤต" ทอม กล่าวปิดท้าย

nation

มนุษย์เรานี่ชอบประดิษฐ์คำให้ดูดีเสมอ พูดสั้นๆว่า"ผลประโยชน์ไม่ลงตัว"ก็จบแล้ว

เป็นผมก็ชอบนะ รับเต็มดีกว่าต้องหาร 3 แต่ถ้าเป็นเพื่อนที่รักกันมากคงไม่ทิ้งเขานะ จนกว่าเพือนจะขอแยกออกไปเอง

ดูอย่าง Zeal กะ ETC อยู่มา 10 กว่าปีแยกรับงานกันบ้างแต่ทุกคนโคตรรักกัน

หาร ไม่หาร แค่นั้นเอง

มีเมียมีลูก ต้องกินต้องใช้ ธรรมดา ใครๆก็อยากได้เต็มๆ

แล้วตอนแรกผู้จัดการบอกตกใจ วงแตก

หน้ากากทุเรียน เปลี่ยนชีวิต

โลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ดังเเล้วเเยกวงเป้นธรรมดา

เเล้วก็หายไปกับ กาลเวลา

เพราะหน้ากากทุเรียนแท้ๆ

อย่างว่ายุคนี้มันยุคศิลปินเดียว ฮิปฮอป R&B

พวกเดอะทอย เป๊กผลิต โอ๊ตปราโมทย์ และอีกหลายคน รับเต็มๆคนเดียว ทอมก็คงเห็นช่องทางว่าทำแบบนั้นได้ล่ะมั้ง

ธรรมดา

มนุษย์เรานี่ชอบประดิษฐ์คำให้ดูดีเสมอ พูดสั้นๆว่า"ผลประโยชน์ไม่ลงตัว"ก็จบแล้ว

เป็นผมก็ชอบนะ รับเต็มดีกว่าต้องหาร 3 แต่ถ้าเป็นเพื่อนที่รักกันมากคงไม่ทิ้งเขานะ จนกว่าเพือนจะขอแยกออกไปเอง

ดูอย่าง Zeal กะ ETC อยู่มา 10 กว่าปีแยกรับงานกันบ้างแต่ทุกคนโคตรรักกัน

ทำมาพูดให้ดูดี โธ่

เคารพการตัดสินใจของทุกคนในวงนะ ของทอมด้วย

แค่รู้สึกเสียดายความเป็นวง ความเป็นตัวตนของทอมที่ถูกหล่อหลอมมากับวง

อีกอย่างพวกที่ทำเดี่ยว ถ้าทำเพลงไม่ดีจริงนี่ดับเลยนะ ไหนจะต้องหาวงแบ็คอัพอีก

แต่คิดว่าเจ้าตัวคงมีแพลนในใจแล้วล่ะ รอติดตามผลงานอยู่เหมือนกัน

ยกตัวอย่างเป็นพี่ 1 ETC แล้วกัน

เห็นแกเวลาจะทำงานเดี่ยวก็ขอเพื่อนๆ ถึงบางทีเพื่อนจะมีงอนๆบ้าง
แต่ก็ให้เวลา Balance กับทั้ง 2 อย่างนะ

บางทีโตด้วยกันมา ไม่ต้องแยกขาดในนามวง 39 ก็ได้
แต่รับงานวงน้อยลง หางานส่วนตัวมากขึ้นแค่นั้นเอง

คงไม่อ่านเหตุผลเพราะไม่ได้อยากรู้ แต่นี่แหละชีวิตคน โตแล้วมันต้องพึ่งตัวเองได้ ต้องหมั่นพัฒนาตัวเอง ต้องพร้อมจะยืนเป็นเสาหลักให้ตัวเองและครอบครัวได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ใช่เอาอนาคตตัวเองไปฝากไว้กับคนอื่น เราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต

ขอให้โชคดีทั้งสามคนครับ