[RE: หญิงไทยในวรรณคดี วัดกัน ตัวๆระหว่าง โมราและกากี]
devilrider พิมพ์ว่า:
Gorge พิมพ์ว่า:
ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งนะครับ กรณีของวันทองนั้น อยากให้อ่านเสภาบทที่พระพันวษารับสั่งถามนางว่าตกลงจะไปอยู่กับใครแน่ ขุนแผน (ตอนนั้นเป็นพระยากาญจนบุรีแล้ว), ขุนข้าง หรือจมื่นไวยวรนาถ (พลายงาม) บุตรชาย
“จะว่ารักขุนช้างกระไรได้ ที่จริงใจมิได้รักแต่สักหนิด
รักพ่อลูกห่วงดังดวงชีวิต แม้ทูลผิดจะพิโรธไม่โปรดปราน
อย่าเลยจะทูลเป็นกลางไว้ ตามพระทัยท้าวจะแยกให้แตกฉาน
คิดแล้วเท่านั้นมิทันนาน นางก้มกรานแล้วก็ทูลไปฉับพลัน
ความรักขุนแผนก็แสนรัก ด้วยร่วมยากมานักไม่เดียดฉันท์
สู้ลำบากบุกป่ามาด้วยกัน สารพันอดออมถนอมใจ”
อ่านแล้วเห็นไหมครับว่าใจจริงแล้ววันทอง หรือ นางพิมพิลาไลยนั้นรักขุนแผนเพียงคนเดียว หาได้สองใจดังคำประณามแม้สักนืด และด้วยกลัวเพทภัยจะมาถึงพ่อ-ลูก คือขุนแผนและพลายงาม ซึ่งทั้งสองกำลังก้าวหน้าในราชการหลังทำความชอบพิชิตเชียงใหม่ได้ นางจึงเลือกกราบทูลเป็นกลาง ๆ ไว้ แต่กลับทำพระพันวษาพิโรธถึงกับมีรับสั่งให้ประหารนางเสีย ผมมองว่านี่เป็นโศกนาฏกรรมที่สุดบทหนึ่งในขุนช้างขุนแผนเลย
เหมือนเพลงวันทอง ของคนด่านเกวียน นั้นละครับ
ขุนแผน มีเมียไปทั่ว กลับไม่มีใครว่า วันทอง รักเดียว แต่ถูกบังคับให้แต่งงาน โดนตราหน้า สองใจซะงั้น
ถ้าวัดจากค่านิยมปัจจุบันขุนแผนก็แย่ครับ แต่ถ้าใช้มุมมองของคนยุคนั้น ขุนแผนเป็นก็ถือเป็นขุนทหารระดับร้อยเอก (ตอนเริ่มรับราชการ) การจะมีภรรยามากกว่า 1 นั้นก็เป็นเรื่องปกติของขุนนางยุคนั้น ยิ่งตอนหลังแกเป็นพระยาด้วยแล้วยิ่งไม่แปลก
ส่วนตัวมองว่าแกทำแย่ ๆ ในกรณีของนางสายทอง และบัวคลี่ เท่านั้น ยิ่งกับบัวคลี่ ถึงแม้จะอ้างได้ว่านางจงใจวางยาพิษถึงได้สังหารแล้วเอาลูกมาทำกุมารทอง แต่ความตั้งใจดั้งเดิมของขุนแผนคือการหาของวิเศษสามสิ่งอยู่แล้ว ซึ่งก็คือ ดาบฟ้าฟื้น, ม้าสีหมอก และกุมารทอง โดยบัวคลี่เองถูกเลือกไว้เป็นเป้าหมายไว้ตั้งแต่ที่ขุนแผนเจอหน้าแล้ว