แชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองนะครับ
ผมเป็นคนนึงที่ไม่อยากเป็นทหาร จึงไปเรียน รด.
ในเรื่องของการทดสอบที่เป็นประเด็นนั้น "ผมไม่ผ่านการทดสอบครับ"
แต่ทางโรงเรียนก็ได้มีการช่วย ให้สอบซ่อม จนผ่านมาได้
อันนี้ไม่ใช่ประเด็น แต่เห็นคนพูดแนวนี้เยอะ

การเรียนในปีแรก ผ่านไปได้ด้วยดี ใช้เวลาเรียนแค่ไม่นาน ก็จบปี1
แต่ ผมซวยครับ ป่วยเป็นโรคๆหนึ่ง คือเยื่อบุผนังปอดบาง จนมันแตก
นอนโรงพยาบาลจนปี2 ผ่านพ้นไป หมอให้ความเห็นว่า เรียนไม่ได้
ออกใบรับรองแพทย์ของรัฐให้ ซึ่งไม่ใช่ ใบรับรองของโรงพยาบาลทหาร

เวลาล่วงเลยไป ผมใช้สิทธิ์ผ่อนผัน ในปีแรก พร้อมปรึกษา สัสดี ณ ตอนนั้น
เค้าแจ้งว่าให้ไปตรวจที่ โรงพยาบาลทหาร แล้วปีหน้ามาได้เลย
ผลคือ เป็นโรคที่กล่าวจริง แต่ในข้อกฏหมาย โรคนี้ไม่ได้ถูกบรรจุ
สุดท้ายแพทย์ให้คำแนะนำมาว่า ฝึกได้ เหนื่อยไม่ไหว มีอาการ เดี๋ยวเค้าก็ให้พัก
ผมตอบได้แค่ว่า อ้อ ดีจังเลยครับ...
สุดท้ายช่างมันครับ ดีสะอีกจะได้ไม่ต้องมีประวัติป่วยไปสมัครงาน
ผลคือใบดำครับ รอดตัวไป

สุดท้ายแล้วอยากจะพูดในฐานะคนไม่เห็นด้วยกับระบบเกณฑ์ว่า

เป็นโรคเรียนรด.ไม่ได้ แต่เป็นทหารเกณฑ์ได้

ผมไม่ได้เรียน รด. เพราะว่าวันทดสอบผมป่วยพอดี
สุดท้ายเลยต้องมาจับใบดำใบแดง ไม่อยากสมัครเพราะตอนนั้นได้งานดีๆ ทำแล้ว เสี่ยงเอาละกัน สุดท้ายจับได้ใบดำ

เป็นโรคเรียนรด.ไม่ได้ แต่เป็นทหารเกณฑ์ได้

เพื่อนผมมันก็มีแหละ ไม่อยากเกณฑ์ทหาร แต่ก็ไม่เรียน รด. เพราะกลัวดำ กลัวต้องตัดผมเกรียน ก็ไปวัดที่จับใบดำ-แดง เลย

เอาจริงๆ ผมเรียน รด. มาเนี่ย ขนาดเจอพวกที่เกณฑ์ทหารมามันยังข่มเลยนะ ประหนึ่งว่าก็คือการหนีทหารเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ผมเสียเวลา 3 ปีเรียน รด. และยังได้เรียนหนังสือไปด้วย ส่วนอีกคนเกณฑ์ทหารเสียเวลา 2 ปี แต่ได้ งด.(มั้ง) ไม่รู้ใครดีกว่ากัน

คือผมไม่ได้ติดใจอะไรตรงนี้นะ เพราะยังไงโรคที่ผมเป็นมันก็เป็นใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลรัฐ
พอไปโรงพยาบาลทหาร เค้าก็ใช้เวลาวินิจฉัยอยู่นาน จนตอบกับผมมาตามนั้น ผมก็คิดในแง่ดีว่า
อย่างน้อยไม่มีประวัติเรื่องป่วยพิการ สมัครงานอะไรมันสบายใจกว่า

ไม่ได้เรียนครับ ไปจับได้ใบดำ สบานตัวไปผม

เพื่อนผมหลายๆคน
เจอข่าวว่า เรียนไปก็ได้เกณฑ์ แล้วดันเชื่ออีก

ผมก็ไม่เรียน รด. ครับ เหตุผลคือ มัธยมอยู่ต้องพักอยู่ที่บ้านป้า ซึ่งบ้านป้าผมอยู่กันหลายคนมาก แล้วผมต้องนอนห้องเดียวกับยาย เรียน รด. มันเลอะเทอะกลับมาตลอด ซึ่งผมทำอะไรก็เกรงใจที่บ้านป้ามากๆ

ผมก็แจ้งครูไปว่าไม่เรียน บอกพ่อแม่ให้เข้าใจ แต่ก็มีคำถามต่อว่าแล้วเกณฑ์ทหารจะเอายังไง ผมก็บอกไปว่าจบมหาลัยก็สมัครเอา 6 เดือนเอง ถึงจะไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์แต่เมื่อเลือกทางแล้วก็ต้องมองหาทางออกเอาไว้ด้วย

แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้เป็นทหารเกณฑ์นะ

เล่าเฉยๆเรื่องของเพื่อนผมเอง

เพื่อนคนนี้รอไปจับใบดำใบแดงปีนี้แหละ

ตอน ม.3 เล่นบอลกัน จำไม่ได้ว่าทำอีท่าไหน

ไอ้นี่เจ็บขาเล่นต่อไม่ไหว เพื่อนๆก็คิดว่าไม่เป็นไรมากหรอก

เด็กๆอะนะ ก็ให้พักแปปนึงเชียร์ให้มาเล่นใหม่

ลองโดดดูดิ๊ ลงมาเล่นดี๊ ผ่านไปแปปเดียว มันบอกว่าขามันไร้ความรู้สึกไปเลย

โทรเรียกแม่ขนย้ายขึ้นรถกันอย่างทุลักทุเล สรุปกระดูกหัก มั้งไม่มั่นใจ

ใส่เหล็กในขา อดเรียน รด.ไป จำไมไ่ด้นะว่า มันหายเมื่อไหร่ แต่มันว่าจะไม่เอาออก

จะได้ไม่ต้องเกณฑ์ แต่พอไปตรวจเขาก็บอกว่า มันหายแล้ว ใส่ไปก็เท่านั้น เดี๋ยวเขาก็ให้เอาออก หนีไม่พ้นหรอก ยังไงก็ต้องเกณฑ์

ผิดแผนหมดเลยทำเรื่องผ่อนผันแทบไม่ทัน

ถามหน่อยครับ ถ้าสมมุติว่ามีการรบเกิดขึ้น จน รด ถูกเเรียกไป แล้ว
พวกที่จับได้ใบดำมีโอกาสไปป่ะครับ หรือ จับได้ใบดำคือ หลุดพ้นจากการเป็นทหารเลย

รด.คือกำลังพลสำรอง คนได้ใบดำคือพลเรือนทั่วไป

แต่ถ้าประเทศวิกฤติขนาดต้องเรียกรด.ไปรบ

คนธรรมดาก็คงโดนเกณฑ์ไปด้วยแน่นอน

รด.โรงเรียนผมเรียนวันเสาร์ ผมไม่เรียน เพราะ ขี้เกียจ วันธรรมดาที่มันมีงานเกี่ยวกับรด. ผมก็โดด

วันเสาร์ที่พวกมันเรียนกัน ผมก็ไปรอร้านเกมรอพวกมันเรียนเสร็จ บางวันก็โดดกันทั้งวัน
เพื่อนที่ไม่ได้เรียน ไม่มีใครได้เป็นสักคน อุดบ้าง ใบดำบ้าง มีผมเป็นคนเดียว

ผมติดใจ คิดว่ามันเรื่องใหญ่นะ จับได้ใบดำก็ดีไป แต่ถ้าได้ใบแดงชีวิตเปลี่ยนเลยนะ
ถ้าผลสรุปว่าโรคนี้เรียนรด.ได้ เรียนรด.จบปี 3 ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร
ถ้าโรคนี้ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร เราก็ไม่ต้องวัดดวงจับใบดำใบแดง

รุ่นผมโชคดี ที่ปี2ไม่ต้องไปเขาชนไก่ มันมีอะไรซักอย่างที่ทำให้อดไปกันทั้งปี ผมก็จำไม่ได้
ปี3ตอนไปสูดฝุ่นแดงกลับมานี่ เหมือนตีบวกปอด+10 555

ตาม step ก็น่าจะ ทหารเกณฑ์>กำลังพลสำรอง (รด.)>พลเรือน+ใบดำ
(ใบดำก็เหมือนหลุดพ้น เป็นพลเรือนแหละครับ ไม่เคยถูกฝึก) แต่ถ้าขนาด รด. ต้องไปนี่ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้นกันละครับ