คือผมได้ขับรถผ่านแถวร้านเกมส์ร้านเช่าหนังสือในสมัยตอนเด็กๆคือแทบทยอยปิดร้านไปกันหมดแล้วร้านเกมส์ที่เคยเห็นเปิดชนกันเป็นสิบๆร้านตอนนี้กลายเป็น ร้านขายของ อาหารตามสั่ง หมดเหลือแค่ไม่กี่ร้านที่ยังเปิดอยู่ยิ่งร้านเช่าหนังสือการ์ตูน-นิยายนี่หายเกลี้ยง ไม่เหลือเลยสักร้าน ผมได้แวะเข้าไปร้านเกมส์เก่าแถวโรงเรียนที่ยังเปิดอยู่โอ้โหอย่างโล่งเลย มีคนเล่นอยู่แค่สิบกว่าคนเองมั้งขนาดเปิดใกล้โรงเรียนนะนั่น ผมจำได้ว่าสมัยผมนี่หาที่จอดมอเตอร์ไซด์ยังยากเลย แต่ล่าสุดที่ผมไปนี่จอดรถเก๋งได้สบายมาก คอมจำได้ว่าสมัยผมมีราวๆ 50 เครื่องตอนนี้เหลืออยู่ 30 เครื่องเองมั้ง เห็นแล้วนึกถึงสมัยสิบปีก่อนแฮะเวลานัดจะไปไหนกับเพื่อนจะนัดเจอกันที่ร้านเกมส์ตลอดเวลาจะไปไหนด้วยกัน เดี๋ยวนี้ท่าจะไม่มีแล้ว

ร้านเช่าหนังสือน่าจะหมดส่วนเกมร้านใหญ่ๆยังอยู่รอดนะครับ หาน้ำข้าวมาขายเองน่าจะโอเคอยู่ถ้าไม่ต้องเช่าสถานที่นะติดถนนใหญ่ไรงี้

ร้านเกมส์ ร้านไหน ลงทุนสูง เปิดบริเวณแหล่งศึกษา ยังคงได้รับความนิยม
แต่ร้านหนังสือซาไปพอสมควร รายได้จาก้านหนังสือ มาจากการ์ตูนส่วนใหญ่
แถมตอนนี้ อ่านออนไลน์กันได้

เด่วนี้ทุกบ้านมีคอมกันหมดละ อินเตอร์เน็ตก็ติดกันง่ายมากขึ้น เกมออนไลน์ การสื่อสารบลาๆก็ง่าย

ตัวอย่างง่ายๆ เล่นดอทกัน คุยผ่านแอพออนไลน์ได้ตั้งกี่แอพ แถมเปิดแอร์นั่งเล่นสบายๆไม่ต้องมีพวกเด็กหัวโปกมาตะโกนข้ามหัวไปมา

ก็ธรรมดาแหละครับที่จะล้มหายตายจากไป

ส่วนร้านหนังสือ กับร้านเช่าดีวีดี เหมือนกันเลยคือ พังเพราะอินเตอร์เน็ตที่เข้าถึงได้ทุกอย่าง

มข บ้านผมยังมีร้านเกมส์ แล้วก็ร้านเช่าการ์ตูนอยู่นะ ผมกลับบ้านขอนแก่นช่วงวันหยุดทีไร ต้องไปอุดหนุนประจำ บ้านผมอยู่หลัง มข แต่ร้านเกมส์คือปรับตัวกันมากขึ้น ซื้อคอมดีมาบลัฟกัน คอมแบบที่สเปคโน๊ตบุ๊คเราไม่สู้ จอใหญ่ แต่ค่าชั่วโมงก็แพงขึ้น แต่คนยังแน่นเหมือนเดิม

ใช่ครับ น่าจะยุคปลายของวงการเกมคอนโซลเช่าของไทยละ

เพราะกำลังซื้อของคนรุ่นใหม่เยอะขึ้น บวกกับเกมมือถือ สามารถเข้าถึงได้ทุกคน

กิจการต่อไปที่น่าจะบูมก็น่าจะพวก ร้าน กาแฟ สำหรับนั่งฆ่าเวลา หรือพวกร้านบอร์ดเกมอะครับ

เห็นในกรุงเทพทยอยเปิดกันเยอะจริง ธีมร้านอารมณ์แบบ เรโทร ยุค90

แล้วขายดีด้วยนะ ในกลุ่มเกมที่ผมสิงอยู่นี่ เห็นนัดกันไปเกือบทุกอาทิตย์

ไม่รู้เชียงใหม่มีไหม ผมเองก็ชอบเล่นนะแต่ก่อน ชอบเล่นเกมเศรษฐีทอยลูกเต๋าเดิน สนุกดี

ต้องบอกว่า มันแล้วแต่พื้นที่ครับ

อย่างร้านผม 20 เครื่องยังอยู่ได้เรื่อยๆ นะ ลูกค้า เกิน 50% ทุกวัน ทั้งวัน

ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักขัดฯ ก็เต็มเกือบทั้งวันนะ

นี่ก็เพิ่งอัพเกรดสเป็คใหญ่ไปเมื่อต้นปี จาก A8 เป็น Ryzen 3

มองยาวๆ ในละแวกพื้นที่ร้านผม ยังอยู่ได้อีกหลายปีเลยทีเดียว ( เปิดมาแล้ว 5 ปี )

เพราะสุดท้าย เกม Mobile ก็สนุกสู้ เกม PC ไม่ได้อยู่ดี

สังคมเด็กเล่นเกมส์ ยังสนุกกับร้านเกมส์มากกว่าเล่นคนเดียวที่บ้านแน่นอนครับ

หลัง ม ผมไม่ได้ไปมาซัก 8 ปีได้เเล้วมั้ง นึกถึงสมัยผมยังอยู่เลยช่วงดึกยันเช้ามีจ่ายเเบบเหมาๆราคาถูกลง ร้านวินนิ่งนี้เล่นยันเช้าเจ้าของร้านเอาปาท่องโก้ โอวัลตินมาให้ฟรี ไม่รู้ว่าร้านประจำผมจะเปลี่ยนมือเจ้าของไปกี่มือเเล้วเนี่ยพูดเเล้วก็อยากไปนั่งเล่นอีก 555

มันจะมีความต่างแค่นิดเดียวจริงๆนะ เล่นในร้านกับเล่นคนเดียว

โค๊ชเกาะเบาะเอย ตีกันในร้านเอย ม่างอย่างฮา

เดี๋ยวนี้ มีร้านเกมส์คอมร้านนึงแถวกังสดาร ผมเพิ่งไปเล่นดอทกับเพื่อนมาตอนปีใหม่ กลับบ้าน เพื่อนพาไปลอง

คอมอย่างหรูครับ คีบอร์ด เมาส์ เกมมิ่งหมด มีห้องส่วนตัว สำหรับมาเป็นทีม 5 คนด้วย เอาไว้ซ้อมทีม เพลินมาก แทนที่จะฉลองปีใหม่ เล่นดอทกันเกือบทั้งคืน

แถมในร้านมีอาหารเวฟCP แล้วก็กาแฟสดพร้อม

ราคาโดยรวมก็จะแพงนิดนึงเด็กเลยน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาไปจนถึงวัยทำงานครับ

เขร้ มีห้องพร้อมเเข่งเลย E-Sport ready สุดๆ 555

เดี๋ยวนี้มือถือเล่นเกม อ่านการ์ตูน ดูหนัง แม้แต่ซื้อของ ก็ทำได้ครบหมดละ

ธุรกิจขายหนังสือไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังไงก็ไม่ตาย
แต่ร้านเช่าหนังสือ เป็นกิจการที่ไม่รู้จะปรับตัวยังไงเลยนะ เมื่อก่อนปรับตัวด้วยการมีหนังสือหลากหลาย แต่ตอนนี้ถ้าทำแบบเดิมคือขาดทุนยับ ต้นทุนหนังสือก็แพงขึ้น ลิขสิทธิ์บ้านเราก็ไม่จริงจัง เวลาผมเจอร้านเช่าที่อยู่ด้วยกันมาแต่เด็ก โคตรสงสารเลย เพราะร้านเหล่านี้ทำให้ผมชอบอ่านจนทุกวันนี้

ร้านหนังสือการ์ตูนแถวบ้านเชียงใหม่ปิดไปหมดละ ร้านเกมส์ที่เห็น ๆ เหลืออยู่สองร้าน คนน้อย เหมือนเปิดให้พอค่าใช้จ่าย
ถ้าคิดภาพความจริงเดี๋ยวนี้เด็กได้เงินไปโรงเรียนเยอะนะ ตอนผมเรียน ม.ต้นได้ไป 40 บาท กินกลางวัน 15-20 บาท น้ำ 3-5 บาท เหลือ 15 บาทไว้ซื้อขนม ถ้ากินมื้อเช้าด้วยก็หมด ไม่มีปัญญาซื้อการ์ตูนเล่ม 35-40 บาทมาอ่าน ต้องไปเช่าอ่านเอา ร้านเกมส์ใช้ออมเงินแล้วไปเล่นวันเดียวต่ออาทิตย์ คนละครึ่งกับเพื่อน

เป็นผลดีกับผมอ่ะหาซื้อหนังสือมือ2มาสะสมได้เยอะเลย