เห็นกระแสตอบรับมาทั้งหมดคือ ผมผิด โอเคครับ

บางคนก็บอกว่าจะกล้าปฎิเสธหรอ ครับผมกล้า ใครเอามาให้ผมถ้าผมไม่ทำก็คือไม่ทำ จะเกรงใจกันทำไม

ที่ผมถามนี่ก็เพราะว่า อยากให้เค้าทำด้วยใจ เดินแจกก็เพราะอำนวยความสะดวก ไม่ได้บังคับจับมือหรือเรี่ยไรเลย

ไม่ทำก็บอกกันซิว่าไม่ทำผมจะได้เอาซองให้คนอื่น ซองมันก็มีน้อย วัดเค้าทำแผ่นทองมาให้ด้วยเลยทำมาแค่นั้น

ผมไม่ได้บังคับใครทำนะ พูดกันตรงๆจะเป็นอะไรไป ของทุกอย่างที่ยืมผมไปก็ต้องมาคืน คุณขอยืมไม่ได้ขอเอาไปเลย

ที่บอกว่าถ้าติดหนี้จะขนาดไหน ก็ขนาดโทรไปให้ที่บ้านมันโอนมาให้ผมอ่าครับ

สุดท้ายละ ผมได้ฟังจากหลายๆคนก็ตามนั้นครับ ผมผิดเอง ผมคิดมากไปเอง ผมขอโทษครับ

ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับการทำหน้าที่ส่วนรวมของผมในบริษัทนี้ มันก็ดีนะครับที่ทำให้รู้ว่าใครเป็นยังไง

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

นี่แหละครับ ไม่ทำก็บอกไม่ทำ แค่นั้นที่ผมต้องการ ไม่ใช่เอาไปแล้วเงียบหาย

ผมเกรงใจคนที่จะแจกมากครับผมถึงถามเค้าก่อน แล้วไม่ได้ถามดัง ถามเงียบๆคุยกันแค่ 2 คน

ไอ้คนที่กวักมือเรียกผมบอกว่า น้องๆๆๆเอามาเลย เดี๋ยวพี่ทำ งานบุญมาเลย จนวันนี้มันยังไม่ให้ผมเลยครับ

มีเหมือนกันแหละ คนที่นี่อยากได้หน้าแต่ไม่อยากเสียเงิน ปฏิเสธก็กลัวเสียหน้า 55

ถ้าผมคลั่งจริงผมคงแจกทุกงานและไม่ได้แจกธรรมดา พี่ๆทำบุญกันนะครับแล้ววางไว้ตรงนั้นเลย ผมไม่มาถามทุกคนให้เมื่อยหรอกครับ

ที่บริษัทนี้ก็เป็นครั้งแรกของผมที่เอามาแจกก็เจอแบบนี้ซะละ แล้วพอเอามาถามในนี้ก็เจอประโยคสั้นๆแต่โคตรกระแทกจิตใจเลย

ยังไงก็ขอบคุณนะครับท่านที่แสดงความเห็นกันตรงๆ ขอบคุณครับ

จุดนึงที่เห็นชัดเจนมากจากทั้งโพส และคอมเม้นท์คือ

"อัตตาของท่านสูงมาก" ยึดตัวเองเป็นหลักแบบที่ไม่สนโลกเลย อะไรที่ท่านคิดว่าใช่ ท่านก็คิดแค่ว่าคนอื่น"ต้องทำ"แบบท่านเท่านั้น ต่างจากนั้นถือว่าผิด

นี่คือการเรี่ยไรนะครับ นั่นคือทำบุญตามศรัทธา ซึ่งเขาไม่ศรัทธาที่จะทำ เขาก็ไม่ทำ
แต่สิ่งที่ท่านทำ กลับคล้ายๆว่า ท่านกำลัง"ขาย"แผ่นทองเหลืองอะไรที่ท่านว่านี่ รับไปแล้วต้องจ่ายตังค์ด้วยนะ ของซื้อของขายเอาไปฟรีได้ยังไง
.
.
.
ผมอ่านมาแล้วรู้สึกแบบนั้นนะ

ผมขออธิบายนึดนึงนะครับ คือผมอยากให้เค้าทำตามศรัทธาของเค้า ถ้าไม่ศรัทธาก็ไม่ต้องทำและไม่ต้องรับไปแค่นั้นครับ

แต่ที่ผมเคืองคือ เอาไปแล้วแต่ไม่สนใจเลยครับ บอกเราซักนิดว่าไม่ทำหรืออะไรก็ได้ครับผมจะได้ไม่ต้องให้

ส่วนตัวผมนะ ผมบอกตรงๆเลยว่าผมไม่ค่อยทำบุญเลย ปีๆนึงนี่นับได้เลยครับกับการทำบุญเนี่ย

ผมมองตัวเองเป็นใหญ่มันก็ถูกนิดนึงนะ เพราะผมอยากให้คนเหล่านั้นพูดตรงๆกับผม แต่ผมไม่เคยทำใครเดือดร้อนเลยครับ

ถ้าซองนี้ไม่ใช่ของแฟนผม ผมไม่มีทางที่จะรับมาช่วยเหลือแน่นอนครับ ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ

ขออภัยที่โควทนะครับ

ตอนนี้ที่ท่านทำคือ ให้คนอื่นทำบุญตามความเกรงใจท่าน ด้วยการส่งซองให้กับมือ มีแน่นอนครับที่รับซองไปทั้งๆที่ไม่ศรัทธา แต่แค่เกรงใจท่าน
แต่ในมุมของท่านคือ รับไปแล้วต้องทำ ไม่ว่าเขาจะรับเพราะศรัทธาหรือเกรงใจ ถามกลับว่า ท่าน"เกรงใจ"คนรับหรือเปล่าล่ะครับที่เอ่ยปากถามเขาว่า "จะศรัทธาทำบุญกับซองของแฟนท่านมั๊ย"

สาเหตุใหญ่เป็นเพราะ "่ท่านออกตัวให้แฟนท่าน"ที่บริษัท
ลองกลับกับสิครับ วางซองไว้ที่ใดที่นึง แล้วให้เขาหยิบกันเองโดยไม่ต้องถามสิครับ จะเหลือคนศรัทธากี่คน

ถ้าจะเอาทองกลับไปหล่อก็ทวงต่อหน้าไปเลยครับ บอกไปว่าไม่ใส่ไม่เป็นไรผมต้องการทองเอาไปหล่อพระอะไรก็ว่าไปครับ

ทำบุญ หรือ บังคับเอาเงิน

เค้าไม้ได้ ร้องขอให้คุณเอาซองมาให้ นิ

ผมนี่โครตไม่ชอบเลย พวกมาขอชื่อเป้นกรรมกาม

เอาซองมาใส่มือนี่ ผมไม่ใส่เลย

ถ้าผมอยากทำ ผมทำเอง

ตลกจัง

ผมก็ไม่ได้ร้องขอให้เค้าใส่นี่ครับ ก็ถามแล้วนะว่าสะดวกมั้ย แล้วคำตอบที่ได้คือ เอามาเลย

บอกซิว่า ไม่สะดวก เอาไว้ก่อน ไม่ต้องเกรงใจกันครับ ถ้าเกรงใจแล้วลำบากใจจะเกรงใจกันทำไม

ปล่อยไปครับ เอาเท่าที่ได้ บุญหรือบาปอยู่ที่ใจท่านมากกว่าซอง ร่มๆ ไว้

มีเยอะครับ คนที่ไม่สะดวก แต่เกรงใจ ผมก็คนนึง

ล่าสุดก็มีมา แถมใส่ชื่อเป็นกรรมการด้วย

เขาเอามาให้ ผมรับมา แต่ก็ไม่ได้ใส่ จนเขามาถาม ก็เลยใส่แล้วให้ไป

บอกเลยถ้าเขาไม่มาทวงผมก็ไม่ใส่หรอก ปกติผมทำบุญก็ทำที่วัดเลย

เลิกเถอะครับซองผ้าป่า ขนาดรับมาแจกยังลำบากใจ หลายคนหลายความคิดเห็น บุญบางคนก้อบอกไปทำเองก้อได้ท่านทำไง แต่เคสนี้แนะนำ ไม่ต้องตามแล้ว