ไปลอยกระทงด้วยกันไหม(บทความ)

BLOG BOARD_B

ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com

ไว้คราวหน้า X

ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย

ไปหน้าที่ 1

ไปที่หน้า

ตั้งกระทู้ใหม่

ฝากรูป

หน้าแรกบอร์ด >> บอร์ดวาไรตี้

ผู้ตั้ง

ข้อความ

ออฟไลน์

Mikryroft Thekop

นักบอลลีกภูมิภาค

Status:

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 05 Dec 2016

ตอบ: 700

ที่อยู่:

โพสเมื่อ: Tue Nov 20, 2018 10:41

ไปลอยกระทงด้วยกันไหม(บทความ)

ใกล้วันลอยกระทงแล้ว มีคนไปลอยกระทงด้วยกันหรือยังครับ?

ตอนผมเรียนหนังสือ มีเพื่อนเคยบอกว่า "สระที่มหาวิทยาลัยศักดิ์สิทธิ์มาก ถ้าคนโสดไปลอยกระทงด้วยกันแล้วจะเป็นแฟนกัน"

เพราะอะไรกันนะครับ?

เพื่อทำความเข้าใจเหตุผลนี้ ผมจะอธิบายทฤษฎีเกมอย่างง่ายนะครับ โดยสมมติว่ามีผู้ชายกับผู้หญิงกำลังทำความรู้จักกัน ผู้ชายจะเป็นฝ่ายชวนขณะที่ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธเท่านั้น

รูปแบบผลลัพธ์มีได้สี่แบบ คือ
1. ผู้ชายชวน ผู้หญิงตอบตกลง
2. ผู้ชายชวน ผู้หญิงปฏิเสธ
3. ผู้ชายไม่ชวน ผู้หญิงตอบตกลง
4. ผู้ชายไม่ชวน ผู้หญิงปฏิเสธ

เหตุการณ์ 3 และ 4 จะไม่เห็นผลลัพธ์ เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในกรณีนี้เราไม่รู้ว่าผู้หญิงคิดอย่างไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ผู้ชายไม่สนใจจะชวนครับ

บทสรุปแรกคือ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นต้องมาจากเหตุการณ์ 1 หรือ 2 เท่านั้น ว่าแต่ทั้งเหตุการณ์ที่ 1 หรือ 2 เกิดขึ้นได้อย่างไรครับ?

อย่าลืมความเชื่อที่กล่าวกันว่า “ถ้าคนโสดไปลอยกระทงด้วยกันแล้วจะได้เป็นแฟนกัน” แสดงว่าผู้ชายต้องคาดหวังจะเป็นแฟนจึงจะชวน มิเช่นนั้นจะเป็นการส่งสัญญาณหลอกให้ผู้หญิงคิดไปเองว่ามีใจ

แล้วฝ่ายผู้หญิงจะทำอย่างไรครับ?

ถ้าผู้หญิงไม่ชอบผู้ชาย ก็เลือกที่จะปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้ผู้ชายคิดไปเองว่ามีใจ (กรณีที่ 2)
แต่ถ้าผู้หญิงมีใจให้แล้วย่อมอยากไปด้วย เพื่อลุ้นให้เป็นแฟนกันตามความเชื่อ (กรณีที่ 1)

บทเรียนจากบทความนี้คือ

1. “ถ้าคนโสดไปลอยกระทงด้วยกันแล้วจะเป็นแฟนกัน” เป็นเพียง self-fulfilling prophecy หรือ เหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะคนคาดการณ์ว่าจะเกิดนั่นเอง อีกนัยหนึ่งคือ “เพราะ ทั้งสองคนคนหวังอยู่แล้วว่าจะได้คบเป็นแฟน จึงกล้าไปลอยกระทงด้วย ดังนั้นหลังไปลอยกระทงด้วยกันไม่นาน จึงตกลงคบกันเป็นแฟน”

ความจริงแล้วการชวนไปลอยกระทงด้วยกัน เหมือนเป็นคำถามทางอ้อมว่า "เป็นแฟนกันไหม" ก็เท่านั้นเองครับ คำตอบของฝ่ายหญิงว่าไปหรือไม่ ก็เปรียบได้กับการตอบตกลงหรือปฏิเสธแบบอ้อม

(ตัวอย่างอื่นๆของ self-fulfilling prophecy เช่น คนคิดว่าราคาหุ้นจะเพิ่มจึงรีบเข้าซื้อ ราคาหุ้นก็เลยขึ้นจริง)

2. ตัวอย่างนี้เป็นตัวอย่างของ Selection bias ในเชิงเศรษฐมิติ ว่าความจริงแล้วการไปลอยกระทงด้วยกันไม่ได้ส่งผลให้คนโสดเป็นแฟนกัน แต่ทว่าเป็นเพราะคนที่คาดว่าจะเป็นแฟนกันเท่านั้นจึงจะไปลอยกระทงด้วยกัน (มีการคัดคนที่ไม่ชอบออก)

ปัญหานี้ค่อนข้างสำคัญและต้องระวังในงานวิจัยหลายชิ้น เช่น “คนที่จบ Harvard มักมีรายได้สูง เพราะ Harvard เป็นมหาวิทยาลัยที่ดัง หรือ คนเก่งมีความสามารถเท่านั้นจึงจะเข้าเรียนที่ Harvard ได้ และเป็นเพราะคนเหล่านี้มีความสามารถจึงมีรายได้สูงไปด้วยกันแน่ครับ”

ว่าแต่... มีใครสนใจไปงานลอยกระทงด้วยกันผมไหมครับ (แต่คงไม่ได้ลอยนะครับ ไม่อยากให้น้ำเน่าครับ)

Credit:TheInvisibleEconomist

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

termotee , playmaker , DickeY , 2ThunderBird

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ