เพิ่งเคยเห็นไก่ทอดคอนเฟลคแหะ ผมไปอยู่ไหนมาเนี้ย ดูน่ากินกว่าเกร็ดขนมปังอีก

รอดไม่รอด มันต้องลงมือทำดูก่อน สู้ๆ ครับ ทำเลดีแบบนั้นถ้าทำให้ติดปาก เด็กบอกต่อได้ก็อยู่ยาวครับ

ต้องเคี้ยวเองผสมเอง

ปล. ผมทำมายองเนสเป็นนะครับ

มันไม่อมมันครับ กรอบกว่าด้วย กรุบๆๆ ปรกติคอร์นเฟลคมันก็ หวานๆมันๆในตัวมันเองอยู่แล้วครับ

แต่อย่าเอาไปทอดซ้ำนะครับ อมน้ำมันก็พังเลย สู้ๆนะครับ เอาใจช่วย ลงไปสุราษฎร์จะไปชิม

ขอให้ความเห็นหน่อยละกันครับ ในฐานะที่เคยออกจากงานประจำและลงทุนทำอาหารข้างทางขายมาก่อน

ออกตัวก่อนว่าผมไม่ขาดทุนนะ ไม่เจ๊ง แต่รายได้ไม่ได้คุ้มค่าขนาดที่จะออกจากงานประจำได้ เลยเลิกแล้วกลับไปทำงานประจำดีกว่า

เพราะเหตุผลต่างๆนานา จะพูดไปเรื่อยๆละกันนะครับ 555

ผมเห็นท่านคำนวณต้นทุนของท่านมาแล้วในส่วนของ variable cost ถือว่าดีครับ ขายไม้ละ 5 บาท สินค้าราคาเท่านี้ได้กำไร 50% นี่ถือว่าบริหารได้ดีเยี่ยม

แต่ที่ขาดไปอาจจะเป็นพวก fixed cost หรือกึ่งๆ fixed cost ครับ ซึ่งจากการที่ท่านหวังว่าจะทอด 4 รอบรอบละ 50 ไม้ แปลว่าท่านคาดว่าจะขายให้ได้วันละ 200 ไม้ ซึ่งตีเป็นกำไรเท่ากับ 500 บาท ซึ่งถือว่ากลางๆครับ แต่ถ้าคิดค่า fixed cost ขึ้นมาเช่น

1. ค่าเช่าที่ แน่นอนแหละ ขายวันละ 200 ไม้ ถ้าคนไม่เคยทำจะคิดว่ามันไม่เยอะ แต่จริงๆมันเยอะนะ ยิ่งท่านเล็งจะขายพื้นที่ใกล้ๆ มหาลัย ช่วงไพร์มไทม์ และเวลาที่ท่านจะลงมือขายไหว ผมให้วันนึงไม่เกิน 6 ชม. ครับ เท่ากับว่า ชม.นึงท่านต้องขายให้ได้ 33 ไม้อย่างสม่ำเสมอ ถ้าลูกค้าคนนึงซื้อเฉลี่ย 4 ไม้ แปลว่าท่านจะต้องมีลูกค้าเข้ามาซื้อทุก 7-8 นาที เหมือนไม่ยาก แต่ยากอยู่นะครับ ช่วงพีคอาจจะขายไม่ทันก็จริง แต่ช่วงว่างก็ว่างยาวเลย จึงแนะนำว่าลองประเมิน Demand ดูให้ดีครับ ค่าเช่าที่ที่จะทำให้ขายเท่านี้นี่ไม่ถูกแน่นอน หรือจะไปเสี่ยงขายริมถนนก็ระวังโดนเจ้าที่ลงครับ

2.ค่าขนส่ง ผมไม่แน่ใจว่าทำเลที่ท่านว่าอยู่ใกล้/ไกลจากบ้านหรือ HQ ของท่านขนาดไหน แหล่งซื้อของท่านต้องไปที่ไหน แต่ถ้าซื้อในปริมาณไม่เยอะ เฉลี่ยค่าน้ำมัน ค่าเสื่อมรถออกมา มันก็จะเยอะขึ้นในต้นทุนต่อหน่วยนะครับ แต่ถ้าวางแผนดีๆ มีการใช้รถขนผลไม้อยู่แล้ว ลองใช้งานร่วมกันดู ท่านอาจจะประหยัดส่วนนี้ไปได้เลย หรือเรียกว่า Economy of Scope

3.ค่าน้ำ ค่าไฟ ในการดำเนินการ อันนี้แล้วแต่ที่ครับ ถ้าเช่าที่ที่มีครัวให้เลยก็ต้องเผื่อเรื่องตู้เย็นเก็บของ ค่าน้ำ ค่าไฟ ในการจัดเตรียมหรือล้างภาชนะ ซึ่งไม่ใช่น้อยๆนะ

4.ค่าจิปาถะที่ไม่ใช่วัตถุดิบของสินค้า เช่น ค่าน้ำยาล้างจาน เผื่อตรงนี้ก็ดีครับ มันไม่มากหรอก แต่กำไร 2.50 บาทของท่านมันก็ไม่ได้มี gap ให้ใช้ตรงนี้เท่าไหร่นัก

5.ค่าแรงตัวเอง อันนี้สำคัญมากครับ เป็นจุดที่ทำให้ผมถอยมาจากธุรกิจตัวเองเลยก็ว่าได้ เพราะมันเหนื่อยมากครับ ขาย 4-5 ชม. แต่ต้องมีเวลาเตรียมของ ไปซื้อของ กลับมาเก็บล้าง วันนึงกลายเป็น 7-8 ชม. ซึ่งกำไรที่ได้มาสุดท้ายมันมากกว่าเงินเดือนเดิมก็จริงครับ แต่มากกว่าแค่ไม่ถึง 10% ซึ่งถ้าสมมติได้กำไรเดือนนั้น 20000 คิดค่าแรงตัวเองที่ทำทุกอย่างเป็น 2 แรง แรงละ 9000 2 แรงเท่ากับ 18000 เท่ากับจริงๆแล้วธุรกิจนี้เราได้เงินตอบแทนแค่ 2000 เองนะครับ ซึ่งน้อยมาก รวมถึงไม่มีสวัสดิการใดๆอีก แบบนี้สู้ไปสมัครทำงานร้านกาแฟแล้วบอกว่าขอค่าแรง 2 เท่า จะชงกาแฟเหมือนคนสองคนดีกว่าครับ

สุดท้ายอยากให้ลองคิดครับ จากที่ว่ามา เพราะอย่างที่บอก กำไร 50% ถือว่าไม่น้อย แต่พอคิดเป็นเม็ดเงินจริงๆ มันค่อนข้างน้อย และมันมีต้นทุนอื่นๆที่ท่านอาจจะลืมเผื่อไว้มากกว่านั้น ถ้าคำนวณดีๆแล้วยังมีกำไร และยังอยากขายราคานี้เพื่อเน้นปริมาณ ก็ได้ครับ แต่มันจะคุ้มมั้ยกับการลงทุนแค่นั้นเอง

ลองขายแพงขึ้นหน่อย หรือหาจุดเด่นอะไรขึ้นมาเพิ่มก็อาจจะเพิ่มกำไรได้ครับ โดยที่จำนวนไม้ที่ขายอาจจะลดลง

ขอบคุณงับ

คือเด่วนี้ไก่ไม้ละ 5บาทมันไมมีใครทำอแล้วนะคับ
10ปีที่แล้ว ผม อายุ 15ไก่ก็ไม้ละ 10 ละ
กำไร2.5บาท ขาย 200ไม้กำไร 500เองคับสหายยย
เหนื่อยนะคับ ขาย200ไม้เนี่ยอยู่ไม่ได้หรอกคับบ แล้ววันไหนฝนตกอีกละจะว่าไงนิ
กำไร500x30=15000
ทำงานประจำดีกว่าคับ ได้หยุดต่ำๆเดือนละ 4 วันด้วย
แล้วท่านจะเอาพื้นที่ที่ไหนขายไก่คับ ตามข้างทางข้างถนนเขามีเจ้าถิ่นทั้งนั้น

ที่ผม ลดราคามาเหลือ 5 บาท ผมมีเหตุผลอยู่นะครับ

1. หน้าร้านขายเสื้อของเพื่อน มีพื้นที่ว่างให้ผมนั่งขายได้ทั้งวัน (คุยแล้ว)

2. หน้าร้านมินิมาร์ทของป้า มีพื้นที่ว่างให้ผมนั่งขายได้ทั้งวัน (คุยแล้ว แถมยังมีตู้กับโต๊ะไว้พร้อมด้วยครับ)

ส่วน ที่พักผม ห่างจาก สองจุดนั้นประมาณ 300 เมตร ไม่เกินนั้นครับ

น่าจะลดต้นทุนเรื่องค่าเช่าได้เยอะครับ เพราะเช่าพื้นที่จากคนรู้จัก

เสียดายครับ ผมขายหน้าบ้านตัวเองไม่ได้ เพราะมันอยู่ในซอยไม่ติดถนนหลัก

ปล. ถ้าสมุติว่าขายดีจริงๆก็คงต้องหาที่เช่าใหม่อยู่เองเลยจริงๆครับ ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ ขายของกินนี้ยากจริงๆ

คือ ไม้ 10 บ. ลคเขาคิดเยอะนะครับ ถ้า 7 บ. ก็พอได้ แต่ถ้า 5 บ. โอ้โหถูกวะไรงี้อะ

ยังไงสุราษฏร์ มันสมบุรณ์อยู่แล้วด้วยครับ แถมเด็กๆยังมีกำลังซื้ออีก

แต่เรื่องวันหยุด หรือ ปิดเทอม ตรงนี้น่าคิดนะครับ

ไม่ไหวหรอกคับไม้ละ5ผมพูดจากใจเลย แค่เลี้ยงตัวเองยังไม่ได้เลยคับ

ไม้ละ5 กำไร2.5 ตีแบบสูงๆเลยได้200ไม้ ซึ่งบางวันอาจไม่ถึง กำไร500 แค่นี้มันก็ไม่พอแล้วอ่าคับถ้าท่านจะทำเปนงานประจำอะนะ
แต่ถ้าทำชำๆ อาชีพเสริมก็ลองดููคับ

จารย์สังข์ว่าไงก็ว่างั้นฮับ

แต่ผมว่า 7 บาท 3ไม้ 20 นี่โอเคนะ ได้กำไรเพิ่มอีกนิด แถมออกแกมบังคับสามไม้

งั้นต้องเพิมขนาดไก่ขึ้น แล้วก็ แตะราคา ไม้ละ 10 บ.

แต่ชิ้นละ 10 บ. ต้องดีจริง เด็กถึงจะซื้อ ผมคิดงี้นะ

แล้วผมจะยังใช้ 10 ไม้ แถม 1 20 ไม้ แถม 3 ได้หรือเปล่าครับ

ก็น่าจะได้นะ 3ไม้20 6ไม้40 9ไม้60 โคว้ต้า 10ไม้70 แถม 1 ไม้